"ธนกร" ขานรับนโยบายนายกฯ ลงพื้นที่ตรวจสถานีสูบน้ำเปรมเหนือ อยุธยา ป้องพื้นที่เศรษฐกิจ ย้ำรัฐบาลเร่งวางมาตรการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ไม่เพิกเฉยหรือละเลย ลั่นขอให้เชื่อมั่น เราจะผ่านวิกฤตไปด้วยกัน
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา- นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวพลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวจิรัฐิติกาล จันทราทิพย์ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายวีรพงษ์ เอี่ยมเจริญชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายกิติพงศ์ อติชาติพงศ์กุล อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำภายในพื้นที่แนวป้องกันชั้นใน ณ สถานีสูบน้ำเปรมเหนือบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่ดังกล่าว
นายธนกร กล่าวว่า สถานีสูบน้ำดังกล่าวมีความสำคัญต่อการรองรับน้ำและระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนจะระบายออกไปยังพื้นที่เศรษฐกิจและนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้เปิดเครื่องสูบน้ำขนาด 3 ลบ.ม/วินาที จำนวน 6 เครื่อง จาก 8 เครื่อง ระบายน้ำตามอัตราที่กรมชลประทานกำหนด ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ได้รับรายงานมั่นใจว่า ในปี 2568 น้ำจะไม่ท่วมโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอย่างแน่นอน แต่พื้นที่ต่ำ และพื้นที่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดจนพื้นที่ที่อยู่นอกเขื่อนกั้นน้ำบางแห่งอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง จึงสั่งการให้ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ประสานขอความร่วมมือโรงงานที่อยู่ทั้งในและนอกนิคมฯ ให้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยอุทกภัยด้วย
“ท่านอนุทิน ชาญวีรกุล นายกนายกฯ และรมว.มหาดไทย ห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัย จึงสั่งการให้ทุกกระทรวงเร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ วันนี้ผมจึงมาลงพื้นที่เพื่อดูสถานการณ์ล่าสุดด้วยตนเอง และยังเป็นการส่งกำลังใจให้กับพี่น้องทุกคนด้วย ยืนยันว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่านนายกฯ จะไม่เพิกเฉยหรือละเลย จะเร่งบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ ขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม จากเดิมที่ได้รับครัวเรือนละ 9,000 บาท โดยจะเพิ่มเติมและจ่ายเป็นขั้นบันได ตามระยะเวลาที่น้ำท่วมขัง หากประชาชนที่ถูกน้ำขังมากกว่า 4 เดือน มีสิทธิ์ได้รับเยียวยาทั้งสิ้น 29,000 บาท ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน“ นายธนกร กล่าว
จากนั้น คณะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ในเขตเทศบาลตำบลปราสาททอง รวมทั้งมอบถุงยังชีพพร้อมเครื่องดื่ม จำนวนกว่า 470 ชุด ให้กับประชาชนซึ่งถูกน้ำท่วมอย่างหนัก และที่พักอาศัยเสียหายอีกด้วย โดยเฉพาะที่ตำบลบางบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บ้านเรือนกว่า 35 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร


