เครือข่ายเยาวชนโครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจฯ เผยวัยรุ่นต้องการให้สอนเพศศึกษาแบบตรงไปตรงมา ไม่ปิดบังและเปิดใจ มาแรงเป็นอันดับหนึ่ง ด้านผู้ใหญ่อยากให้บรรจุเพศศึกษาเข้าสู่สถานศึกษา หวังลูกหลานได้เรียนรู้จากระบบการศึกษาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
นางสาวอุษาสินี ริ้วทอง เจ้าหน้าที่โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ องค์การแพธ กล่าวว่า เครือข่ายเยาวชน โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ องค์การแพธ ได้สรุป 10 ลำดับ ความคิดเห็นของเยาวชนที่มีต่อเพศศึกษาในหัวข้อ “เพศศึกษาแบบไหนที่วัยรุ่นอยากเรียน” ซึ่งรวบรวมได้จากเยาวชน 777 คน ขณะทีมเยาวชนในโครงการ เดินแจกสื่อรณรงค์เพศศึกษาทั่วบริเวณสยามสแควร์และสถานีรถไฟฟ้า 6 จุดใหญ่ ภายในกิจกรรม “วาเลนไทน์วัย X ต้อง Sex Education” เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2551 ที่ผ่านมา พบว่า เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ต้องการการเรียนรู้เพศศึกษาแบบตรงไปตรงมา ไม่ปิดบังและเปิดใจมากที่สุด รองลงมา คือ ต้องการเรียนเพศศึกษาโดยใช้สื่อประกอบที่ชัดเจน เช่น วีซีดีการ์ตูน ส่วนอันดับ 3 อยากให้ผู้ใหญ่เปิดใจเรื่องเพศศึกษา เพื่อเด็กจะได้กล้าปรึกษาผู้ใหญ่มากขึ้น 4.ต้องการเรียนรู้วิธีป้องกัน หรือ Safe Sex ที่ถูกต้องและปลอดภัย 5.อยากเรียนรู้เพศศึกษาจากเรื่องเล่าที่เป็นประสบการณ์จริงของผู้ใหญ่ 6.อยากให้ครูสอนอย่างสนุกสนาน เฮฮา ไม่เครียด 7.อยากให้สอนเพศศึกษาที่เหมาะสมกับวัยผู้เรียน 8.มีการเชิญวิทยากรผู้มีความรู้จากหน่วยงานต่างๆ มาให้ความรู้เพศศึกษาที่หลากหลาย 9.มีการสอนแบบยกตัวอย่างประกอบ และ 10.อยากให้เรียนในสิ่งที่นำไปปฏิบัติได้จริง
ด้านความคิดเห็นของผู้ใหญ่หรือผู้ปกครอง 10 ลำดับแรก จาก 460 คน ที่รวบรวมได้ในวันงาน ในหัวข้อ “เพศศึกษาแบบไหนที่วัยรุ่นควรเรียน” พบว่า ผู้ใหญ่ต้องการให้เพศศึกษาบรรจุอยู่ในหลักสูตร เพื่อให้ลูกหลานได้เรียนรู้จากระบบการศึกษามากที่สุด รองลงมาคือ อยากให้เยาวชนทราบวิธีคุมกำเนิดและวิธีป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ 3.ต้องการให้รู้คุณ รู้โทษ และผลที่ตามมาจากการมีเพศสัมพันธ์ 4.เยาวชนไทยควรเรียนรู้วิธีการดูแลตนเองที่ปลอดภัย 5.ต้องการให้เยาวชนได้เรียนเพศศึกษาอย่างเปิดเผย พร้อมทั้งมีการสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่าง 6.ควรมีผู้ใหญ่คอยให้คำแนะนำนอกเหนือการจากเรียนการสอนเพศศึกษาตามปกติ 7.ควรมีการสอนเพศศึกษาแบบรอบด้าน 8.อยากให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เมื่อพร้อม 9.ต้องการให้มีสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยและทันเหตุการณ์ 10.ต้องการให้เยาวชนเรียนรู้ว่าเพศสัมพันธ์เรื่องธรรมชาติของมนุษย์
สำหรับความคิดเห็นในเว็บไซต์ www.teenpath.net ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปแสดงความคิดเห็นในประเด็นการสอนเพศศึกษาในสถานศึกษา พบว่าประเด็น “ถึงเวลาแล้วที่เพศศึกษาควรเป็นวิชาบังคับสำหรับนักเรียนทุกระดบชั้น” มีผู้เข้ามาร่วมโหวตแสดงความเห็นด้วยสูงถึง 259 คน จากจำนวนผู้โหวตหัวข้อนี้ทั้งหมด 277 คน คิดเป็น 93.50% เช่นเดียวกับหัวข้อ “หากสามารถพูดคุยอย่างเปิดใจได้กับพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ที่ดูแลในเรื่องเพศและเรื่องแฟน คุณคิดว่าจะทำให้ตัดสินใจเรื่องนี้ได้ดีและปลอดภัยขึ้น” มีผู้โหวตเห็นด้วยกว่า 152 คน จากจำนวนทั้งหมด 165 คน คิดเป็น 92.12%
นอกจากนี้ ยังมีวัยรุ่นเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเพศศึกษาในช่วงวันวาเลนไทน์หลากหลายประเด็น อาทิ อยากให้โรงเรียนสอนเรื่องเพศศึกษามากกว่าที่เป็นอยู่ และมีเนื้อหาที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง รวมทั้งอยากให้มีการเปิดใจพูดคุยเรื่องเพศศึกษาระหว่างเยาวชนและผู้ปกครองได้อย่างเปิดอก เพื่อจะได้ทราบวิธีป้องกันตัวมากยิ่งขึ้น
นางสาวอุษาสินี กล่าวในตอนท้ายว่า “ผลสำรวจที่รวบรวมได้ทั้งหมดข้างต้น สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของเยาวชนที่จะเรียนรู้เพศศึกษาอย่างเปิดเผย รวมทั้งการสนับสนุนของผู้ปกครองหรือประชาชนทั่วไปซึ่งต้องการให้สถานศึกษาเป็นแหล่งการเรียนรู้เรื่องเพศที่สอดคล้องกับธรรมชาติของวัยรุ่นและวิถีชีวิตในปัจจุบัน ด้วยวิธีการและสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัย นำไปใช้ได้จริง ผลโพลนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริหารการศึกษาเพื่อวางแผนบรรจุการเรียนเพศศึกษาให้อยู่ในหลักสูตรสถานศึกษาอย่างจริงจัง โดยคำนึงถึงประโยชน์จากการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องของเยาวชนเป็นหัวใจสำคัญ”