xs
xsm
sm
md
lg

เขียนลาย “ดอกแก้วกัลยา” ลงฉากบังเพลิงสื่อถึงน้ำพระทัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กรมศิลปากร เผยความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุและพระโกศจันทน์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เขียนลาย “ดอกแก้วกัลยา” ดอกไม้ประดิษฐ์ที่ทรงพระราชทานให้กับผู้พิการ ลงบนฉากบังเพลิงสื่อความหมายถึงน้ำพระทัยที่สดใส ส่องสว่าง ให้ความอบอุ่นแก่พสกนิกรและผู้พิการทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 15 ก.พ.เวลา 13.30 น. นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วยผู้บริหาร และผู้ชำนาญการ กรมศิลปากร แถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินการงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในส่วนของกรมศิลปากร โดย นายเกรียงไกร กล่าวว่า เนื่องจากได้มีการเปลี่ยนแปลงประธานคณะกรรมการอำนวยการงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จาก พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ มาเป็น นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ตนจึงได้มอบหมายให้ทุกหน่วยที่รับผิดชอบแต่ละงาน รวบรวบข้อมูลการทำงานทั้งหมดเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการอำนวยการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม งานในภาพรวมมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ คณะทำงานเตรียมความพร้อมสนามหลวงได้ล้อมรั้วสีเขียวรอบสนามหลวงเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ส่วนการก่อสร้างอาคาร 3 หลัง ประกอบด้วย อาคารขยายแบบ อาคารสร้างพระโกศ และอาคารปั้นหล่อนั้นคาดจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.นี้ ส่วนพระโกศจันทน์หลังได้รับมอบมาแล้ว ช่างสิบหมู่กำลังแปรรูปไม้แต่ละแผ่นให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ สุดท้ายการบูรณะราชรถ ราชยาน ทางช่างกรมสรรพพาวุธได้เข้าไปซ่อมแซมช่วงล่าง ล้อ เพลา กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์เข้าไปทำความสะอาดเบื้องต้นแล้ว

นายกมล สุวุฒโฑ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนาศิลป์ ในฐานะอนุกรรมการออกแบบฉากบังเพลิง กล่าวว่า ฉากบังเพลิงนั้นหมายถึงประตูกั้นทางขึ้น-ลงพระเมรุ ใช้ปิดเวลาถวายพระเพลิง มักเขียนเป็นรูปเทวดาในอิริยาบถต่างๆ มีลักษณะเป็นฉากพับได้ ติดไว้กับเสาพระเมรุทั้ง 4 ด้าน เวลาถวายพระเพลิงจึงดึงหรือยกมาปิดไว้เพื่อบังมิให้เห็นแสงเพลิง ซึ่งลักษณะของฉากบังเพลิงในพระราชพิธีจะเป็นฉากพับได้ 1 ด้าน มี 4 พับ ใช้บังทั้ง 4 ด้าน ด้านทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออกออก ทิศตะวันตก โดยลักษณะภาพฉากพับด้านหน้า จะเป็นภาพเทวดาเหาะ 2 คู่ อยู่ทางด้านขวาของพระเมรุ และนางฟ้า 2 คู่อยู่ทางด้านซ้ายของพระเมรุ รวมเทวดา 8 คู่ 16 องค์ นางฟ้า 8 คู่ 16 องค์ทั้ง 4 ด้าน มือถือเครื่องสูง ซึ่งภาพลายเทวดาจะใช้เฉพาะพระศพของราชวงศ์เท่านั้น

“ส่วนภาพฉากพับด้านหลัง จะเป็นภาพลายดอกแก้วผูกเป็นลายเถามีความเชื่อมต่อกัน ซึ่งดอกแก้วกัลยานั้น เป็นดอกไม้ประดิษฐ์ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพื่อเป็นดอกไม้แห่งสัญลักษณ์ของคนพิการทั่วประเทศ ซึ่งดอกแก้วกัลยา สื่อความหมายถึงดอกไม้จากนางแก้ว ที่มีน้ำพระทัยสดใสให้แสงสว่าง อบอุ่นกับมวลหมู่พสกนิกร และคนพิการในแผ่นดินไทย ดังน้ำพระราชหฤทัยจากพระองค์ ส่วนภาพเทวดาและนางฟ้าพร้อมด้วยเครื่องสูงต่างๆ นั้น สื่อถึงการนำส่งเสด็จขึ้นสู่สวรรคาลัย โดยภาพลายฉากบังเพลิงทั้งหมดนี้จะเป็นสีทองบนพื้นแดง ทั้งนี้ ลายส่วนล่างสุดของฉากบังเพลิงจะเป็นลายสัตว์หิมพานต์ ตรงกลางเป็นลายเทวดาและนางฟ้า ส่วนด้านบนสุดจะอัญเชิญพระลัญจกร กว.ในพระองค์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มาประดิษฐานไว้ด้วย"นายกมล กล่าว

นายนิยม กลิ่นบุบผา หัวหน้ากลุ่มงานประณีตศิลป์ สำนักช่างสิบหมู่ กล่าวว่า สำหรับการสร้างพระโกศจันทน์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นำต้นแบบมาจากพระโกศจันทน์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี แต่จะแตกต่างกันที่ลายประดับเท่านั้น ซึ่งจะใช้เป็นลักษณะหีบพระศพสี่เหลี่ยมด้านล่างและมีพระโกศตั้งอยู่ด้านบน โดยคณะช่างได้สรุปความเห็นแล้วว่าพระโกศจันทน์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นั้นจะใช้ตามลายแบบโบราณราชประเพณี ตัวโกศจะเป็นลายกลีบบัวดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ตามคติความเชื่อพุทธศาสนา ส่วนบริเวณกลีบบัวจะประดับด้วยลายใบเทศจะสวยงามที่สุด

ทั้งนี้ พระโกศจันทน์ทำหน้าที่เป็นฟืน แต่เป็นฟืนตามบรรดาศักด์สำหรับเจ้านายชั้นสูง ส่วนฟืนจริงจะวางอยู่บนพระจิตกาธานอีกชั้นหนึ่ง เมื่อเป็นฟืนสำหรับเจ้านายชั้นสูงจึงต้องมีการแกะสลัก ประดับประดาสวยงาม ฉลุฟืนเป็นลวดลายล้อมโกศ โดยใช้ไม้จันทน์ซึ่งเป็นไม้ที่สูงศักดิ์

ด้านนายไพบูลย์ ผลมาก ผู้อำนวยสำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร กล่าวว่า ขณะนี้แบบร่างอาคารพระที่นั่งทรงธรรม และหอเปลื้องได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยพระที่นั่งทรงธรรมจะติดตั้งลิฟต์ 2 ตัวสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งพระที่นั่งทรงธรรมนั้นจะหันด้านหน้าไปทางพระเมรุ มีลักษณะเป็นรูปตัวที (T) หงาย ซึ่งด้านหน้าจะเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ส่วนด้านหลังจะเป็นห้องทรงพระสำราญ หลังจากนี้สำนักสถาปัตยกรรมจะเร่งดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

**พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ทั่วประเทศ ถวายเป็นพระกุศล
ส่วนที่พระบรมบรรพตภูเขาทอง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พระธรรมสิทธินายก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กล่าวถึงการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ระหว่างวันที่ 19-21 ก.พ.2551 ว่า วันมาฆบูชาถือว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ทีมีเหตุมหัศจรรย์ เกิดขึ้น 4 ประการ ได้แก่ 1.เป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 2.พระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย 3.พระสงฆ์ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์ 4.พระสงฆ์ทั้งหมดเป็นผู้ได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า ซึ่งวันมาฆบูชาปีนี้ การจัดงานจะอยู่ที่วัดสระเกศ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ทั่วประเทศ มาร่วมกันลดการทำบาปทั้งปวง สร้างกุศลให้เกิดขึ้นในจิตใจ ตลอดจนทำจิตใจให้ผ่องใส เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ด้วย

นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมวันมาฆบูชาปีนี้ ศน.ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.)จัดงานขึ้นที่วัดสระเกศ ซึ่งในครั้งนี้ ศน.ได้จัดกิจกรรมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกิจกรรมที่จะให้ประชาชนร่วมกันถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการเรื่อง พระมหากษัตริย์กับงานพระพุทธศาสนา : สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯกับพระพุทธศาสนา ซึ่งจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับ พระราชกรณียกิจที่ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ในขณะเดียวกัน ในช่วงเย็นของแต่ละวันระหว่างวันที่ 19-21 ก.พ.จะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีเจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯด้วย

ที่สำคัญ ในวันที่ 21 ก.พ.ซึ่งจะตรงกับวันมาฆบูชา และเป็นวันสิ้นพระชนม์ครบรอบ 50 วัน ทาง ศน.และวัดสระเกศ จะจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป ที่บริเวณลานพระบรมบรรพต หรือภูเขาทอง ในเวลา 07.00 น.และในเวลา 20.15 น.พระสงฆ์ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีเจริญจิตภาวนา พร้อมกันทุกวัดทั่วประเทศ เพื่อถวายเป็นพระกุศล แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯอีกด้วย







กำลังโหลดความคิดเห็น