“พงศกร” ชูโครงการ “สภานักเรียนไทยหัวใจสมานฉันท์” นำตัวแทนเด็กนักเรียนทั่วประเทศ ไปแสดงความคิดเห็นในรัฐสภา เพื่อเห็นสภาพปัญหาที่แท้จริง ด้าน “คุณหญิงกษมา” เผยปีนี้คงไม่ทันนำเด็กไปแสดงความคิดเห็นในสภา อาจต้องเป็นปี 2552
นายพงศกร อรรณพพร รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมข้อคิดเห็นและให้โอวาทในโครงการสภานักเรียนไทยหัวใจสมานฉันท์ ที่โรงเรียนศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ว่า โครงการดังกล่าวถือได้ว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ซึ่งข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ ที่เยาวชนได้นำเสนอมานั้น มีหลายสิ่งที่ทำให้ผู้ใหญ่ต้องนำไปปฏิบัติ เพื่อสะท้อนปัญหาอย่างแท้จริงออกมาให้สังคมได้รับรู้ ดังนั้น หากเราต้องการทราบปัญหาหรือความเคลื่อนไหวใดๆในประเทศคงต้องมาสอบถามจากเด็กและเยาวชน และเมื่อทราบปัญหาเหล่านั้นแล้วก็จะสามารถช่วยกันแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ตนเห็นว่าโครงการสภานักเรียนไทยหัวใจสมานฉันท์ เป็นโครงการฯ ที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอยากให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้ได้เห็นภาพจริงของการบริหารประเทศด้วย
สำหรับเรื่องที่เยาวชนได้พูดถึงปัญหายาเสพติดในโรงเรียนนั้น ตนเชื่อว่านักเรียนพูดจริง และก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องรับผิดชอบดูแลปัญหานี้ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขต่อไป อย่างไรก็ตามจะมีการประสานงานกับรัฐสภา ในการนำเด็กและเยาวชนออกไปสะท้อนปัญหาต่างๆ ในรัฐสภา ซึ่งจะทำให้ทุกคนได้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมจริงๆ เป็นอย่างไร
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า การนำเด็กและเยาวชนไปออกความคิดเห็นในรัฐสภานั้น เรื่องนี้ตนเชื่อว่าเป็นความใฝ่ฝันของเด็กๆ แต่ละคนมาช้านาน เพราะถือเป็นสุดยอดแห่งความต้องการของนักเรียน แต่คิดว่าคงไม่สามารถดำเนินการได้ในปีนี้ คงต้องเลื่อนไปเป็นปี 2552 ส่วนข้อเสนอต่างๆ ในที่ประชุมนั้นนักเรียนได้มีการเสนอโครงการต่างๆ เช่น โครงการถนนสีขาว การผลิตคลิปวิดีโอสร้างสรรค์ เป็นต้น ซึ่งโครงการเหล่านี้สามารถทำได้จริงแน่นอน สำหรับปัญหายาเสพติดในสถานศึกษานั้น ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ทำหนังสือกำชับไปยังโรงเรียนต่างๆแล้ว เพื่อให้มีการสำรวจเป็นรายโรงว่า โรงเรียใดมีเด็กที่อยู่ในพฤติกรรมเสี่ยงที่จะมียาเสพติด โดยให้โรงเรียนออกไปหาข้อมูลจากแหล่งอื่นๆในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขต่อไป
นายพงศกร อรรณพพร รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมข้อคิดเห็นและให้โอวาทในโครงการสภานักเรียนไทยหัวใจสมานฉันท์ ที่โรงเรียนศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ว่า โครงการดังกล่าวถือได้ว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ซึ่งข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ ที่เยาวชนได้นำเสนอมานั้น มีหลายสิ่งที่ทำให้ผู้ใหญ่ต้องนำไปปฏิบัติ เพื่อสะท้อนปัญหาอย่างแท้จริงออกมาให้สังคมได้รับรู้ ดังนั้น หากเราต้องการทราบปัญหาหรือความเคลื่อนไหวใดๆในประเทศคงต้องมาสอบถามจากเด็กและเยาวชน และเมื่อทราบปัญหาเหล่านั้นแล้วก็จะสามารถช่วยกันแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ตนเห็นว่าโครงการสภานักเรียนไทยหัวใจสมานฉันท์ เป็นโครงการฯ ที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอยากให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้ได้เห็นภาพจริงของการบริหารประเทศด้วย
สำหรับเรื่องที่เยาวชนได้พูดถึงปัญหายาเสพติดในโรงเรียนนั้น ตนเชื่อว่านักเรียนพูดจริง และก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องรับผิดชอบดูแลปัญหานี้ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขต่อไป อย่างไรก็ตามจะมีการประสานงานกับรัฐสภา ในการนำเด็กและเยาวชนออกไปสะท้อนปัญหาต่างๆ ในรัฐสภา ซึ่งจะทำให้ทุกคนได้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมจริงๆ เป็นอย่างไร
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า การนำเด็กและเยาวชนไปออกความคิดเห็นในรัฐสภานั้น เรื่องนี้ตนเชื่อว่าเป็นความใฝ่ฝันของเด็กๆ แต่ละคนมาช้านาน เพราะถือเป็นสุดยอดแห่งความต้องการของนักเรียน แต่คิดว่าคงไม่สามารถดำเนินการได้ในปีนี้ คงต้องเลื่อนไปเป็นปี 2552 ส่วนข้อเสนอต่างๆ ในที่ประชุมนั้นนักเรียนได้มีการเสนอโครงการต่างๆ เช่น โครงการถนนสีขาว การผลิตคลิปวิดีโอสร้างสรรค์ เป็นต้น ซึ่งโครงการเหล่านี้สามารถทำได้จริงแน่นอน สำหรับปัญหายาเสพติดในสถานศึกษานั้น ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ทำหนังสือกำชับไปยังโรงเรียนต่างๆแล้ว เพื่อให้มีการสำรวจเป็นรายโรงว่า โรงเรียใดมีเด็กที่อยู่ในพฤติกรรมเสี่ยงที่จะมียาเสพติด โดยให้โรงเรียนออกไปหาข้อมูลจากแหล่งอื่นๆในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขต่อไป