สกอ.หนุนมหาวิทยาลัยทำงานวิจัยร่วมสถานประกอบการ ระบุอนุมัติงบไปแล้ว 10 โครงการ แย้มมีงานวิจัยเยอะแต่ไม่ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ หากจับมือกันจะได้งานวิจัยที่มีคุณภาพ สร้างความเจริญให้แก่ชาติ
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สนับสนุนงบประมาณในการทำงานวิจัยของมหาวิทยาลัยต่างๆ ร่วมกับสถานประกอบการ 10 โครงการด้วยกัน อาทิ โครงการเครื่องมือวัดและระบบควบคุมโรงงานอุตสาหกรรม การเตรียมยาเม็ดต้านชัด valproic acid ร่วมกับ sodium valproate ชนิดเม็ดออกฤทธิ์นาน การผลิตน้ำมันบริโภคชนิดผสม และการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผลิตผลพลอยได้ของโรงงานสกัดน้ำมัน.การเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูดินก้นบ่อเลี้ยงกุ้งทะเลระบบปิดด้วยวิธีทางชีวภาพร่วมกับการคราดพรวน เป็นต้น
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ สกอ.หนุนให้มหาวิทยาลัยทำงานวิจัยร่วมกับสถานประกอบการ จริงๆ สนับสนุนมาโดยตลอด เพราะสถานประกอบการหลายแห่งไม่สามารถทำงานวิจัยได้อย่างเต็มที่ ขณะที่มหาวิทยาลัยมีทรัพยากรบุคคล เป็นแหล่งความรู้ วิชาการ งานวิจัยที่ได้จึงเป็นงานวิจัยบนพื้นฐานความรู้ แล้วสามารถประยุกต์ให้เกิดขึ้นจริง ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการด้วย
ดร.สุเมธ กล่าวว่า ปัจจุบันมหาวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชน มีการทำงานวิจัย ที่จัดทำขึ้นเองหรือร่วมกับภาคเอกชน จำนวนมาก และครอบคลุมทุกด้าน อย่างไรก็ดี ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของประเทศ เพราะสถานประกอบการต้องการนำผลงานหรือโครงงานวิจัยต่างๆ ไปใช้ในการผลิต คิดค้น ซึ่งบางครั้งงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยทำอาจไม่ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ ส่วนสถานประกอบการรู้ว่าต้องการอะไร แต่ไม่พร้อม ดังนั้น การทำงานวิจัยร่วมกับภาคเอกชนจึงเป็นการผลิตงานวิจัยที่ดีและมีคุณภาพ
“ปี 2551 สกอ.พยายามสนับสนุนการทำงานวิจัยร่วมของ 2 องค์กร ถ้ามหาวิทยาลัยที่ทำงานวิจัยร่วมกับภาคเอกชน ในทุกๆ วิชา สามารถนำเสนองานวิจัยและของบจาก สกอ.ได้ เพราะงานวิจัยมีความสำคัญในการพัฒนา สร้างความเจริญให้แก่ประเทศชาติ”
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สนับสนุนงบประมาณในการทำงานวิจัยของมหาวิทยาลัยต่างๆ ร่วมกับสถานประกอบการ 10 โครงการด้วยกัน อาทิ โครงการเครื่องมือวัดและระบบควบคุมโรงงานอุตสาหกรรม การเตรียมยาเม็ดต้านชัด valproic acid ร่วมกับ sodium valproate ชนิดเม็ดออกฤทธิ์นาน การผลิตน้ำมันบริโภคชนิดผสม และการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผลิตผลพลอยได้ของโรงงานสกัดน้ำมัน.การเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูดินก้นบ่อเลี้ยงกุ้งทะเลระบบปิดด้วยวิธีทางชีวภาพร่วมกับการคราดพรวน เป็นต้น
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ สกอ.หนุนให้มหาวิทยาลัยทำงานวิจัยร่วมกับสถานประกอบการ จริงๆ สนับสนุนมาโดยตลอด เพราะสถานประกอบการหลายแห่งไม่สามารถทำงานวิจัยได้อย่างเต็มที่ ขณะที่มหาวิทยาลัยมีทรัพยากรบุคคล เป็นแหล่งความรู้ วิชาการ งานวิจัยที่ได้จึงเป็นงานวิจัยบนพื้นฐานความรู้ แล้วสามารถประยุกต์ให้เกิดขึ้นจริง ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการด้วย
ดร.สุเมธ กล่าวว่า ปัจจุบันมหาวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชน มีการทำงานวิจัย ที่จัดทำขึ้นเองหรือร่วมกับภาคเอกชน จำนวนมาก และครอบคลุมทุกด้าน อย่างไรก็ดี ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของประเทศ เพราะสถานประกอบการต้องการนำผลงานหรือโครงงานวิจัยต่างๆ ไปใช้ในการผลิต คิดค้น ซึ่งบางครั้งงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยทำอาจไม่ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ ส่วนสถานประกอบการรู้ว่าต้องการอะไร แต่ไม่พร้อม ดังนั้น การทำงานวิจัยร่วมกับภาคเอกชนจึงเป็นการผลิตงานวิจัยที่ดีและมีคุณภาพ
“ปี 2551 สกอ.พยายามสนับสนุนการทำงานวิจัยร่วมของ 2 องค์กร ถ้ามหาวิทยาลัยที่ทำงานวิจัยร่วมกับภาคเอกชน ในทุกๆ วิชา สามารถนำเสนองานวิจัยและของบจาก สกอ.ได้ เพราะงานวิจัยมีความสำคัญในการพัฒนา สร้างความเจริญให้แก่ประเทศชาติ”
