วันนี้(9 ธ.ค.)ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาที่เกิดการปะทะอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ส่งผลให้ชุมชนพื้นที่ชายแดนต้องเฝ้าระวังสูงสุด โรงเรียนจำนวนมากได้รับผลกระทบโดยตรง ต้องหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรในสังกัด โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า สถานศึกษาที่สั่งปิดเรียนชั่วคราวมีทั้งสิ้น 990 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สระแก้ว อุบลราชธานี และตราด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ใกล้แนวปะทะและเสี่ยงต่อสถานการณ์ความไม่สงบ
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ตนได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดต่าง ๆ เปิดโรงเรียนเป็นศูนย์พักพิงให้แก่บุคลากรทางการศึกษา รวมถึงเด็กนักเรียนและประชาชนในพื้นที่แล้วรวม 22 แห่ง สามารถรองรับประชาชนได้สูงสุด 14,280 คน ซึ่งทุกศูนย์มีการเตรียมพร้อมเครื่องนอน อาหาร น้ำดื่ม ระบบไฟฟ้า ห้องสุขา และพื้นที่ดูแลเด็กเล็กอย่างเต็มที่
ศ.ดร.นฤมล กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงศึกษาธิการได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่บูรณาการร่วมกับฝ่ายความมั่นคง อปท. และภาคีเครือข่ายในทุกระดับ เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพนักเรียนและครูอย่างใกล้ชิด รวมถึง ศธ.ได้เตรียมระดมทรัพยากรไปสนับสนุนโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยง ทั้งอาหาร เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ฉุกเฉิน ตลอดจนทีมดูแลด้านจิตใจให้เด็กและครู เพื่อบรรเทาความเครียดจากสถานการณ์ และสร้างความมั่นคงด้านสวัสดิภาพในระยะยาว
“ดิฉันขอขอบคุณครู–อาจารย์ และบุคลากรการศึกษาทุกท่าน ที่ยังคงทำหน้าที่ดูแลนักเรียนและประชาชนในศูนย์พักพิง แม้ในสถานการณ์ยากลำบาก ก็ยังคงยืนหยัดเพื่อเด็ก ๆ ขอให้ทุกคนรักษาความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เราจะสนับสนุนทุกด้านอย่างเต็มที่ และขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่กำลังปฏิบัติหน้าที่แนวหน้าเพื่อความปลอดภัยของประชาชน” ศ.ดร.นฤมล กล่าว


