xs
xsm
sm
md
lg

“โรม” ลั่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์-ฟอกเงิน อาณาจักรมโหฬารจ่อยึดประเทศไทย ซัด "ไชยชนก” แฉ แต่นายกฯ เงียบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โรม” ลั่น จะอยู่กันยังไง แก๊งคอลเซ็นเตอร์-ฟอกเงิน อาณาจักรมโหฬารจ่อยึดประเทศไทย ซัด “รมต.ไชยชนก” ออกมาแฉ แต่นายกฯ ยังเงียบ เตรียมเปิดเอกสารโยงรัฐ–เอกชนฟอกเงินเว็บพนัน ชี้ตัวละครมากกว่าหนึ่งคน

วันที่ 9 ต.ค. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย การปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม กมธ.ฯ ว่ามีวาระสำคัญเกี่ยวกับกรณีเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์–ฟอกเงิน ซึ่งขยายตัวเป็นอาณาจักรข้ามชาติว่า ได้มีเชิญหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และฟอกเงิน ได้แก่ ตำรวจสอบสวนกลาง, ตำรวจไซเบอร์, สำนักงาน ก.ล.ต., ธนาคารแห่งประเทศไทย และกองทัพเรือ เพื่อชี้แจงข้อมูลเชิงลึก โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนจังหวัดตราดที่ถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของขบวนการดังกล่าว

ส่วนวาระที่สอง จะพิจารณาความเกี่ยวข้องของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กับ “เบน สมิธ” โดย กมธ.ฯ ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แม้ ร.อ.ธรรมนัส จะยังไม่ยืนยันว่าจะเข้าชี้แจงด้วยตนเองหรือไม่

นอกจากนี้จะเชิญ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาชี้แจงกรณีถูกเสนอสินบนเดือนละ 40 ล้านบาท แลกกับการไม่ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยนายรังสิมันต์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะเกี่ยวพันโดยตรงกับทุนเทาที่กำลังพยายามยึดประเทศไทย ผ่านการฟอกเงินและการแทรกซึมในกลไกรัฐ

“วันนี้เรากำลังต่อสู้กับสิ่งที่ใหญ่กว่างบประมาณแผ่นดินเสียอีก เงินฟอกเหล่านี้บางส่วนถูกใช้เพื่อยึดอำนาจรัฐ บางส่วนใช้ยึดบริษัทพลังงาน และบางส่วนใช้ติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ จนกระบวนการยุติธรรมเดินไม่ได้ ถ้านายกฯ ยังเงียบ จะอยู่กันยังไง”
 
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ปัญหาการฟอกเงินมีความซับซ้อนสูง ใช้นอมินีและบริษัทบังหน้าเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ รัฐบาลที่ผ่านมามักเน้นเพียงบัญชีม้า–ซิมม้า แต่ไม่ได้ทำลายโครงสร้างจริงของอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งต้องเริ่มจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินและเครือข่ายฟอกเงินขนาดใหญ่

นายรังสิมันต์ ยอมรับว่ามีเอกสารความยาว 48 หน้า ที่แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงของรัฐ–เอกชน และบุคคลทางการเมืองบางส่วนกับขบวนการฟอกเงิน พร้อมระบุว่า กมธ.จะเชิญ นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เข้าชี้แจงในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ เนื่องจากพบความเชื่อมโยงบางประการในเครือข่ายดังกล่าว

นายรังสิมันต์ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ แต่เกี่ยวพันกับความมั่นคงและความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชาที่ซับซ้อน เพราะทุนสีเทาบางกลุ่มมีผลประโยชน์ร่วมกับกลุ่มอำนาจในประเทศเพื่อนบ้าน ถ้ามองอย่างเป็นธรรม จะเห็นว่าปัญหาไทย–กัมพูชา ไม่ได้มีแค่เรื่องเขตแดน แต่เป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและทุนสีเทา ซึ่งบางส่วนเชื่อมโยงกับบริษัทพลังงานข้ามชาติ อย่างกรณีบางจาก–เชฟรอนที่นายวิโรจน์อภิปรายไว้ก่อนหน้า

นายรังสิมันต์ ย้ำว่ากรรมาธิการไม่ต้องการทำลายใคร แต่ต้องการความจริง เพื่อปกป้องประเทศจากเครือข่ายฟอกเงินขนาดใหญ่ที่ “ฝังตัวอยู่ในทุกอณูของอำนาจรัฐ” พร้อมเผยว่าเอกสารบางส่วนเป็นราชการ และบางส่วนเป็นของเอกชนที่ผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วว่ามีน้ำหนักทางหลักฐาน

“ถ้าการไปแจ้ง ปปง. ป.ป.ช. หรือ ตำรวจ แล้วเรื่องจบ ประเทศนี้คงไม่มาถึงมือผมหรอก ปัญหานี้ค้างท่อมานาน ต้องเปิดในสภาเพื่อให้สังคมเห็นว่าเรากำลังเผชิญปีศาจร้ายที่ซ่อนอยู่ในโครงสร้างรัฐ ยืนยันว่าเอกสารทั้งหมดมีหลักฐานประกอบชัดเจน และจะนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการในลำดับต่อไป เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปปง. และ สตง. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ พร้อมขอให้รัฐบาลแสดงความจริงใจต่อการปราบปรามทุนเทาอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เพียงการพูดเพื่อสร้างภาพ“ นายรังสิมันต์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น