ฝนกระหน่ำกรุง รัชดาภิเษกอัมพาต ดินแดง “ลูกเห็บตก”

ฝนกระหน่ำกรุงทำจราจรถนนรัชดาภิเษกอัมพาต ต้นไม้ใหญ่โค่นทับรถยนต์พังหลายคัน ขณะที่ชาวบ้านแจ้งลูกเห็บทำหลังคาบ้านเสียหาย ส่วนกทม.พร้อมออกประกาศมาตรการเตือนภัยให้ประชาชนพร้อมรับมือ

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.มีพายุฝนตกหนักในพื้นที่เขตดินแดง และเขตห้วยขวาง ซึ่งที่เขตดินแดงมีรายงานด้วยว่ามีลูกเห็บตกลงมาด้วย และมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่โค่นล้มลงมาขวางเส้นทางจราจรในซอยอินทามระ 38 ขณะเดียวกัน ยังมีต้นไม้ใหญ่หักโค่นลงมาล้มทับรถยนต์หลายคันภายในกระทรวงแรงงาน เขตดินแดง อีกด้วย ทั้งนี้ ฝนที่กระหน่ำตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง และรอการระบายอย่างเร่งด่วนบนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งทำให้การจราจรในเขตดินแดงติดหนัก

อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้สำนักงานเขตเข้าไปตรวจสอบพื้นที่และเร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วน แต่ยังไม่มีรายงานป้ายโฆษณาล้มแต่อย่างใด

นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ส่วนเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ก็มีพายุฝนตกหนักในหลายพื้นที่เช่นกัน ทำให้มีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ล้มลงมาในเขตพญาไท ซึ่งเขตและสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม.ได้เข้าไปรื้อถอนแล้ว ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าป้ายดังกล่าวมีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายเมื่อปี 2537

อย่างไรก็ตาม ในเย็นวันนี้ (17 เม.ย.) ตนได้สั่งการให้ สปภ.ออกประกาศแจ้งเตือนและมาตรการป้องกันภัยที่เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมรับมือและป้องกันภัยได้ ทั้งนี้ ตนอยากในช่วงที่มีพายุฤดูร้อน และฝนตกหนักประชาชนไม่ควรไปหลบฝนใต้ป้ายโฆษณา เพราะอาจมีป้ายล้ม หรือเกิดอุบัติเหตุได้

ด้านนายพรเทพ อัครวรกุลชัย ผอ.เขตดินแดง กล่าวว่า จากการที่มีฝนตกหนักในช่วงบ่ายของวันนี้ ทำให้ในซอยอินทามระ 38, 40 มีต้นไม้ขนาดใหญ่หักล้มลงมากลางซอย กีดขวางการจราจร ขณะนี้ตนได้สั่งการเจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่เร่งตัดแต่งกิ่งไม้ทั้งที่กีดขวางและพันสายไฟให้ออกจากบริเวณดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ มีรายงานต้นไม้ล้มทับรถยนต์ได้รับความเสียหายในซอยประชาสงเคราะห์ 15 ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน ยังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในซอยอินทามระ 38 ว่า มีลูกเห็บตกลงมาทำให้หลังคาบ้านได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ออกประกาศเรื่องการปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากพายุฝนฟ้าคะนอง เพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน และเตรียมการหลบเลี่ยงอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง 7 ข้อดังนี้ คือ 1.กรณีพบเหตุความเสียหายอันเกิดจากพายุฝนฟ้าคะนอง เช่น ป้ายโฆษณาพัง ต้นไม้ล้ม เสาไฟฟ้าโค่นหัก เป็นต้น ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครทันทีที่หมายเลขโทรศัพท์ 199 2.ขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองควรอยู่ภายในอาคารบ้านเรือนที่มีความมั่นคงแข็งแรงจนกว่าสถานการณ์จะยุติลง ถ้าอยู่ในตึกหรืออาคารสูงให้หลีกเลี่ยงการใช้ลิฟต์ขึ้น-ลง และควรใช้บันไดแทน เนื่องจากอาจเกิดไฟฟ้าดับ ทำให้ติดค้างอยู่ภายในลิฟต์ได้

3.กรณีที่อยู่ในที่โล่งแจ้ง ไม่ควรเข้าไปใต้ต้นไม้ยืนต้น หรือเพิงที่อยู่โดดเดี่ยว และควรหลีกเลี่ยงหรือระงับการทำกิจกรรมกลางแจ้งทันที เนื่องจากพื้นที่ที่เปียกจะเป็นสื่อและเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าได้มากขึ้น 4.ควรให้คำแนะนำบุตรหลาน เด็กเล็กให้อยู่ห่างจากวัตถุที่เป็นสื่อไฟฟ้าทุกชนิด เช่น ลวด โลหะ ท่อน้ำ แนวรั้วบ้าน อุปกรณ์ทำสวน เป็นต้น ในกรณีที่พบเห็นสายไฟฟ้า หรือสายโทรศัพท์ขาด ตกห้อยพาดตามพื้นถนนไม่ควรหยิบจับหรือเข้าใกล้ เพราะอาจเป็นอันตรายจากการถูกไฟฟ้าดูดได้ ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาดำเนินการแก้ไข

