“คุณหญิงไขศรี” เผย วธ.ถวายรายงานการก่อสร้างพระเมรุต่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ อย่างต่อเนื่อง โดยพระองค์ทรงติดตามงานอย่างใกล้ชิด รมว.วธ.วอนพ่อค้าอย่าฉวยโอกาส นำหนังสือเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่หน่วยงานต่างๆ พิมพ์แจกไปจำหน่าย ฝากประชาชนหากไม่เก็บไว้ก็ขอให้นำไปบริจาคสถานศึกษาอย่าขายต่อ วธ.ตั้งหน่วยงานเผยแพร่ข่าวการจัดสร้างพระเมรุต่อสื่อมวลชน โดยให้อธิบดีกรมศิลป์ แถลงข่าวทุก 2 วัน
คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุ ในพระราชพิธีพระราชเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ว่า ตามที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงมีรับสั่งให้ปั้นสัตว์หิมพานต์ 3 คู่ประดับในจุดทางขึ้น-ลงพระเมรุนั้น สำนักช่างสิบหมู่จะเป็นผู้ดำเนินการ โดยใช้ช่างฝีมือดีของสำนักช่างสิบหมู่เองจากเมืองเพชรบุรี ขณะนี้ทราบว่ามีตัวช่างปั้นอยู่แล้ว ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบในการก่อสร้างพระเมรุ ได้ถวายรายงานต่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เป็นระยะๆ โดยตลอด ส่วนใหญ่จะถวายรายงานต่อพระองค์ในช่วงเช้าหลังจากที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ แล้ว ซึ่งพระองค์ทรงให้ความสนพระทัยและทรงติดตามงานเสมอ แม้แต่การติดต่อประสานจัดหากระดาทองย่นจากประเทศจีน เพื่อนำมาใช้ในการตบแต่งลวดลายพระเมรุ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ก็ทรงรับที่จะประสานด้วยพระองค์เอง โดยพระองค์ทรงทราบด้วยว่าที่เมืองไหนมีกระดาษทองย่นคุณภาพดีจำหน่าย
คุณหญิงไขศรี กล่าวต่อไปอีกว่า การก่อสร้างพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนติดตามเสนอข่าวจำนวนมาก เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุอย่างต่อเนื่อง ตนจะจัดให้มีหน่วยงานที่จะทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวการก่อสร้างพระเมรุต่อสื่อมวลชน โดยมอบหมายให้นางสมลักษณ์ เจริญพจน์ รองอธิบดีกรมศิลปากร เป็นผู้รับผิดชอบดูแล โดยนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร จะแถลงข่าวความคืบหน้าทุกๆ 2 วัน หรือหากเป็นเรื่องใหญ่ก็ให้เป็นหน้าที่ของปลัด วธ.หรือ รมว.วธ. เป็นผู้แถลงข่าวต่อสื่อ
นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าตนจะเรียกประชุมคณะทำงานจัดทำจดหมายเหตุแห่งชาติ เพื่อเร่งทำงานเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงรุก เนื่องจากสื่อทุกแขนงได้นำเสนอข่าว พระจริยวัตร พระกรณียกิจ ตลอดจนมีหน่วยงานต่างๆ แต่งโคลง กลอน หรือประพันธ์บทเพลงถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อยู่ทุกวันอย่างต่อเนื่อง หากไม่เร่งดำเนินการตั้งแต่วันนี้ รอกระทั่งพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เสร็จสิ้นแล้วเกรงจะไม่ทัน ซึ่งการเก็บข้อมูลต่างๆ นั้น ต้องเก็บข้อมูลทุกประเภทในรูปดิจิตอล ส่วนการบันทึกลงในเอกสารจดหมายเหตุคงต้องนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ และคัดเอาเฉพาะที่สำคัญ
