เอเอฟพี - ชะตากรรมของสัตว์เลี้ยงแปลกๆ ใน "เนเวอร์แลนด์" ของไมเคิล แจ็กสัน รวมทั้งเจ้า"บับเบิลส์" ชิมแพนซีที่เคยเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดท่าเต้น "มูนวอล์ค" ยังแขวนอยู่บนเส้นด้ายรอคอยเงินบริจาคเพื่อความอยู่รอด
นอกเหนือจากมรดกทางดนตรีแล้ว ในช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ถึงขีดสุด แจ็กสันได้สร้างสวนสัตว์ส่วนตัวขึ้นใน "เนเวอร์แลนด์" มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้เป็นที่พักพิงของเหล่าสัตว์เลี้ยง ซึ่งมีทั้งยีราฟ เสือ และสัตว์ต่างถิ่นอีกมากมาย
ทว่าในระยะหลายปีที่ผ่านมา สัตว์เกือบทั้งหมดต้องถูกโยกย้ายไปไว้ตามที่ต่างๆ เนื่องจากสถานะทางการเงินของแจ็กสันย่ำแย่ลง แม้แต่เจ้าชิมแพนซี "บับเบิลส์" ที่เคยนอนร่วมห้องกับแจ็กสัน ก็ย้ายไปอยู่ที่ศูนย์ลิงเอปขนาดใหญ่ ในฟลอริดาตั้งแต่ปี 2005 แล้ว
แพตตี แรแกน ผู้อำนวยการศูนย์ดังกล่าวบอกว่าแจ็กสันไม่ได้ให้เงินช่วยเหลือ "เจ้าบับเบิลส์" อีก รวมทั้งไม่เคยไปเยี่ยมมัน แม้เคยบอกว่าต้องการจะไป
"จนถึงทุกวันนี้ เงินช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ทั้งหมดมาจากผู้บริจาคสนับสนุน เราจำเป็นต้องพึ่งเงินบริจาคเพื่อดูแลส้ตว์ทั้งหมดของเรา" แรแกนกล่าวและว่าการดูแลลิงใหญ่ตัวหนึ่งจะต้องใช้เงินราวปีละ 16,000 ดอลลาร์ และโดยปกติแล้วลิงใหญ่จะมีอายุเฉลี่ยราว 50 ปี
ทั้งนี้ ภาพเจ้าบับเบิลส์บนเว็บไซต์ของศูนย์ ดึงดูดใจให้ผู้คนช่วยกันบริจาคเงินให้กับมันและสัตว์อื่นๆในศูนย์ฯ ซึ่งจัดสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติให้เป็นที่อยู่สำหรับลิงใหญ่ที่เคยถูกเลี้ยงไว้ใช้ในการแสดงต่างๆ หรือเคยเป็นสัตว์เลี้ยงมาก่อน
ก่อนหน้านี้แจ็กสันได้ช่วยเจ้าบับเบิลส์ให้รอดพ้นจากการเป็นสัตว์ทดลองในศูนย์วิจัยทางการแพทย์ของรัฐเทกซัส เขาซื้อมันต่อมาจากบ๊อบ ดันน์ นักฝึกสัตว์คนหนึ่งของฮอลลีวูด แต่แจ็กสันได้ส่งคืนบับเบิลส์ให้กับดันน์หลังจากที่ตัวเขาเองมีลูก เพราะเกรงว่าอาจได้รับอันตรายจากชิมแพนซีขนาดใหญ่
ดันน์ยังไม่ได้กล่าวถึงเรื่องเหล่านี้แต่อย่างใด เพราะเขากำลังเจรจาเรื่องค่าตอบแทนสำหรับการเปิดเผยเรื่องเกี่ยวกับเจ้าบับเบิลส์ต่อสาธารณชนอยู่ แต่ศูนย์เพื่อลิงเอปขนาดใหญ่ฯ กล่าวว่าดันน์ได้มอบเจ้าบับเบิลส์รวมทั้งลิงใหญ่อื่นๆ ให้กับศูนย์เมื่อปี 2005 เมื่อเขาเลิกธุรกิจแขนงนี้
มีข่าวว่าดันน์ให้ข่าวกับหนังสือพิมพ์นิวส์ ออฟ เดอะ เวิร์ลด์ในอังกฤษ ว่าแจ็กสันคิดว่าบับเบิลส์เป็น "ลูกชายคนแรกของเขา" และแวะเวียนไปเยี่ยมมันอย่างสม่ำเสมอเมื่อครั้งที่ดันน์ยังเป็นผู้ดูแลมันอยู่
