“วุฒิศักดิ์-นิติพล” ไม่เข็ด เอาเข็มครูดหน้า อ้างใช้สเต็มเซลล์ รีดเงินเป็นหมื่น ที่แท้ทำให้เป็นแผล ผิวหนังผลิตเซลล์ใหม่เองตามธรรมชาติ ไม่เกี่ยวสเต็มเซลล์ แต่โฆษณาจนเวอร์ แถมขู่จะฟ้อง “ไชยา” เตือนระวังเข็มไม่สะอาด ใช้ร่วมกัน ติดเอดส์ ไวรัสตับอักเสบได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนว่า สถาบันและคลินิกเสริมความงามชื่อดัง วุฒิศักดิ์ และ นิติพลคลินิก ได้โฆษณาอวดอ้างวิธีการรักษาผิวหน้าแบบใหม่ ซึ่งมีราคาแพง โดยกรรมวิธีจะใช้ลูกกลิ้งที่มีเข็มเล็กๆ เป็นจำนวนมาก ครูดไปบนใบหน้า เพื่อให้ใบหน้า มีการสร้าง เซลล์ผิวหนังใหม่ขึ้นมาทดแทน ทั้งนี้ ยังมีการโฆษณาอ้างว่า จะนำคลอลาเจน และวิตามินซี เซรั่ม ทาเพื่อให้สร้างผิวหนัง โดยจะต้องมีการฉีดยาชาก่อน 30 นาที โดยวิธีรักษาดังกล่าว จะทำให้เกิดรอยแดงประมาณ 1-3 วัน ระหว่างทำมีการอ้างว่า จะมีการเติมคลอลาเจน เพื่อให้รอยหลุมของผิวหน้าตื้นขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วิธีดังกล่าว "วุฒิศักดิ์" ใช้ชื่อของการรักษาดังกล่าวว่า วิธี "เดอร์มาโรลเลอร์" ส่วน นิติพลคลินิก ใช้ว่า "สเต็มเซลล์โรลเลอร์" โดยเก็บค่ารักษาในราคาแพงในหลักหมื่นบาทต่อคอร์ส ซึ่งผู้สื่อข่าว ได้มีการสอบถามถึงวิธีการรักษาดังกล่าวว่า เป็นที่ยอมรับ และปลอดภัยหรือไม่
แหล่งข่าวระดับสูงของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ระบุว่า จากการาสอบถามไปยังสมาคมแพทย์โรคผิวหนัง พบว่า วิธีการดังกล่าวยังไม่เป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ แต่มีการนำมาโฆษณาอวดอ้าง และคิดค่ารักษาบริการแพงเกินจริง รวมถึงมีการอ้างวิธีการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับสเต็มเซลล์แต่อย่างใด เครื่องมือดังกล่าวจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ เป็นการนำเข็มมาครูดหน้า ให้เป็นแผลเล็กๆ ให้เลือดออกเพื่อกระตุ้นเซลล์บนผิวหน้าเท่านั้น
แหล่งข่าวกล่าวว่า วิธีดังกล่าว ตามหลักการแพทย์ทั่วไป ถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ เมื่อร่างกายมีแผลก็จะซ่อมแซมผิวหนังขึ้น เป็นกลไกปกติ แต่จะเป็นอันตรายหากเข็มที่ครูดลงไปบนผิวหนังไม่สะอาด เกิดการติดเชื้อได้ อาทิ ไวรัสตับอักเสบ เอดส์ ถ้าหากใช้ต้องทำเพื่อใช้เฉพาะบุคคล และทำความสะอาดก่อนใช้อย่างดี
“เรื่องดังกล่าวถือว่า มั่วนิ่ม ไม่เกี่ยวข้องกับสเต็มเซลล์ เป็นเพียงนำคำว่า สเต็มเซลล์มาใช้เพื่อขี่กระแส ที่อ้างในโฆษณาว่า จะกระตุ้นสเต็มเซลล์ที่หลับใหลให้ตื่นขึ้น ก็ไม่เป็นความจริง อีกทั้งเซลล์บนผิวหน้าเป็นแค่เซลล์ปกติ ไม่ใช่สเต็มเซลล์ การโฆษณาโดยใช้ข้อความแบบนี้ อาจเข้าข่ายโฆษณาเป็นเท็จและหลอกลวง จากข้อมูลของกองเครื่องมือแพทย์ วิธีดังกล่าวต้องทำทั้งหมด 5 ครั้ง ซึ่งรวมแล้วเป็นเงินจำนวนมาก”แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวระบุว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน เจ้าหน้าที่ของอย. ได้ทำการตรวจจับไปยังคลินิกดังกล่าวหลายสาขา โดยได้มีการอายัดเครื่องมือ และสารที่ใช้กับวิธีการรักษาดังกล่าวกลับมาดำเนินคดี รวมถึงโปสเตอร์ การโฆษณาอวดอ้าง เพื่อนำมาประเมินว่ามีความผิดอะไรบ้าง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รายงานว่า คลินิกหนึ่งในสองแห่งที่เข้าตรวจจับ ไม่ให้ความร่วมมือในการอายัดเครื่องมือ เพราะอ้างว่า ซื้อมาอย่างถูกต้องและมีใบเสร็จ และขู่ว่า จะนำเรื่องดังกล่าว มาฟ้องนาย ไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข
