“บุญลือ” เตรียมหารือ สกอ.แก้ปัญหาโกงสอบ

“สมชาย” วอนนักเรียนอย่าทำลายอนาคตตัวเองด้วยการโกงสอบ ให้หยิ่งทระนงในตนเอง ด้าน “บุญลือ” เตรียมหารือ ม.เอกชน จับตาเด็กทุจริตที่สมัครเข้าเรียน ชี้ตัดสิทธิ์สอบ ม.รัฐ 3 ปีเป็นทางออกแก้ได้ระยะหนึ่งเท่านั้น แนะแก้ต้นตอที่เด็กสกัดปัญหาระยะยาว จับเข่า สกอ.แก้ปัญหาโกงสอบ

หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้รับรายงานว่ามีผู้กระทำการทุจริตในระหว่างการสอบวิชาการสอบเอเน็ตวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 2 ราย โดยรายที่ 1 สอบที่สนามสอบโรงเรียนหอวัง และรายที่ 2 สอบที่สนามสอบมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ทั้งนี้ สนามสอบโรงเรียนหอวังเป็นผู้พบการกระทำทุจริตของผู้สอบรายที่ 1 ซึ่งทำการรับ SMS จากเพื่อนที่สนามสอบมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และมีการพิจารณาตัดสิทธิการสมัครเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลาง หรือแอดมิชชัน กับผู้กระทำการเป็นเวลา 3 ปี

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า เด็กทั่วประเทศมีเป็นล้านคน ความเป็นเด็กอาจทำให้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แม้ว่าจะไม่ถูกจับได้ แต่ในใจจะรู้สึกผิดตลอดเวลา อยากบอกว่าอย่าทำลายอนาคตของตนเอง แม้จะจับไม่ได้ ก็ทำลายอนาคตตนเองแล้ว เพราะไปเรียน ความรู้ก็ไม่แน่นหนาพอ เท่ากับไม่ยอมรับความจริง หากเรียนด้านนี้ไม่ได้ก็สามารถไปเรียนด้านอื่นได้ และฝากครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง กำชับเรื่องความรับผิดชอบตนเองของเด็ก ขอให้มีความหยิ่งทรนงในตัวเอง บางคนสอบได้แม้ไม่ต้องโกง แต่ก็ตัดสินใจทำลายอนาคตตนเองด้วยการโกง

ทั้งนี้ ศธ.จะปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้นักเรียน เพื่อแสดงความภาคภูมิใจ และจะมีการยกเครื่องการคุมสอบเพื่อป้องกันเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งคนสมัยเก่าอาจจะตามไม่ทัน ในปีต่อไปจะต้องเพิ่มการกวดขัน ซึ่งคณะอาจารย์ก็เข้าใจดี แต่ก็ต้องกำชับให้ดูแลไม่ให้เกิดอีก เช่น บางโรงเรียนนำถุงดำมาให้นักเรียนใส่อุปกรณ์สื่อสาร ถือเป็นเรื่องที่ดี ต่อไปในอนาคต พวกเครื่องประดับ เช่น ตุ้มหู อาจต้องเอาออกด้วย เพราะไม่รู้การทุจริตจะมาทางใด

ด้าน นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า การตัดสิทธิการสอบในสถาบันการศึกษาของรัฐบาลเป็นเวลา 3 ปี นั้นเป็นมาตรการที่ป้องกันได้ทางหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งที่จะต้องหามาตรการต่อไปก็คือ เด็กในกลุ่มนี้ยังสามารถที่จะสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนได้อีก ซึ่งจะต้องมีการหารือกับสถาบันศึกษาเอกชนว่าจะมีมาตรการเรื่องนี้อย่างไร

“การทุจริตในการสอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับศูนย์สอบ หรือสกอ. แต่การจะโกงหรือไม่โกงข้อสอบจุดสำคัญอยู่ที่เด็ก ดังนั้นจึงต้องหาทางป้องกันจากเด็กมากกว่า เพราะหากมีการพบทุจริตบ่อยครั้งหรือพบตั้งแต่อายุเท่านี้ ต่อไปพฤติกรรมนี้ก็จะติดตัวไปในระดับอุดมศึกษา และชีวิตการทำงานต่อไป ดังนั้นการเข้าไปพูดคุยกับเด็กจะได้เห็นว่าปัญหาที่แท้จริงในการทุจริตของเขาคืออะไร จะเป็นการป้องกันในระยะยาว” นายบุญลือกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นัดหารือกับ ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อหามาตรการสำหรับการป้องกันการสมัครในมหาวิทยาลัยเอกชน ที่กระทรวงศึกษาธิการ