“บุญลือ” จ่อเพิ่มค่าวิทยฐานะและค่าตอบแทนให้ครูสาขาขาดแคลน หวังจูงใจถึงหัวกะทิมาเป็นครูวิทย์ คณิต อังกฤษ คอมพ์ คาดได้ครูเก่งคุณภาพเด็กดีขึ้น ส่วนคุรุสภาถอนใบอนุญาต 2 ครูใช้วุฒิการศึกษาปลอมมาขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พร้อมแจ้งความดำเนินคดี “ฐานปลอมแปลงเอกสาร”
นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการ พ.ร.บ.สภาครูฯ ก้าวย่างปีที่ 5 : คุรุสภาพบผู้ประกอบวิชาชีพว่า มีแนวคิดให้มีการปรับเพิ่มเงินค่าวิทยฐานะ และเงินค่าตอบแทนให้แก่ครูสาขาขาดแคลน เช่น ครูสาขาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และภาษาอังกฤษ โดยมั่นใจว่าการเพิ่มค่าตอบแทนจะเป็นแรงจูงใจให้คนเก่งมาเรียนครู
นายบุญลือ แสดงความเห็นว่า ที่ผ่านมาเราไม่สามารถจูงใจให้คนเก่งมาเรียนครูได้ น่าจะมาจากค่าตอบแทนของวิชาชีพครูน้อยกว่าวิชาชีพอื่นๆ เช่น แพทย์ ผู้พิพากษา หรืออัยการ ทั้งๆ ที่วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูงเช่นเดียวกันกับวิชาชีพดังกล่าว และการที่คนเก่งไม่เลือกอาชีพครูนั้นส่งผลกระทบต่อเด็กโดยตรง เพราะเด็กไม่มีโอกาสได้เรียนกับครูเก่งๆ โดยเฉพาะ วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาสำคัญ เราต้องมาวิเคราะห์หาสาเหตุว่า เหตุใดเด็กเก่งไม่อยากมาเรียนครู ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากค่าตอบแทนของวิชาชีพนี้ต่ำเกินไป
“แนวทางแก้ปัญหาโดยเฉพาะเรื่องคุณภาพของครู ซึ่งปัญหาดังกล่าวต้องแก้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น โดยดึงเด็กเก่งให้มาเรียนครู ตนได้ไปตรวจเยี่ยม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) มา ทราบว่า สสวท.มีเด็กเก่งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่เด็กเหล่านี้ไม่เรียนครู เพื่อดึงเด็กกลุ่มนี้มาเป็นครูควรมีการปรับเพิ่มค่าตอบแทนให้ครูสาขาขาดแคลนโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ สำหรับครูที่สอนสาขานี้อยู่แล้วต้องมารับการอบรมจาก สสวท.ที่มีหลักสูตรอบรมครูอยู่แล้ว เพื่อให้ครูพัฒนาการจัดการสอนของตัวเอง แล้วผู้ที่จะได้รับประโยชน์ก็คือนักเรียน”
นายบุญลือ กล่าวถึงกรรมการคุรุสภาฯ ว่า กรรมการคุรุสภาชุดปัจจุบันกำลังจะหมดวาระในเดือนเมษายนนี้ จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถด้านการศึกษามาสมัครเป็นกรรมการคุรุสภา ในขณะเดียวกันอยากให้กรรมการคุรุสภามีความหลากหลายขึ้น และอยากให้เพิ่มสัดส่วนกรรมการที่มาจากคณบดีคณะคุรุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ด้วย จะได้มีผู้รู้เข้ามาช่วยกันทำงาน
ส่วน นายจักรพรรดิ วะทา เลขาธิการคุรุสภา กล่าวถึงปัญหาการนำวุฒิการศึกษาปลอมมาขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูว่า ตนได้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของผู้ที่ใช้วุฒิการศึกษาปลอมมาขอใบอนุญาตฯทั้ง 2 รายแล้ว และคุรุสภาได้ทำหนังสือถึงสังกัดของสถานศึกษา รวมทั้งแจ้งผ่านตัวแทนของหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมเป็นกรรมการคุรุสภา กำชับไปยังผู้บริหารสถานศึกษา ตรวจสอบดูหากมีครูในสถานศึกษาที่น่าสงสัยว่าจะไม่จบปริญญาตรี ให้ร้องมายังคุรุสภาได้ คุรุสภาจะไปตรวจสอบไปยังมหาวิทยาลัยผู้ออกวุฒิการศึกษารายที่สงสัยให้ ถ้าพบใครใช้วุฒิการศึกษาปลอมแล้วจะเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันที
“หลังจากที่เราพบว่ามีผู้ที่ใช้วุฒิปลอมมาขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กรรมการมีมติเพิกถอนทั้ง 2 ราย แล้วยังมีมติให้ไปแจ้งความกับตำรวจ ตั้งข้อกล่าวหาว่า “ปลอมแปลงเอกสาร” เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีต่อไป และคุรุสภาจะสุ่มเช็คข้อมูลครูที่เราออกใบอนุญาตฯ ไปแล้ว ส่วนผู้ที่อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตฯ ประมาณ 1 แสนราย จะเช็กข้อมูลอย่างละเอียดก่อนออกให้”
นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการ พ.ร.บ.สภาครูฯ ก้าวย่างปีที่ 5 : คุรุสภาพบผู้ประกอบวิชาชีพว่า มีแนวคิดให้มีการปรับเพิ่มเงินค่าวิทยฐานะ และเงินค่าตอบแทนให้แก่ครูสาขาขาดแคลน เช่น ครูสาขาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และภาษาอังกฤษ โดยมั่นใจว่าการเพิ่มค่าตอบแทนจะเป็นแรงจูงใจให้คนเก่งมาเรียนครู
นายบุญลือ แสดงความเห็นว่า ที่ผ่านมาเราไม่สามารถจูงใจให้คนเก่งมาเรียนครูได้ น่าจะมาจากค่าตอบแทนของวิชาชีพครูน้อยกว่าวิชาชีพอื่นๆ เช่น แพทย์ ผู้พิพากษา หรืออัยการ ทั้งๆ ที่วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูงเช่นเดียวกันกับวิชาชีพดังกล่าว และการที่คนเก่งไม่เลือกอาชีพครูนั้นส่งผลกระทบต่อเด็กโดยตรง เพราะเด็กไม่มีโอกาสได้เรียนกับครูเก่งๆ โดยเฉพาะ วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาสำคัญ เราต้องมาวิเคราะห์หาสาเหตุว่า เหตุใดเด็กเก่งไม่อยากมาเรียนครู ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากค่าตอบแทนของวิชาชีพนี้ต่ำเกินไป
“แนวทางแก้ปัญหาโดยเฉพาะเรื่องคุณภาพของครู ซึ่งปัญหาดังกล่าวต้องแก้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น โดยดึงเด็กเก่งให้มาเรียนครู ตนได้ไปตรวจเยี่ยม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) มา ทราบว่า สสวท.มีเด็กเก่งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่เด็กเหล่านี้ไม่เรียนครู เพื่อดึงเด็กกลุ่มนี้มาเป็นครูควรมีการปรับเพิ่มค่าตอบแทนให้ครูสาขาขาดแคลนโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ สำหรับครูที่สอนสาขานี้อยู่แล้วต้องมารับการอบรมจาก สสวท.ที่มีหลักสูตรอบรมครูอยู่แล้ว เพื่อให้ครูพัฒนาการจัดการสอนของตัวเอง แล้วผู้ที่จะได้รับประโยชน์ก็คือนักเรียน”
นายบุญลือ กล่าวถึงกรรมการคุรุสภาฯ ว่า กรรมการคุรุสภาชุดปัจจุบันกำลังจะหมดวาระในเดือนเมษายนนี้ จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถด้านการศึกษามาสมัครเป็นกรรมการคุรุสภา ในขณะเดียวกันอยากให้กรรมการคุรุสภามีความหลากหลายขึ้น และอยากให้เพิ่มสัดส่วนกรรมการที่มาจากคณบดีคณะคุรุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ด้วย จะได้มีผู้รู้เข้ามาช่วยกันทำงาน
ส่วน นายจักรพรรดิ วะทา เลขาธิการคุรุสภา กล่าวถึงปัญหาการนำวุฒิการศึกษาปลอมมาขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูว่า ตนได้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของผู้ที่ใช้วุฒิการศึกษาปลอมมาขอใบอนุญาตฯทั้ง 2 รายแล้ว และคุรุสภาได้ทำหนังสือถึงสังกัดของสถานศึกษา รวมทั้งแจ้งผ่านตัวแทนของหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมเป็นกรรมการคุรุสภา กำชับไปยังผู้บริหารสถานศึกษา ตรวจสอบดูหากมีครูในสถานศึกษาที่น่าสงสัยว่าจะไม่จบปริญญาตรี ให้ร้องมายังคุรุสภาได้ คุรุสภาจะไปตรวจสอบไปยังมหาวิทยาลัยผู้ออกวุฒิการศึกษารายที่สงสัยให้ ถ้าพบใครใช้วุฒิการศึกษาปลอมแล้วจะเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันที
“หลังจากที่เราพบว่ามีผู้ที่ใช้วุฒิปลอมมาขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กรรมการมีมติเพิกถอนทั้ง 2 ราย แล้วยังมีมติให้ไปแจ้งความกับตำรวจ ตั้งข้อกล่าวหาว่า “ปลอมแปลงเอกสาร” เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีต่อไป และคุรุสภาจะสุ่มเช็คข้อมูลครูที่เราออกใบอนุญาตฯ ไปแล้ว ส่วนผู้ที่อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตฯ ประมาณ 1 แสนราย จะเช็กข้อมูลอย่างละเอียดก่อนออกให้”
