สภาการพยาบาล ลุยแก้ปัญหาขาดแคลนพยาบาลมั่นใจผลิตพยาบาลเพิ่มได้ปีละกว่า 8 พันคน ผู้ช่วยพยาบาลอีก 1 พันคนต่อปี โดยไม่จำเป็นต้องเปิดโรงเรียนพยาบาลเพิ่มและปรับลดเกณฑ์การรับรองมาตรฐานหลักสูตร
ศ.เกียรติคุณ ดร.วิจิตร ศรีสุพรรณ นายกสภาการพยาบาล กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยประสบปัญหาการขาดแคลนพยาบาล กว่า 3 หมื่นคน โดยสภาการพยาบาลได้วางแผนการแก้ปัญหานี้อย่างรอบคอบ คาดว่า ในระยะเวลา 5 ปี จะสามารถผลิตพยาบาลได้ถึงปีละกว่า 8 พันคน ทั้งจากสถาบันการศึกษาพยาบาลเดิม และสถาบันการศึกษาพยาบาลที่ตั้งใหม่ 74 สถาบัน ซึ่งในจำนวนนี้จะเป็นการผลิตพยาบาลหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี ซึ่งจะผลิตได้ปีละ 7.5 พันคน รวมทั้งมีการพัฒนาบุคลากรที่มีอยู่แล้วในระบบสาธารณสุข ให้เป็นพยาบาลวิชาชีพ อาทิ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน ปีละ 390 คน และเจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉิน ปีละ 300 คน
ศ.เกียรติคุณ ดร.วิจิตร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สภาการพยาบาลได้วางแผนการในการใช้กำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการใช้ทีมบุคลากรที่มีทักษะผสม (Skill mixed team) คือ การจัดให้มีผู้ช่วยพยาบาลทำงานร่วมกับพยาบาลวิชาชีพ เป็นการจัดให้บุคลากรระดับช่วยวิชาชีพมาร่วมทำงานเพื่อแบ่งเบางานง่ายๆ ไม่ซับซ้อน โดยอยู่ภายใต้การควบคุมกำกับของพยาบาลวิชาชีพ ซึ่งได้วางแผนร่วมกับสถาบันการศึกษาพยาบาลผลิตผู้ช่วยพยาบาลอีกปีละ 1,000 คน
ศ.เกียรติคุณดร.วิจิตร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสถาบันการศึกษาพยาบาลที่เปิดดำเนินการอยู่ทั้ง 74 แห่ง มีศักยภาพที่จะผลิตพยาบาลเพื่อรองรับความต้องการพยาบาลของประเทศได้อย่างเพียงพอ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งเปิดโรงเรียนพยาบาลแห่งใหม่เพิ่มด้วยการปรับลดเกณฑ์การรับรองมาตรฐานหลักสูตรของสภาการพยาบาลลง เว้นแต่สถาบันการศึกษานั้นจะได้มาตรฐานตามเกณฑ์จริงๆ จึงจะรับรองหลักสูตร อีกทั้งขณะนี้สภาการพยาบาล มีนโยบายที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพของสถาบัน 74 แห่งทั้งของภาครัฐ และเอกชนให้มีคุณภาพมาตรฐานในระดับเดียวกันโดยเร็ว
“การผลิตพยาบาลจำเป็นต้องคำนึงถึง ทั้งปริมาณและคุณภาพการเรียนการสอนโดยต้องเน้นที่การปฏิบัติจริงกับผู้ป่วย เนื่องจากหากเกิดความผิดพลาดอาจหมายถึงชีวิตของผู้ป่วย จึงต้องมีอาจารย์พยาบาลคอยควบคุมใกล้ชิด และร่วมปฏิบัติไปกับนักศึกษา ดังนั้น สถาบันที่จะจัดการศึกษาพยาบาลจึงต้องมีจำนวนอาจารย์อย่างเพียงพอ และมีคุณสมบัติเหมาะสม แต่ส่วนใหญ่พบมีปัญหาขาดอาจารย์พยาบาลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม จึงพิจารณาให้พยาบาลผู้มีประสบการณ์ด้านการปฏิบัติในการบริการผู้ป่วยโดยตรง สามารถเป็นอาจารย์พยาบาลได้ แม้ไม่มีประสบการณ์การสอนมาก่อน โดยสามารถพัฒนาทักษะการสอนหรือเข้ารับการฝึกอบรมด้านการเรียนการสอนเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะทำให้ปัญหาการรับอาจารย์ใหม่ในสถาบันการศึกษาพยาบาลหมดไป” ศ.เกียรติคุณ ดร.วิจิตร กล่าว