ส่วนกลุ่มรณรงค์สิทธิสัตว์ "ผู้คนเพื่อการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีจริยธรรม" หรือ "พีต้า" กล่าวว่าเป็นการยากที่จะติดตามหาสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ของแจ็กสันในอดีต อีกทั้งยังแสดงความห่วงใยต่ออุรังอุตังสองตัวที่ถูกส่งไปอยู่กับเจ้าของใหม่ที่เป็นเอกชนในคอนเนกติคัต รวมทั้งพวกสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลายในสวนสัตว์ริมถนนในโอคลาโฮมาด้วย
กลุ่มดังกล่าวบอกอีกว่า "กรณีของแจ็กสันชี้ให้เห็นว่าเราไม่ควรนำสัตว์ป่ามาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะถึงแม้ผู้เลี้ยงจะมีความตั้งใจดี แต่ก็อาจไม่มีความสามารถที่จะดูแลสัตว์เหล่านี้ได้ตลอด และเมื่อแจ็กสันมีปัญหาหนี้สิน สัตว์เลี้ยงทั้งหมดก็ต้องถูกแยกย้ายไปยังที่ต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าชะตากรรมในอนาคตจะเป็นอย่างไร"
เมื่อเดือนมกราคม 2006 พีต้าเคยร้องเรียนต่อทางการสหรัฐฯ ว่าสัตว์ใน "เนเวอร์แลนด์" ได้รับการดูแลอย่างผิดวิธี แต่เมื่อมีการสอบสวนก็ไม่พบหลักฐานที่จะเอาผิดได้
ขณะนี้เสือสองตัวของแจ็กสันชื่อ "ทริลเลอร์" และ "ซาบู" ถูกส่งไปอยู่ในเขตคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย ส่วนมูลนิธิเสียงเพื่อสัตว์ป่า ซึ่งเป็นผู้ดูแลเขตคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งหนึ่งในแอริโซนา ได้รับสัตว์เลี้ยงของแจ็กสันบางส่วนไป ได้แก่ ยีราฟสี่ตัว สัตว์เลื้อยคลาน และนกต่างถิ่นอีกจำนวนหนึ่ง
นอกเหนือจากมรดกทางดนตรีแล้ว ในช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ถึงขีดสุด แจ็กสันได้สร้างสวนสัตว์ส่วนตัวขึ้นใน "เนเวอร์แลนด์" มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้เป็นที่พักพิงของเหล่าสัตว์เลี้ยง ซึ่งมีทั้งยีราฟ เสือ และสัตว์ต่างถิ่นอีกมากมาย
ทว่าในระยะหลายปีที่ผ่านมา สัตว์เกือบทั้งหมดต้องถูกโยกย้ายไปไว้ตามที่ต่างๆ เนื่องจากสถานะทางการเงินของแจ็กสันย่ำแย่ลง แม้แต่เจ้าชิมแพนซี "บับเบิลส์" ที่เคยนอนร่วมห้องกับแจ็กสัน ก็ย้ายไปอยู่ที่ศูนย์ลิงเอปขนาดใหญ่ ในฟลอริดาตั้งแต่ปี 2005 แล้ว
แพตตี แรแกน ผู้อำนวยการศูนย์ดังกล่าวบอกว่าแจ็กสันไม่ได้ให้เงินช่วยเหลือ "เจ้าบับเบิลส์" อีก รวมทั้งไม่เคยไปเยี่ยมมัน แม้เคยบอกว่าต้องการจะไป
"จนถึงทุกวันนี้ เงินช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ทั้งหมดมาจากผู้บริจาคสนับสนุน เราจำเป็นต้องพึ่งเงินบริจาคเพื่อดูแลส้ตว์ทั้งหมดของเรา" แรแกนกล่าวและว่าการดูแลลิงใหญ่ตัวหนึ่งจะต้องใช้เงินราวปีละ 16,000 ดอลลาร์ และโดยปกติแล้วลิงใหญ่จะมีอายุเฉลี่ยราว 50 ปี
