xs
xsm
sm
md
lg

กทม.จับมือร้านขายยาคัดกรอง-ส่งต่อผู้ป่วยเข้าสถานพยาบาลลดปัญหาสุขภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กทม.จับมือร้านขายยา 200 แห่งทั่วกรุงร่วมคัดกรอง ส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงทีป้องกัน ภัยเงียบคุกคาม เริ่ม 1 มิ.ย.นี้ พร้อมพัฒนาระบบออนไลน์ข้อมูลศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.68 แห่ง เชื่อมต่อโรงพยาบาล กทม.ทั้ง 9 แห่ง อำนวยความสะดวกผู้ป่วย


นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สำนักอนามัย กทม.ร่วมกับสมาคมเภสัชกรรมชุมชน และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จัดทำโครงการร้านยาเครือข่ายสำนักอานามัย กทม.เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างร้านยาเภสัชกรรมชุมชนกับสำนักอนามัย และศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ในการป้องกันโรคและดูแลสุขภาพประชาชน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดปัญหาสุขภาพโดยตรง ลดงบประมาณการรักษาพยาบาล และยกระดับคุณภาพชีวิตของชาว กทม.เนื่องจากร้านขายยาเป็นสถานที่แรกที่ผู้ป่วยตัดสินใจใช้บริการเบื้องต้น เจ็บป่วยอะไรก็จะต้องไปซื้อยาที่ร้านขายยาก่อน
 
ต่อไปนี้ร้านขายยาจะต้องทำหน้าที่คัดกรองผู้ป่วยและซักประวัติ เช่น เป็นโรคหวัด เภสัชกรประจำร้านจะต้องซักประวัติผู้ป่วยว่าได้มีการสัมผัสสัตวปีกหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ทราบได้ว่าผู้ป่วยรายนี้มีความเสี่ยงเพื่อที่จะได้ส่งต่อไปยังศูนย์บริการสาธารณสุขเพื่อวินิจฉัยโรค และให้รับการรักษาที่ถูกต้อง อีกทั้งเพื่อให้สำนักอนามัยดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างทันท่วงที เพื่อเฝ้าระวังโรคไม่ให้ติดต่อชุมชน รวมถึงเป็นช่องทางกระจายข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพจากกทม.ไปยังประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดย อย.ให้การสนับสนุนทางด้านวิชาการ นอกจากนี้ กทม.ได้พัฒนาศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่งของ กทม.ให้สามารถเชื่อมต่อข้อมูลออนไลน์กับโรงพยาบาลสังกัด กทม.ทั้ง 9 แห่งซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยได้รับความสะดวกเพราะทั้งศูนย์ฯและโรงพยาบาลของ กทม.มีข้อมูลของผู้ป่วยเหมือนกันไม่ว่าผู้ป่วยจะเข้ารับการรักษาที่ใดก็ตาม

ด้านเภสัชกรธีรวุฒิ พงศ์เศรษฐไพศาล นายกเภสัชกรรมชุมชน กล่าวว่า ในเบื้องต้นจะมีร้านยาที่มีเภสัชกรประจำร้านจำนวน 200 แห่งที่เป็นร้านยาเครือข่ายสำนักอนามัย กทม.กระจายรอบศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทั้ง 68 แห่งโดยจะมีการติดป้ายสัญลักษณ์บอกไว้อย่างชัดเจนซึ่งทุกร้านจะช่วยคัดกรอง ส่งต่อและให้ความรู้กับผู้ที่มีความเสี่ยงในโรคติดต่อร้ายแรงและโรคติดต่อเรื้อรังเข้าสู่ระบบการรักษาที่ถูกต้อง รวมทั้งการรายงานข้อมูลการระบาดของโรค โดยที่ผ่านมาร้านยากว่า 30 ร้าน ซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมเภสัชกรรมชุมชนได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขคัดกรองผู้ป่วยซึ่งเพียงแค่ 5 วัน สามารถคัดกรองได้ 1,605 คน มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง 542 คน หรือคิดเป็นกว่า 30% ของจำนวนผู้ป่วย ทั้งนี้ ทางสมาคมจะจัดประชุมชี้แจงร้านยาที่เข้าร่วมโครงการก่อนที่จะดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในโครงการอย่างเต็มที่ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น