“ไชยา” ปัดยังไม่สรุปคุมโฆษณาเหล้า ขอหารือคณะทำงานก่อน ลั่นไม่อุ้มธุรกิจน้ำเมาแน่ ตั้งข้อสังเกตบริษัทขายเหล้าได้ลดลง แต่สถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลกลับเพิ่มขึ้น สั่ง อย.ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก เน้นกลุ่มเหล้าปลอม กลั่นเองตามจังหวัดชายแดน หวั่นใส่สารเสพติด อันตรายต่อสุขภาพ
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังจากที่ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการออกกฎกระทรวงขึ้นมากำกับ โดยเฉพาะการควบคุมเวลาโฆษณาที่ยังมีข้อโต้เถียงกันอยู่ ซึ่งตนยังไม่มีแนวทางในการดำเนินการเรื่องนี้ คงต้องรอหารือร่วมกับคณะทำงานเรื่องนี้ก่อนว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
“มีสื่อกล่าวหาว่าผมอุ้มธุรกิจน้ำเมา เรื่องนี้ไม่จริง แค่ผมพูดว่าธุรกิจเหล้ามีรายได้ดี รัฐก็ได้ประโยชน์เก็บภาษีได้เยอะ แต่จากการตรวจสอบข้อมูลในขณะนี้ พบว่า ยอดขายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลง ทำให้จัดเก็บภาษีลดลง แต่ข้อมูลดังกล่าวกลับสวนทางกับสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ดังนั้น จึงต้องกลับไปตรวจสอบดูใหม่ว่าปัญหามาจากอะไรกันแน่ ซึ่งผมก็ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเหล้ากลั่นจำนวนมาก จึงคิดว่าควรจะต้องตรวจสอบเรื่องเหล้าปลอม เหล้าเถื่อนอย่างจริงจัง”นายไชยา กล่าว
นายไชยา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ให้ข้อมูลเหล้าเถื่อน ปลอม ที่จำหน่ายตามต่างจังหวัดโดยเฉพาะในแถบชายแดนให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อตรวจสอบหาข้อมูลเชิงลึกว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร รวมถึงสารที่ใส่ลงไปในเหล้าว่าเป็นอะไร เป็นสารเสพติดหรือไม่ เมื่อได้ข้อมูลที่ชัดเจนแล้ว ตนจะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนอย่างมาก
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังจากที่ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการออกกฎกระทรวงขึ้นมากำกับ โดยเฉพาะการควบคุมเวลาโฆษณาที่ยังมีข้อโต้เถียงกันอยู่ ซึ่งตนยังไม่มีแนวทางในการดำเนินการเรื่องนี้ คงต้องรอหารือร่วมกับคณะทำงานเรื่องนี้ก่อนว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
“มีสื่อกล่าวหาว่าผมอุ้มธุรกิจน้ำเมา เรื่องนี้ไม่จริง แค่ผมพูดว่าธุรกิจเหล้ามีรายได้ดี รัฐก็ได้ประโยชน์เก็บภาษีได้เยอะ แต่จากการตรวจสอบข้อมูลในขณะนี้ พบว่า ยอดขายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลง ทำให้จัดเก็บภาษีลดลง แต่ข้อมูลดังกล่าวกลับสวนทางกับสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ดังนั้น จึงต้องกลับไปตรวจสอบดูใหม่ว่าปัญหามาจากอะไรกันแน่ ซึ่งผมก็ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเหล้ากลั่นจำนวนมาก จึงคิดว่าควรจะต้องตรวจสอบเรื่องเหล้าปลอม เหล้าเถื่อนอย่างจริงจัง”นายไชยา กล่าว
นายไชยา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ให้ข้อมูลเหล้าเถื่อน ปลอม ที่จำหน่ายตามต่างจังหวัดโดยเฉพาะในแถบชายแดนให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อตรวจสอบหาข้อมูลเชิงลึกว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร รวมถึงสารที่ใส่ลงไปในเหล้าว่าเป็นอะไร เป็นสารเสพติดหรือไม่ เมื่อได้ข้อมูลที่ชัดเจนแล้ว ตนจะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนอย่างมาก
