นักวิชาการล่าชื่อ ต้าน “สมัคร” แก้ กม.เหล้า ระบุลด แลก แจก แถม แผนร้ายบริษัทเหล้าล่อลวงเด็กเป็นนักดื่มหน้าใหม่ ชี้มีข้อมูลวิชาการชัดเจน ลั่นบุกทำเนียบพรุ่งนี้
รศ.ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์ อาจารย์ประจำ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬากรณ์มหาวิทยาลัย และเครือข่ายนักวิชาการเฝ้าระวังปัญหาแอลกอฮอล์ กล่าวว่า เครือข่ายนักวิชาการ ขอคัดค้านการแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกกรณี โดยเฉพาะการที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุจะแก้มาตรา 30 ตามที่กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในนามสมาพันธ์เพื่อช่วยภาครัฐลดปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ (สชอ.) ร้องขอ ซึ่งมาตรานี้มีสาระสำคัญ ห้ามการลด แลก แจก แถม ทั้งนี้ การลดราคามีผลต่อการเพิ่มยอดขายสูงสุด และทำให้คนไทยเป็นนักดื่มมากขึ้น ดื่มเยอะขึ้นด้วย อีกทั้งการลดคือการกระตุ้นให้ลอง
รศ.ดร.ปาริชาต กล่าวอีกว่า งานวิจัยทั่วโลก ยืนยันว่า ผู้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 56.4% จะไม่อยากซื้อหรือไม่อยากดื่มหากราคาแพง ข้อมูลฝ่ายธุรกิจสุราชี้ชัดว่า การลดราคาเพิ่มยอดขายได้ 120% การแถมของที่ระลึกเพิ่มยอดขายได้ 80% จากช่วงปกติ การแถมหรือการแลกบริษัทเหล้าตั้งใจเจาะกลุ่มวัยรุ่นอยู่แล้ว มักแถมหรือให้แลกในสิ่งที่ตรงใจเด็ก เช่น บัตรคอนเสิร์ท บัตรดูกีฬา สิ่งเหล่านี้ คือ การยั่วยุให้เยาวชนอยากซื้อ อยากลองดื่ม และกระตุ้นผู้ที่ดื่มอยู่แล้วให้ดื่มมากขึ้น
“การแจก คือ กลยุทธ์เพิ่มนักดื่มหน้าใหม่โดยตรง ชวนผู้ไม่เคยดื่มมาทดลอง เหมือนกับผู้ขายยาเสพติดอยากให้เด็กลองยา โดยไม่ต้องจ่ายเงิน ติดใจแล้วก็ต้องเสียเงินมาซื้อเอง ธุรกิจเหล้าควรรับผิดชอบสังคม เก็บเงินทำโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม ไปทำการตลาดเพื่อสังคม อย่ากระตุ้นให้เด็กต้องทำทางให้ได้เงินมาซื้อเหล้าเลย นับครั้งไม่ถ้วนที่เห็นข่าวลูก ตีพ่อ ตีแม่ วัยรุ่นขโมยของหาเงินไปซื้อเหล้า เด็กและเยาวชนในสถานพินิจ 40% ทำผิดหลังดื่มเหล้าใน 5 ชม.ผู้ป่วยเอดส์วัดพระบาทน้ำพุกว่า 70% ติดเอดส์ เพราะมีเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัย หลังดื่มเหล้า รัฐบาลจะส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ลูกหลานไทย ตกอยู่ในวังวนเช่นนี้ และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆหรือ”รศ.ดร.ปาริชาต กล่าว
รศ.ดร.ปาริชาต กล่าวอีกว่า มาตรา 30 ยังห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเครื่องอัตโนมัติ เพราะจะมีเด็กและเยาวชนแห่ซื้อน้ำเมาผ่านตู้อัตโนมัติจำนวนมหาศาล เพราะเครื่องตั้งอยู่ทุกแห่ง ยากต่อการคุมเวลาจำหน่าย และอายุผู้ซื้อ ซึ่งมาตราการต่างๆ เหมือนกับกฎหมายบุหรี่ ที่บังคับใช้มากว่า 15 ปี และได้ผลต่อการลดจำนวนผู้สูบ โดยเฉพาะเด็กแลเยาวชน รัฐบาลต้องดำเนินการทันที โดยเครือข่ายนักวิชาการฯ จะเดินหน้ารวบรวมรายชื่อนักวิชาการ ที่คัดค้านการแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อแสดงให้รัฐบาลเห็นถึงพลังของภาควิชาการ ที่ต้องการจะปกป้องสังคม และวันที่ 18 มี.ค.นี้ จะเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นจดหมายคัดค้านต่อนายกรัฐมนตรี