เครือข่ายองค์กรงดเหล้า เชื่อ “หมอไชยา” ไม่รู้ข้อมูลโฆษณากระตุ้นนักดื่มหน้าใหม่ ยันยังไม่เคลื่อนไหว แต่จะจับตาใกล้ชิด ชี้ กม.เหล้าบังคับใช้แล้ว จี้ สธ.คุมเข้ม ห้ามขายปั๊มน้ำมัน หอพัก ห้ามลด-แลก-แจก-แถม อายุต่ำกว่า 20 ซื้อเหล้าไม่ได้
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี เครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า การตัดสินว่าการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีหรือไม่มีผลกับการเพิ่มการบริโภค และสร้างนักดื่มหน้าใหม่ ไม่อาจตัดสินได้ด้วยความรู้สึก ต้องใช้การศึกษาวิจัย ที่มีผลยืนยันทั้งจากต่างประเทศ และในประเทศ ว่า โฆษณามีผลโดยตรงต่อการกระตุ้นเด็กและเยาวชนให้ดื่มสุรา ซึ่งเข้าใจว่า รมว.สาธารณสุข อาจยังไม่ได้รับข้อมูลเหล่านี้ แต่ประสบการณ์ที่ชัดเจนของสังคมไทย คือ เมื่อห้ามโฆษณาบุหรี่ในทุกสื่อตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เยาวชนไทยสูบบุหรี่ลดลง และคงต้องตั้งคำถามว่า เหตุใดธุรกิจเหล้าจึงต้องทุ่มเงินโฆษณาปีละกว่า 2 พันล้าน หากไม่มีผล
“ตอนนี้เครือข่ายจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพราะผมยังเชื่อว่า รมว.สาธารณสุข มีความห่วงใยเยาวชน หากได้รับรู้ข้อมูลความจริงทั้งหมด คุณไชยา คงจะเห็นด้วยกับการจำกัดการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกำหนดมาตรการที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อสังคม ไม่ใช่การคำนึงถึงเรื่องเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่เราจะจับตาท่าทีของท่านอย่างใกล้ชิดต่อไป” นายสงกรานต์ กล่าว
นายสงกรานต์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เครือข่ายและภาคประชาชนที่ลงชื่อสนับสนุนกว่า 13 ล้านชื่อ ซึ่งร่วมผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนมีผลบังคับเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา อยากจะให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่ พ.ร.บ.กำหนดทันที ก่อนที่จะหาข้อสรุปเรื่องการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือ 1.การห้ามจำหน่ายด้วยการลด แลก แจก แถม ชิงโชค ขายพ่วง 2.การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้อายุต่ำกว่า 20 ปี 3.การห้ามจำหน่ายตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ปั๊มน้ำมัน หอพัก สถานศึกษา ศาสนสถาน เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่ต้องรอออกกฎกระทรวง
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี เครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า การตัดสินว่าการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีหรือไม่มีผลกับการเพิ่มการบริโภค และสร้างนักดื่มหน้าใหม่ ไม่อาจตัดสินได้ด้วยความรู้สึก ต้องใช้การศึกษาวิจัย ที่มีผลยืนยันทั้งจากต่างประเทศ และในประเทศ ว่า โฆษณามีผลโดยตรงต่อการกระตุ้นเด็กและเยาวชนให้ดื่มสุรา ซึ่งเข้าใจว่า รมว.สาธารณสุข อาจยังไม่ได้รับข้อมูลเหล่านี้ แต่ประสบการณ์ที่ชัดเจนของสังคมไทย คือ เมื่อห้ามโฆษณาบุหรี่ในทุกสื่อตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เยาวชนไทยสูบบุหรี่ลดลง และคงต้องตั้งคำถามว่า เหตุใดธุรกิจเหล้าจึงต้องทุ่มเงินโฆษณาปีละกว่า 2 พันล้าน หากไม่มีผล
“ตอนนี้เครือข่ายจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพราะผมยังเชื่อว่า รมว.สาธารณสุข มีความห่วงใยเยาวชน หากได้รับรู้ข้อมูลความจริงทั้งหมด คุณไชยา คงจะเห็นด้วยกับการจำกัดการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกำหนดมาตรการที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อสังคม ไม่ใช่การคำนึงถึงเรื่องเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่เราจะจับตาท่าทีของท่านอย่างใกล้ชิดต่อไป” นายสงกรานต์ กล่าว
นายสงกรานต์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เครือข่ายและภาคประชาชนที่ลงชื่อสนับสนุนกว่า 13 ล้านชื่อ ซึ่งร่วมผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนมีผลบังคับเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา อยากจะให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่ พ.ร.บ.กำหนดทันที ก่อนที่จะหาข้อสรุปเรื่องการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือ 1.การห้ามจำหน่ายด้วยการลด แลก แจก แถม ชิงโชค ขายพ่วง 2.การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้อายุต่ำกว่า 20 ปี 3.การห้ามจำหน่ายตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ปั๊มน้ำมัน หอพัก สถานศึกษา ศาสนสถาน เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่ต้องรอออกกฎกระทรวง