ทั้งนี้ ภาพเจ้าบับเบิลส์บนเว็บไซต์ของศูนย์ ดึงดูดใจให้ผู้คนช่วยกันบริจาคเงินให้กับมันและสัตว์อื่นๆในศูนย์ฯ ซึ่งจัดสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติให้เป็นที่อยู่สำหรับลิงใหญ่ที่เคยถูกเลี้ยงไว้ใช้ในการแสดงต่างๆ หรือเคยเป็นสัตว์เลี้ยงมาก่อน
ก่อนหน้านี้แจ็กสันได้ช่วยเจ้าบับเบิลส์ให้รอดพ้นจากการเป็นสัตว์ทดลองในศูนย์วิจัยทางการแพทย์ของรัฐเทกซัส เขาซื้อมันต่อมาจากบ๊อบ ดันน์ นักฝึกสัตว์คนหนึ่งของฮอลลีวูด แต่แจ็กสันได้ส่งคืนบับเบิลส์ให้กับดันน์หลังจากที่ตัวเขาเองมีลูก เพราะเกรงว่าอาจได้รับอันตรายจากชิมแพนซีขนาดใหญ่
ดันน์ยังไม่ได้กล่าวถึงเรื่องเหล่านี้แต่อย่างใด เพราะเขากำลังเจรจาเรื่องค่าตอบแทนสำหรับการเปิดเผยเรื่องเกี่ยวกับเจ้าบับเบิลส์ต่อสาธารณชนอยู่ แต่ศูนย์เพื่อลิงเอปขนาดใหญ่ฯ กล่าวว่าดันน์ได้มอบเจ้าบับเบิลส์รวมทั้งลิงใหญ่อื่นๆ ให้กับศูนย์เมื่อปี 2005 เมื่อเขาเลิกธุรกิจแขนงนี้
มีข่าวว่าดันน์ให้ข่าวกับหนังสือพิมพ์นิวส์ ออฟ เดอะ เวิร์ลด์ในอังกฤษ ว่าแจ็กสันคิดว่าบับเบิลส์เป็น "ลูกชายคนแรกของเขา" และแวะเวียนไปเยี่ยมมันอย่างสม่ำเสมอเมื่อครั้งที่ดันน์ยังเป็นผู้ดูแลมันอยู่
ส่วนกลุ่มรณรงค์สิทธิสัตว์ "ผู้คนเพื่อการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีจริยธรรม" หรือ "พีต้า" กล่าวว่าเป็นการยากที่จะติดตามหาสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ของแจ็กสันในอดีต อีกทั้งยังแสดงความห่วงใยต่ออุรังอุตังสองตัวที่ถูกส่งไปอยู่กับเจ้าของใหม่ที่เป็นเอกชนในคอนเนกติคัต รวมทั้งพวกสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลายในสวนสัตว์ริมถนนในโอคลาโฮมาด้วย
กลุ่มดังกล่าวบอกอีกว่า "กรณีของแจ็กสันชี้ให้เห็นว่าเราไม่ควรนำสัตว์ป่ามาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะถึงแม้ผู้เลี้ยงจะมีความตั้งใจดี แต่ก็อาจไม่มีความสามารถที่จะดูแลสัตว์เหล่านี้ได้ตลอด และเมื่อแจ็กสันมีปัญหาหนี้สิน สัตว์เลี้ยงทั้งหมดก็ต้องถูกแยกย้ายไปยังที่ต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าชะตากรรมในอนาคตจะเป็นอย่างไร"
เมื่อเดือนมกราคม 2006 พีต้าเคยร้องเรียนต่อทางการสหรัฐฯ ว่าสัตว์ใน "เนเวอร์แลนด์" ได้รับการดูแลอย่างผิดวิธี แต่เมื่อมีการสอบสวนก็ไม่พบหลักฐานที่จะเอาผิดได้
ขณะนี้เสือสองตัวของแจ็กสันชื่อ "ทริลเลอร์" และ "ซาบู" ถูกส่งไปอยู่ในเขตคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย ส่วนมูลนิธิเสียงเพื่อสัตว์ป่า ซึ่งเป็นผู้ดูแลเขตคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งหนึ่งในแอริโซนา ได้รับสัตว์เลี้ยงของแจ็กสันบางส่วนไป ได้แก่ ยีราฟสี่ตัว สัตว์เลื้อยคลาน และนกต่างถิ่นอีกจำนวนหนึ่ง
