xs
xsm
sm
md
lg

พระบรมฯ-พระเทพ ทรงรับเป็นประธานที่ปรึกษา คกก.ถวายพระเพลิงพระศพพระพี่นางฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รับเป็นองค์ประธานที่ปรึกษา คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อธิบดีกรมศิลปากร เผย ในครั้งงานพระเมรุสมเด็จย่า ทั้ง 2 พระองค์เสด็จฯ ทรงร่วมประชุมด้วยทุกครั้ง เตรียมตั้งกล้องบันทึกการก่อสร้างพระเมรุทุกขั้นตอน เพื่อทำจดหมายเหตุ

คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า หลังจากที่หมดวาระจากตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม แล้ว ตนไม่มีความเป็นห่วงเรื่องการดำเนินงานจัดสร้างพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จะต้องรับผิดชอบต่อไป เพราะทุกกรม ทุกสำนักมีผู้เชี่ยวชาญ ช่างเทคนิคทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถอยู่แล้ว มั่นใจว่าการบูรณะราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบทั้งหมด จะเสร็จภายใน 3-4 เดือนตามที่ น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานคณะกรรมการออกแบบและก่อสร้างพระเมรุ ตั้งเป้าไว้ และจากที่ได้เข้ามาทำงานเรื่องการก่อสร้างพระเมรุ ได้รับทราบปัญหาขาดช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ทั้งสำนักช่างสิบหมู่ สำนักการสังคีต เบื้องต้นได้เร่งให้มีการศึกษาปัญหาหาสาเหตุที่ขาดบุคลากรด้านนี้ พร้อมกับวางแผนพัฒนาบุคลากร งบประมาณให้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศ

**สมเด็จพระบรมฯ-พระเทพฯรับเป็นองค์ประธาน
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากคณะกรรมการอำนวยจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นองค์ประธานที่ปรึกษา คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ซึ่งจากการศึกษาภาพบันทึกในงานเมื่อครั้งงานพระราชพิธีของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทั้ง 2 พระองค์ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประชุมร่วมกับคณะกรรมการอำนวยการ ทุกครั้ง

ในครั้งนี้ คณะกรรมการอำนวยการ จะกราบบังคมทูลเชิญทั้ง 2 พระองค์ทรงเป็นองค์ประธานในการประชุมคณะทำงานชุดต่างๆ เพื่อถวายรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ด้วย ส่วนในเรื่องของวันเวลาการประชุมนั้น คงจะต้องรอรัฐบาลชุดใหม่

นายเกรียงไกร กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดสร้างพระเมรุ และการจัดทำจดหมายเหตุพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทางกรมศิลปากร จะดำเนินการตั้งกล้องวิดีโอบันทึกความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุอย่างต่อเนื่อง บริเวณท้องสนามหลวง ด้านทิศใต้ เพื่อบันทึกวิธีการ กระบวนการก่อสร้างพระเมรุ ตลอดจนบันทึกความคืบหน้าตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งสร้างเสร็จตลอด 24 ชั่วโมง ในการนำมาทำเป็นจดหมายเหตุ รวมถึงเก็บรวบรวมไว้ให้ประชาชนที่สนใจได้ศึกษาที่สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติด้วย

นอกจากนี้ ตนยังมีความเป็นห่วงงานพิธีสำคัญๆ ซึ่งจะมีสื่อมวลชนมาทำข่าวเป็นจำนวนมาก เกรงว่า ภาพที่ออกมาจะไม่งดงาม ดังนั้น เมื่อมีการจัดงานสำคัญในครั้งต่อไปอาจจะมีการจัดพื้นที่ให้สื่อมวลชนเป็นการเฉพาะ เพื่อให้ภาพที่สื่อออกมามีความสวยงามมากขึ้น

นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ดำเนินการบันทึกและรวบรวมจัดทำจดหมายเหตุชาวบ้าน ทั้งเหตุการณ์การทำกิจกรรมการถวายสักการะของประชาชน และข่าวสาร บทความ จากสื่อมวลชน ที่เผยแพร่งานพระราชพิธีพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯด้วย เพื่อเก็บบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ในส่วนความจงรักภักดีของราษฎรที่มีต่อพระองค์ ส่วนพระราชพิธีในด้านอื่นๆ ขณะนี้ได้ทำการบันทึกเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่อง ในส่วนที่นักจดหมายเหตุไม่สามารถเข้าไปบันทึกได้ กรมศิลปากร ก็จะประสานกับสำนักพระราชวัง เพื่อดำเนินการขอข้อมูลต่างๆ ให้เกิดความครบถ้วนสมบูรณ์ต่อไป

**ทดสอบเชือกลากราชรถ-ราชยาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (6 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมอู่ทหารเรือ เข้าตรวจสอบห่วงที่ ราชรถ-ราชยาน สำหรับใช้เชือกมัดชักลาก ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการเข้าวัดความยาวเชือกที่เหมาะสม สำหรับชักลากราชรถราชยานที่ใช้ในงานราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทั้งนี้ กรมอู่ทหารเรือตรวจสอบเชือกที่ใช้สำหรับชักลากพระมหาพิชัยราชรถ เวชยันตราชรถ ซึ่งใช้เชือกขนาดใหญ่สำหรับชักลากด้านหน้า 4 สาย ด้านหลัง 2 สาย ใช้ผู้ชักลากทั้งหมด 216 คน ส่วนราชรถน้อยจะใช้เชือกชักลากจำนวนเท่ากัน แต่ใช้คนเพียง 74 คนในการชักลาก

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะมีการปรับเปลี่ยนเชือกสำหรับชักลาก จากเดิมใช้เชือกมะลิลาเป็นเชือกที่กองทัพเรือใช้กับเรือรบแทน เนื่องจากมีความเหนียวไม่ยืดง่าย ทนทาน และนิ่ง อีกทั้งจะมีการเพิ่มตะขอเกี่ยวเป็น 2 ตะขอกับราชรถทุกองค์ โดยจะต้องมีการนำเสนอต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น