กรมอนามัย เผยสรรพคุณหอมหัวใหญ่ หากรับประทานเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อ และช่วยป้องกันไขมันไม่ให้เกาะผนังเส้นเลือดอีกทั้งมีคุณประโยชน์มากมายเมื่อนำมาสกัดใช้ในรูปแบบต่างๆ
นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงคุณค่าของหอมหัวใหญ่ที่มีสรรพคุณมากมาย และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อ ว่า ปัจจุบันนี้โรคไม่ติดต่อ อาทิ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคอ้วน นับเป็นปัญหาที่เรื้อรัง และมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดการเสียชีวิตในอันดับต้นๆ เพิ่มขึ้นตลอดเวลา
ทั้งนี้ สาเหตุของโรคดังกล่าวล้วนเป็นผลมาจากวิถีชีวิตและพฤติกรรมการบริโภคอาหารของประชาชนที่เปลี่ยนไป ดังจะเห็นได้ว่าขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่นิยมกินอาหารแบบตะวันตกกันมากขึ้น ซึ่งอาหารส่วนใหญ่มักให้พลังงานสูงและเป็นสารอาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน ประกอบกับสภาวการณ์ปัจจุบันส่งผลให้มีการดำเนินชีวิตอย่างรีบเร่งตลอดเวลา ประชาชนบางรายจึงไม่มีเวลาในการออกกำลังกาย ทำให้มีการสะสมของไขมันในร่างกายและในเส้นเลือดสูง ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด ตามมาได้ง่าย
นอกจากนี้ ยังพบว่า อาหารแบบตะวันตกมักมีเส้นใยอาหารน้อย เมื่อรับประทานในปริมาณที่มากเกินจะทำให้เกิดการสะสมของสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งในร่างกาย ส่งผลให้มีอัตราเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยเป็นมะเร็งได้ในที่สุด ดังนั้น การส่งเสริมให้มีการรกินอาหารตะวันตกหรือการกินผักเป็นประจำ จึงเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ
นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า การกินผักเป็นประจำในแต่ละมื้อ ถือเป็นพฤติกรรมการกินที่ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีคุณค่าและครบถ้วนตามความต้องการร่างกาย และยังได้รับสารพฤกษาเคมี (Phytochemicals) ที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกินหอมหัวใหญ่ที่หลายๆ คนมักมองข้ามถึงคุณประโยชน์ในการช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อซึ่งมักคิดว่าหอมหัวใหญ่เป็นเพียงผักที่ใช้เป็นส่วนประกอบในยำต่างๆ ข้าวผัด ไข่เจียว สลัด เพื่อเพิ่มรสชาติเพียงเท่านั้น ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว ผลการวิจัยของต่างประเทศ พบว่า หอมหัวใหญ่สามารถป้องกันโรคต้อกระจก โรคหัวใจ โรคมะเร็งลำไส้ โรคมะเร็งตับ และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อ ที่สำคัญ การกินหอมหัวเป็นประจำทุกวันจะทำให้ร่างกายได้รับสารพฤกษาเคมี เช่น ฟลาโวนอยด์ ไกลโคไซด์ (Flavonoid glycosides) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันไขมันไม่ให้เกาะตามผนังเส้นเสือดด้วย
“นอกจากนี้ หอมหัวใหญ่ยังมีคุณประโยชน์อีกมากมายต่อร่างกาย นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อแล้วนั้น ยังมีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ ขับเสมหะและหากนำมาคั้นให้เหลือเพียงน้ำก็จะช่วยลดอาการอักเสบบวมหรือลดความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดได้ และหอมหัวใหญ่ยังช่วยให้ผู้ที่กินเป็นประจำ มีความจำดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ หอมหัวใหญ่ยังสามารถนำไปทำเป็นยาทาภายนอกช่วยลดอาการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แก้พิษแมลงกัดลดอาการบวมตามข้อได้อีกด้วย แต่ถึงแม้หอมหัวใหญ่จะมีสรรพคุณมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดในการกินเหมือนกันก็คือหากกินในขณะที่กระเพาะยังว่างอาจจะทำให้เยื่อบุกระเพาะระคายเคืองหรืออักเสบได้ และสำหรับผู้ที่มีกลิ่นตัวอยู่แล้วหากกินหอมหัวใหญ่เป็นจำนวนมากจนเกินไป อาจจะยิ่งส่งผลให้มีกลิ่นตัวแรงยิ่งขึ้นไปด้วย” อธิบดีกรมอนามัยกล่าวในที่สุด