“สมอง” ส่วนที่สำคัญที่สุดของร่างกาย เป็นเสมือนศูนย์สั่งการหลักของร่างกาย เป็นอวัยวะที่ต้องทำงานตลอดเวลาและตลอดชีวิตของเจ้าของ แม้ว่าจะมีบางช่วงที่ได้ผ่อนคลาย แต่การใช้สมองตลอดเวลา ก็จำเป็นจะต้องเสริมสร้างความแข็งแรงให้สมองเช่นกัน ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่ที่คนจำนวนมากยังไม่ทราบก็คือ สมองก็เป็นเช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆ ที่ออกกำลังกายได้เช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านไคโรแพรกติก จะมาแนะนำวิธีออกกำลังสมองเพื่อทำให้ประสิทธิภาพของสมองดีขึ้น
ดร.ทอม สมิธ ไคโรแพรกเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง แนะนำวิธีการออกกำลังกายเพิ่มพลังสมองที่เด็กๆ สามารถทำได้ง่ายๆ และได้ผล เพื่อส่งผลให้โครงสร้างของร่างกายทำงานได้มีประสิทธิภาพ โดยมีด้วยกัน 6 ท่าออกกำลังกาย
ท่าแรกคือ “ท่าปุ่มสมอง” เป็นท่าออกกำลังกายกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต โดยเฉพาะเส้นเลือดใหญ่บริเวณลำคอ เริ่มด้วยการวางมือข้างหนึ่งแบไว้ตรงสะดือ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งให้นวดเบาๆ บริเวณร่องบุ๋มที่อยู่ระหว่างซี่โครงซี่แรกกับซี่ที่สองใต้กระดูกไหปลาร้า ท่านี้จะช่วยให้สมองตื่นตัว เพิ่มสมาธิและการรับรู้
ท่าที่สอง คือ ท่าเคลื่อนไหล่สลับข้าง เป็นท่าที่กระตุ้นให้สมองสองซีกทำงาน โดยเด็กๆ ต้องย่ำเท้าอยู่กับที่ ยกไหล่ให้สูง ศอกซ้าย แตะเข่าขวา และศอกขวาแตะเข่าซ้าย สลับกัน ท่านี้จะช่วยเพิ่มเซลล์สมอง และช่วยให้สมองสองด้านสื่อสารถึงกันได้ดีและรวดเร็ว สามารถรวบรวมข้อมูลได้ดี เพิ่มประสิทธิภาพความจำให้ดีขึ้น และรวมถึงทำให้เรียนรู้ได้ดีขึ้นด้วย
ท่าที่สาม ท่าเกี่ยวตะขอ เป็นท่าที่ช่วยให้สมองทำงานประสานการมากขึ้น และช่วยกระตุ้นการรับรู้ของสมองส่วนที่ทำหน้าที่รับสัมผัส โดยท่านี้จะมีความซับซ้อนอยู่สักหน่อย เริ่มจากเด็กๆ จะต้องยืนไขว้มือสองข้างให้ประสานกัน เหยียดแขนออกไปด้านหน้า นิ้วโป้งชี้ลงพื้นแล้วพลิกมือม้วนเข้าหาตัว พักไว้ที่หน้าอก ทิ้งศอกลงสองข้าง ที่สำคัญคือ ผู้ที่ออกกำลังกายอยู่จะต้องกระดกลิ้นติดเพดานปาก เป็นการกระตุ้นประสาทเส้นเอ็นบริเวณลิ้น เพื่อกระตุ้นศูนย์ควบคุมระดับการรู้สึกตัว เป็นการสร้างสมาธิเพิ่มความสมดุลและเพิ่มความจดจำด้วย
ท่าที่สี่ “ท่าหมวกความคิด” เป็นท่ากระตุ้นระบบประสาทที่เกี่ยวเนื่องกับการได้ยิน โดยเด็กๆ จะต้องนวดใบหูด้านนอก ตั้งแต่บนสุด ลงล่างสุด เพื่อปลุกกลไกการได้ยินให้มีความตื่นตัว ทำให้ความจำดีขึ้น
ท่าที่ห้า “ท่าหาวเพิ่มพลัง” เป็นท่ากระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อบนใบหน้าทั้งหมด โดยท่านี้เด็กๆ จะต้องทำท่าเหมือนหาว จากนั้นนวดคลึงกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร เพื่อกระตุ้นการทำงานของศูนย์ควบคุมระดับคงามรู้สึก ปลุกสมองให้ตื่นตัวและมีสมาธิ
ท่าสุดท้าย “ท่าเลขแปดหลังยาวสำหรับการมอง” เป็นท่าการพัฒนาการเคลื่อนไหวของดวงตา เพื่อให้เกิดการประสานงานของมือและตา เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจำ มีความสงบเยือกเย็น มีสมาธิ เหมาะสำหรับเด็กที่สนใจด้านศิลปะหรือเล่นเปียโน โดนท่านี้กำหนดให้ชูนิ้วหัวแม่มือข้างหนึ่งไว้กลางระดับสายตา หายประมาณช่วงศอก ตั้งศีรษะนิ่ง ไม่เกร็ง ตามองตามนิ้วที่เคลื่อนตลอด โดยลากนิ้วหัวแม่มือขึ้นไปด้านบนของขอบเขตสายตา และลากทวนเข็มนาฬิกามาด้านซ้าย จนกระทั่งวนนิ้วมาถึงจุดต่ำสุด จากนั้นหมุนย้อนเข็มผ่านจุดกึ่งกลางไปทางขวา โดยทำทีละข้าง
