“ไชยา” น้ำตาคลอ เสียงอ่อยยืนยันบริสุทธิ์ มั่นใจทำถูกต้อง ขอดูผลตัดสิน ป.ป.ช.ก่อนเข้าชี้แจงนายกฯ สมัคร พร้อมระบุยังไม่ได้ตัดสินใจทางการเมือง
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติกรณีการถือหุ้นเกิน 5% ของภรรยานายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขัดต่อกฎหมายและขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมมาตรา 269 ด้วยเสียงค่อยๆ พร้อมกับมีน้ำตาคลอเบ้าว่า ตนยังไม่ทราบเรื่อง เห็นบอกว่า ป.ป.ช.มีคำสั่งออกมาแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ชี้แจงกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพราะเรื่องยังมาไม่ถึงก็เลยยังไม่ได้ชี้แจง
ต่อข้อถามว่าจะสามารถอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง นายไชยา กล่าวว่า “ผมยังบอกว่า ผมบริสุทธิ์ใจเป็นที่ตั้ง เป็นเรื่องที่ต้องดูรายละเอียด ซึ่งผมยื่นบัญชีทรัพย์สินตามที่กำหนดภายในจาก 30 วันไปแล้ว มั่นใจว่าทำถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ ป.ป.ช.ยื่นหนังสือให้มาชี้แจงก่อน”
เมื่อถามว่าจะค้านผลคำตัดสินของ ป.ป.ช.หรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ยังไม่ทราบต้องรอให้เรื่องออกมาก่อนต้องดูในรายละเอียด ซึ่งไม่ทราบขั้นตอน คาดว่า น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะส่งไปที่สภาเพื่อถอดถอน แต่เมื่อยังไม่รู้โจทย์ก็ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามได้อย่างไร ส่วนเรื่องถอดถอนก็ยังไม่ทราบยังไม่รู้ขั้นตอนและคาดว่า น.ส.สมลักษณ์จะต้องส่งรายงานไปที่นายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งตนจะรีบไปชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าหาก ป.ป.ช.มีคำสั่งให้ออกจากตำแหน่ง รมว.สธ.คิดว่าเป็นธรรมหรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าคำวินิจฉัยจะออกมาแบบใดจึงคาดเดายาก คงต้องรอให้ผลออกมาก่อน แต่ยืนยันว่าทำถูกต้อง ซึ่งผลจะออกมาในบ่ายวันนี้ไม่ใช่หรือ
ถามว่า ทำไมจึงมีการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินไม่ถูกต้อง นายไชยา กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนยื่นข้อมูลทั้งหมดไปแล้วตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทำตามกฎหมายลูกของรัฐธรรมนูญปี 2540 เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2550 ยังไม่มีกฎหมายลูกออกมาบังคับใช้
เมื่อถามว่า เมื่อ ป.ป.ช.ตัดสินแล้วพร้อมรับหรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ต้องดูก่อนว่า ป.ป.ช.ตัดสินอย่างไร และเมื่อถามว่าจะดูเจตนาวินิจฉัยของ ป.ป.ช.อย่างไร นายไชยา กล่าวว่า ต้องดูคำตัดสินก่อน เดี๋ยวไปเช็กงานก่อนงานเยอะ พรุ่งนี้ไปใต้ จากนั้นนายไชยาก็ขึ้นลิฟต์ไปยังที่ทำงานซึ่งอยู่ชั้น 4