ศ.เกียรติคุณ ดร.วิจิตร ศรีสุพรรณ นายกสภาการพยาบาล กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยประสบปัญหาการขาดแคลนพยาบาล กว่า 3 หมื่นคน โดยสภาการพยาบาลได้วางแผนการแก้ปัญหานี้อย่างรอบคอบ คาดว่า ในระยะเวลา 5 ปี จะสามารถผลิตพยาบาลได้ถึงปีละกว่า 8 พันคน ทั้งจากสถาบันการศึกษาพยาบาลเดิม และสถาบันการศึกษาพยาบาลที่ตั้งใหม่ 74 สถาบัน ซึ่งในจำนวนนี้จะเป็นการผลิตพยาบาลหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี ซึ่งจะผลิตได้ปีละ 7.5 พันคน รวมทั้งมีการพัฒนาบุคลากรที่มีอยู่แล้วในระบบสาธารณสุข ให้เป็นพยาบาลวิชาชีพ อาทิ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน ปีละ 390 คน และเจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉิน ปีละ 300 คน
ศ.เกียรติคุณ ดร.วิจิตร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สภาการพยาบาลได้วางแผนการในการใช้กำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการใช้ทีมบุคลากรที่มีทักษะผสม (Skill mixed team) คือ การจัดให้มีผู้ช่วยพยาบาลทำงานร่วมกับพยาบาลวิชาชีพ เป็นการจัดให้บุคลากรระดับช่วยวิชาชีพมาร่วมทำงานเพื่อแบ่งเบางานง่ายๆ ไม่ซับซ้อน โดยอยู่ภายใต้การควบคุมกำกับของพยาบาลวิชาชีพ ซึ่งได้วางแผนร่วมกับสถาบันการศึกษาพยาบาลผลิตผู้ช่วยพยาบาลอีกปีละ 1,000 คน
ศ.เกียรติคุณดร.วิจิตร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสถาบันการศึกษาพยาบาลที่เปิดดำเนินการอยู่ทั้ง 74 แห่ง มีศักยภาพที่จะผลิตพยาบาลเพื่อรองรับความต้องการพยาบาลของประเทศได้อย่างเพียงพอ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งเปิดโรงเรียนพยาบาลแห่งใหม่เพิ่มด้วยการปรับลดเกณฑ์การรับรองมาตรฐานหลักสูตรของสภาการพยาบาลลง เว้นแต่สถาบันการศึกษานั้นจะได้มาตรฐานตามเกณฑ์จริงๆ จึงจะรับรองหลักสูตร อีกทั้งขณะนี้สภาการพยาบาล มีนโยบายที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพของสถาบัน 74 แห่งทั้งของภาครัฐ และเอกชนให้มีคุณภาพมาตรฐานในระดับเดียวกันโดยเร็ว
“การผลิตพยาบาลจำเป็นต้องคำนึงถึง ทั้งปริมาณและคุณภาพการเรียนการสอนโดยต้องเน้นที่การปฏิบัติจริงกับผู้ป่วย เนื่องจากหากเกิดความผิดพลาดอาจหมายถึงชีวิตของผู้ป่วย จึงต้องมีอาจารย์พยาบาลคอยควบคุมใกล้ชิด และร่วมปฏิบัติไปกับนักศึกษา ดังนั้น สถาบันที่จะจัดการศึกษาพยาบาลจึงต้องมีจำนวนอาจารย์อย่างเพียงพอ และมีคุณสมบัติเหมาะสม แต่ส่วนใหญ่พบมีปัญหาขาดอาจารย์พยาบาลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม จึงพิจารณาให้พยาบาลผู้มีประสบการณ์ด้านการปฏิบัติในการบริการผู้ป่วยโดยตรง สามารถเป็นอาจารย์พยาบาลได้ แม้ไม่มีประสบการณ์การสอนมาก่อน โดยสามารถพัฒนาทักษะการสอนหรือเข้ารับการฝึกอบรมด้านการเรียนการสอนเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะทำให้ปัญหาการรับอาจารย์ใหม่ในสถาบันการศึกษาพยาบาลหมดไป” ศ.เกียรติคุณ ดร.วิจิตร กล่าว