5.ไม่ควรใส่เครื่องประดับโลหะ เช่น ทองเหลือง ทองแดง ในที่โล่งแจ้ง หรือถือวัตถุโลหะในขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง เพราะวัตถุดังกล่าวจะเป็นสื่อให้เกิดฟ้าผ่าลงมาที่ตัวได้ 6.ควรงดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์ และงดใช้โทรศัพท์ชั่วคราว ยกเว้นในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพราะฟ้าอาจผ่าลงมาที่เครื่องโทรทัศน์และสายโทรศัพท์ได้ 7.ควรดูแลสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายนอกบ้านให้อยู่ในสภาพที่มั่นคง แข็งแรง และปลอดภัยเสมอ โดยเฉพาะสิ่งที่อาจจะโค่นหักหรือพังลงมา เช่น ป้ายโฆษณา เป็นต้น และหากพบเห็นกิ่งไม้ที่ไม่แข็งแรง หรือพาดอยู่บนสายไฟ หรือพบเห็นสิ่งปลูกสร้างใดๆ ที่ไม่แข็งแรงและอาจเกิดการโค่นหักจากลมพายุได้ ให้รีบโทรศัพท์แจ้งหมายเลข 199 หรือแจ้งสำนักงานเขตท้องที่ เพื่อดำเนินการแก้ไขและให้ความช่วยเหลือต่อไป

นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า ขณะนี้กทม.ได้เร่งรัดการรื้อถอนป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่ไม่ได้รับการอนุญาตให้ติดตั้ง จำนวน 270 ป้าย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เขตลาดกระบังจำนวนถึง 35 ป้าย ซึ่งกทม.ได้มีหนังสือแจ้งให้เจ้าของป้ายทั้งหมดรื้อถอนแล้ว โดยส่วนหนึ่งเจ้าของจะรื้อถอนเอง นอกนั้นกทม.จะรื้อถอนโดยตั้งงบประมาณไปก่อนแล้วค่อยเรียกเก็บกับเจ้าของป้ายทีหลัง ซึ่งในระหว่างที่ดำเนินการนั้นหากมีเหตุป้ายล้ม แล้วก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตทรัพย์สินผู้อื่น เจ้าของป้ายต้องรับผิดชอบทั้งหมด แต่ในการรื้อย้ายนั้นกทม.จะอำนวยความสะดวกด้านการกันพื้นที่ การอำนวยการจราจรให้ ทั้งนี้ที่ผ่านมามีการรื้อถอนป้ายไปแล้วจำนวน 35 ป้าย คงเหลือ 235 ป้ายที่ต้องเร่งรัด

ทั้งนี้ขอให้ทุกเขตพื้นที่ดำเนินการตามประกาศเรื่องการปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากพายุฝนฟ้าคะนอง เพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน และเตรียมการหลบเลี่ยงอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ทั้ง 7 ข้ออย่างเคร่งครัด ส่วนหนึ่งให้ตรวจสอบในพื้นที่ว่ามีป้ายที่ไม่มั่นคงแข็งแรงหรือไม่ หากมีให้รีบดำเนินการโดยด่วน ส่วนการตัดแต่งกิ่งต้นไม้นั้นให้ประสานกับการไฟฟ้านครหลวงให้เข้าตัดแต่งแล้วเสร็จโดยเร็ว

ขณะเดียวกันกทม.จะประสานการดำเนินการกับกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ผลักดันกฎกระทรวงบังคับใช้กับป้ายโฆษณาให้สามารถรับแรงลมได้จากเดิม 50 กิโลกรัมต่อตารางเมตร เป็น 150 กิโลกรัมต่อตารางเมตรในความสูงไม่เกิน 10 เมตร และ 180 กิโลกรัมต่อตารางเมตรในความสูงเกิน 10 เมตร ส่วนการอนุญาตให้กับผู้ประกอบการป้ายนั้นต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

ล่าสุด จากรายงานของหน่วย Best กทม. พบว่ามีลูกเห็บตกใน 3 จุด คือ ที่เขตห้วยขวาง ดินแดง และบางแค ขนาดปลายนิ้วก้อย นอกจากนี้ยังมีป้ายโฆษณาล้มที่บริเวณปากซอยวิภาวดีรังสิต 6 ถนนรังสิต เขตดินแดง ป้ายโฆษณาโค้นล้มบริเวณชุมชนริมทางรถไฟมักกะสัน เขตราชเทวี และป้ายโฆษณาขนาดใหญ่พังลงมาหน้าห้างเดอะมอลล์ บางแค เขตบางแค ต้นยางโค่นล้ม บริเวณปากซอยพหลโยธิน 6 เขตพญาไท