“สมชาย” เดินหน้าโครงการแจกคอมพ์ล้านเครื่อง ยันต้องรอบคอบและโปร่งใส ต้องการทำประโยชน์จริง ไม่ได้หาเสียงหรือกินหัวคิวนายหน้า ระบุที่จะจัดซื้อเป็นแล็ปท็อปไม่ใช่โน้ตบุ๊ก
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้เชิญนายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา รองประธานมูลนิธิไทยคม มาหารือถึงการจัดซื้อแล็ปท็อป 1 ล้านเครื่องเพื่อแจกให้แก่นักเรียน โดยศูนย์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาเป็นที่ปรึกษาสำหรับโครงการนี้ด้วย ซึ่งที่ ศธ.จะจัดซื้อนั้น ไม่ใช่โน้ตบุ๊กแต่เป็นแล็ปทอป ซึ่งโน้ตบุ๊กนั้นจะใช้สำหรับคนทำงาน หรืองานวิจัย ส่วนแล็ปท็อปจะใช้สำหรับการเรียนรู้ มีโปรแกรมตำราเรียนที่บรรจุอยู่ภายในนั้น และสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยสามารถใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์ได้ด้วย ซึ่งขณะนี้ราคาแล็ปท็อปอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,000 กว่าบาทเท่านั้น ทั้งนี้ การจัดซื้อแล็ปท็อปให้แก่นักเรียนจะเป็นประโยชน์กับเด็กมาก เพราะจะเป็นเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ได้หลายๆ ด้าน
นายสมชาย กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นการศึกษาว่าจะลงทุนอย่างไรจึงจะคุ้มกับเด็ก และจะเป็นเด็กในกลุ่มไหน เพราะเราไม่ให้ทุกคน เด็กที่จะนำแล็ปทอปไปใช้จะต้องมีความพร้อมมากแค่ไหน และจะต้องเตรียมความพร้อมกันอย่างไรก่อนที่จะนำเครื่องไปใช้ ซึ่งต้องลงไปดูในพื้นที่ เพราะขณะนี้ทราบว่าโรงเรียนบ้านสามขา จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่กันดารและอยู่ห่างไกลได้นำไปใช้แล้ว
“พวกผมจะทำตรงนี้ให้เกิดประโยชน์จริงๆ ไม่ได้มาหาเสียงหรือมาหาผลประโยชน์เอาค่านายหน้าจากการทำโปรเจกต์นี้ แต่ก่อนทำก็ต้องศึกษาให้ชัดเจนก่อน โดยจะตั้งคณะกรรมการชุดเล็กของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขึ้นมาศึกษาด้วย เพราะปัจจุบันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้กับการเรียนรู้ มิฉะนั้นเราจะล้าหลังประเทศเพื่อนบ้าน” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้เชิญนายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา รองประธานมูลนิธิไทยคม มาหารือถึงการจัดซื้อแล็ปท็อป 1 ล้านเครื่องเพื่อแจกให้แก่นักเรียน โดยศูนย์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาเป็นที่ปรึกษาสำหรับโครงการนี้ด้วย ซึ่งที่ ศธ.จะจัดซื้อนั้น ไม่ใช่โน้ตบุ๊กแต่เป็นแล็ปทอป ซึ่งโน้ตบุ๊กนั้นจะใช้สำหรับคนทำงาน หรืองานวิจัย ส่วนแล็ปท็อปจะใช้สำหรับการเรียนรู้ มีโปรแกรมตำราเรียนที่บรรจุอยู่ภายในนั้น และสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยสามารถใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์ได้ด้วย ซึ่งขณะนี้ราคาแล็ปท็อปอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,000 กว่าบาทเท่านั้น ทั้งนี้ การจัดซื้อแล็ปท็อปให้แก่นักเรียนจะเป็นประโยชน์กับเด็กมาก เพราะจะเป็นเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ได้หลายๆ ด้าน
นายสมชาย กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นการศึกษาว่าจะลงทุนอย่างไรจึงจะคุ้มกับเด็ก และจะเป็นเด็กในกลุ่มไหน เพราะเราไม่ให้ทุกคน เด็กที่จะนำแล็ปทอปไปใช้จะต้องมีความพร้อมมากแค่ไหน และจะต้องเตรียมความพร้อมกันอย่างไรก่อนที่จะนำเครื่องไปใช้ ซึ่งต้องลงไปดูในพื้นที่ เพราะขณะนี้ทราบว่าโรงเรียนบ้านสามขา จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่กันดารและอยู่ห่างไกลได้นำไปใช้แล้ว
“พวกผมจะทำตรงนี้ให้เกิดประโยชน์จริงๆ ไม่ได้มาหาเสียงหรือมาหาผลประโยชน์เอาค่านายหน้าจากการทำโปรเจกต์นี้ แต่ก่อนทำก็ต้องศึกษาให้ชัดเจนก่อน โดยจะตั้งคณะกรรมการชุดเล็กของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขึ้นมาศึกษาด้วย เพราะปัจจุบันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้กับการเรียนรู้ มิฉะนั้นเราจะล้าหลังประเทศเพื่อนบ้าน” นายสมชาย กล่าว
