“ทนายอั๋น” เตรียมฟ้อง “แสวง” เลขาฯ กกต. ออกระเบียบฯ โอนงบตรง ศส.ปชต.ที่มี อบต.- อสม.- ผญบ. หัวคะแนนการเมือง ใช้งบ ขัด พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ส่อเอื้อฐานเสียงพรรคสีน้ำเงิน
วันนี้ (6 ต.ค.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น กล่าวว่า เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ฐานปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ กรณีออกประกาศ กกต.เรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการใช้จ่ายเงินสนับสนุนหรือเงินอุดหนุนของศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย 2567 ขัดต่อ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 โดย นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจาก ผอ.กกต.ประจำจังหวัดต่างๆ รวม 23 จังหวัด ถึงพฤติกรรมของนายแสวง ในการออกประกาศดังกล่าว ซึ่งโดยปกติหน่วยงานของรัฐหากจะดำเนินโครงการใด หรือจะจัดซื้ออุปกรณ์ เพื่อให้หน่วยงานภายในองค์กรนำไปใช้ประโยชน์ หน่วยงานนั้นๆ จะเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อเอง เป็นไปตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ แต่ในส่วนของศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงาน กกต. และทำหน้าที่ในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตยและบุคลากรของศูนย์ รวมถึงทำหน้าที่ช่วยเหลือ กกต.ในการจัดการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรม กลับพบว่า นายแสวง เลขาธิการ กกต. ไปออกประกาศเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการใช้จ่ายเงินสนับสนุนหรือเงินอุดหนุนของศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย 2567 ที่มีเนื้อหากำหนดให้เมื่อสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดได้รับเงินจากส่วนกลางแล้วให้โอนงบอุดหนุนนี้ให้กับ ศส.ปชต. โดยตรงเพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรม ซึ่งองค์ประกอบของ ศส.ปชต. ประกอบไปด้วย นายก อบต. อสม. ผู้ใหญ่บ้าน และ อบต.
“นายแสวง ออกระเบียบนี้วันที่ 23 ก.ค. 2567 บอกว่า ให้โอนเงินไปให้กับ ศส.ปชต. จ่ายเงินให้เขาไปเลย จะไปทำอะไรก็ได้เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย ซึ่งหมายความว่าเป็นเรื่องที่ต้องห้าม กฎหมายไม่ให้ทำ โดยกฎหมายบอกว่าหน่วยงานภายในของ กกต.อยากได้อะไร เช่น หีบเลือกตั้ง ปากกา กระดาษ สำนักงานจะต้องจัดซื้อ และมอบให้เขา ไม่ใช่เอาเงินไปให้เขา แต่เนื้อหาประกาศฉบับกลับโอนเงินตรงให้กับนายก อบต. อสม. ผู้ใหญ่บ้าน อบต โดยผ่านกลไกของ ศส.ปชต. ซึ่งคนที่อยู่ในหน่วยงานนี้สังคมก็รู้ว่าเป็นฐานเสียงของนักการเมืองและพรรคการเมือง และเมื่อไปดูวันที่นายแสวง ออกประกาศ คือ วันที่ 23 ก.ค. 67 เวลานั้นหน่วยงานที่กำกับคนเหล่านี้ คือ กระทรวงมหาดไทย มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็น รมต. ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องเกี่ยวดองกันอย่างไร ผมไม่ฟันธง ให้ประชาชนตัดสินเอง ตอนนี้ กกต.จ่ายไปแล้วหลายจังหวัด อ่างทองก็มี บุรีรัมย์นี่คิวแรกๆ เลย รวมกว่าหลายล้านบาท แต่ผมต้องมาเบรคเพราะผมมีข้อเคลือบแคลงสงสัย เพราะคนของ ศส.ปชต. ก็เป็นคนของการเมือง เป็นหัวคะแนน เป็นคนที่หาคะแนนให้พรรคการเมือง ที่เจ็บปวดที่สุด คือ อสม.ที่ว่ากันว่าเป็นตัวจักรสำคัญของพรรคการเมืองสีน้ำเงิน มันช่างประจวบเหมาะอะไรกับการที่นายแสวง ออกกฎหมายกระจอกงอกง่อยไปหักกฎหมายหลักอย่างพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ เพื่อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองสีน้ำเงินใช่หรือไม่”


