วธ.เผยรัฐบาลอนุมัติงบประมาณการก่อสร้าง “สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา” สอนดนตรีคลาสสิกแล้ว คาดใช้เวลา 3-5 ปีแล้วเสร็จ ระบุเป็นอนุสรณ์สถานให้คนไทยสำนึกในพระกรุณาธิคุณ หวังปั้นศิลปินไทยสร้างชื่อเสียงระดับโลก เทิดพระเกียรติ “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ”
คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรรม เปิดเผยถึงการก่อตั้งสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงสนพระทัยการฟังดนตรีคลาสสิกเป็นพิเศษ โดยภายหลังจากที่ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีคลาสสิกของนักเรียนที่ประทานทุนทรัพย์ส่งเสริมดนตรีคลาสสิกฯ ก็มีพระดำริว่า “เราไม่มีสถาบันสอนดนตรีคลาสสิกในประเทศ” ด้วยเหตุนี้ในวโรกาสปีมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุครบ 7 รอบในวันที่ 6 พฤษภาคม 2550 รัฐบาลจึงมีมติให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดตั้งสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา บริเวณโรงงานสุราบางยี่ขัน (เดิม) ในส่วนด้านหลังพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เชิงสะพานพระราม 8 โดยมีพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ใช้งบประมาณดำเนินการกว่า 800 ล้านบาท
“ขณะนี้รัฐบาลได้ให้งบประมาณเบื้องต้นในการจัดสร้างสถาบันดนตรีฯ มาแล้วประมาณ 22 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3-5 ปีก็จะแล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีสถาบันการเรียนการสอนด้านดนตรีคลาสิกที่สามารถเปิดรับสมัครนักเรียนที่สนใจในสาขานี้เข้ามาศึกษาได้ โดยระยะแรกอาจจะรับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อผลิตนักเรียนเข้าสู่การศึกษาต่อในคณะดุริยางคศาสตร์ ระดับมหาวิทยาลัย จากนั้นในระยะต่อไปก็จะขยายการสอนไปยังระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับประถมศึกษา”
คุณหญิงไขศรี กล่าวอีกว่า ในการผลิตนักดนตรีคลาสสิกของสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ทางสถาบันจะคำนึงถึงความเสมอภาค และความหลากหลายในการจัดการเรียนการสอนภายใต้ปณิธาน “พัฒนาพรสวรรค์ สรรค์สร้างคีตกวี ผลิตนักดนตรีสู่สากลโลก” โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนที่ความสามารถทางดนตรี แต่ด้อยโอกาสเข้ารับทุนการศึกษาเพื่อเรียนในสาขานี้ได้ด้วย โดยสถาบันจะต้องคัดเลือกเด็กที่มีความพร้อม และมีพื้นฐานทางดนตรี ขณะเดียวกัน หลักสูตรที่ใช้สอนจะประยุกต์ใช้หลักสูตรจากต่างประเทศมาอ้างอิงด้วย ซึ่งเบื้องต้นจะเชิญอาจารย์ผู้สอนจากต่างประเทศมาสอนร่วมกับอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ของไทย โดยสถาบันฯ ยังมีหน้าที่ในการพัฒนามาตรฐาน และกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินมาตรฐานความรู้ ความสามารถและทักษะด้านดนตรีคลาสสิคของนักดนตรีในประเทศ เพื่อเทียบเคียงมาตรฐานสากลด้วย
“เชื่อว่าอนาคตจะต้องมีการขยายหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนถึงระดับปริญญาโท และปริญญาเอก เพื่อให้เป็นสถาบันด้านดนตรีคลาสสิกที่สมบูรณ์และมีคุณภาพ เพราะเชื่อว่าด้วยพระปณิธานของพระองค์ท่านจะเป็นแรงผลักดันให้เรามีศิลปินเอกระดับโลกได้ ที่สำคัญภายหลังจากพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เสร็จสิ้นไปแล้ว เมื่อกาลเวลาผ่านไปสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือ สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ซึ่งจะถือเป็นอนุสรณ์สถานให้พวกเราชาวไทยทุกคนได้สำนึกในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ ซึ่ง วธ.จะจัดแสดงนิทรรศการ แสงหนึ่งคือรุ้งงาม โดยเป็นห้องแสดงนิทรรศการถาวรเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ที่สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา”