**วอนพ่อค้าอย่าฉวยโอกาสขายหนังสือแจกฟรี
สำหรับกรณีที่มีพ่อค้านำหนังสือที่หน่วยงานต่างๆ พิมพ์ออกมาเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ สำหรับแจกประชาชนออกมาวางจำหน่ายนั้น รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ตนทราบข่าวเหมือนกันว่ามีพ่อค้านำหนังสือที่หน่วยงานราชการพิมพ์แจกประชาชนออกมามาวางจำหน่าย โดยทราบว่าพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เรื่องแม่เล่าให้ฟัง เจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์ ที่ วธ.จัดพิมพ์เพื่อแจกให้บุคคลสำคัญ สถาบันการศึกษา และห้องสมุดต่างๆ นั้น มีผู้นำไปจำหน่ายราคาสูงถึงพันกว่าบาท อย่างไรก็ตาม ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ได้มีดำริที่จัดพิมพ์พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ออกจำหน่ายเพื่อนำรายได้เข้าสมทบกองทุนการกุศล เพราะต่อไปพระนิพนธ์เหล่านี้จะกลายเป็นหนังสือหายาก
“ขอฝากไปถึงพ่อค้าและประชาชนทุกคนด้วยว่า ขออย่าฉวยโอกาสนำหนังสือที่หน่วยงานราชการพิมพ์แจกไปจำหน่าย เพราะการที่พิมพ์แจกให้กับประชาชนก็เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และสดุดีพระเกียรติคุณสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ หากอ่านจบแล้วไม่อยากเก็บไว้ก็ควรนำไปบริจาคให้สถาบันการศึกษา หรือห้องสมุดเพื่อให้คนรุ่นหลังได้อ่านต่อ ขออย่านำไปขายต่อ” คุณหญิงไขศรีกล่าว
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย ณ นครพนม ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดโรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ให้คณะทำงานและช่างฝีมือจากสำนักช่างสิบหมู่ประมาณ 10 คน สำรวจสภาพ พระมหาพิชัยราชรถ พระเวชยันตราชรถ ราชรถน้อย ยานมาศสามลำคาน ซึ่งเป็นราชรถและราชยานที่จะใช้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้ทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร จะของบประมาณกรมศิลปากรในการสั่งซื้อกล้องวงจรปิดอีก 5 ตัวติดตั้งในโรงราชรถ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น ในการป้องกันโบราณวัตถุที่จัดแสดงภายในโรงราชรถสูญหาย ที่สำคัญกล้องวงจรปิดยังเป็นข้อดีในการบันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการบูรณะราชรถ ราชยาน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาในอนาคตด้วย
ด้านนายนิยม กลิ่นบุปผา นายช่างศิลปกรรม 9 หัวหน้ากลุ่มประณีตศิลป์ สำนักช่างสิบหมู่ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นตนได้รับมอบหมายจากนายธนะชัย สุวรรณวัฒนะ ผอ.สำนักช่างสิบหมู่ ให้สำรวจราชรถน้อยองค์ที่มีสภาพทรุดโทรมมากที่สุด ซึ่งเหลือเพียงองค์เดียวจาก 3 องค์ ที่ยังไม่ได้รับการบูรณะ นับตั้งแต่สมัยรัชกาล 5 พบว่า จะต้องมีการซ่อมแซมหัวนาคราชรถ โดยช่างจะยึดตามทรวดทรงและลายที่ช่างในสมัยโบราณทำไว้มากที่สุด
“ส่วนวัสดุที่ใช้ซ่อมแซมบางประเภทไม่มีการผลิตแล้ว โดยเฉพาะ “กระจกเกรียบ” ซึ่งเป็นกระจกประดับนาค มีลักษณะบางๆสามารถใช้มือกดให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ บนยางรักได้โดยไม่บาดมือ เมื่อหาไม่ได้แล้ว วิธีปัจจุบันจึงต้องตัดกระจกเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ นำมาติดตกแต่งบนตัวนาคแทน เมื่อช่างได้สำรวจราชรถน้อยแล้วก็จะสำรวจสภาพของพระมหาพิชัยราชรถ พระเวชยันตราชรถ และราชยานอื่นๆด้วย โดยเฉพาะการปิดทองประดับกระจก”
