ประเดิมงบฯ 69 "บอร์ดวินัจฉัยจัดซื้อจัดจ้าง" รับลูก ปปช. เวียนหน่วยราชการทั่วประเทศ ชงป้องสัญญาจ้างงาน โปรเจกก่อสร้างภาครัฐ หลังพบมีสอดไส้จัดหารถหรูเทียบเท่ารถรัฐมนตรีฯ ให้จนท.รัฐตรวจงาน นำไปใช้ส่วนตัว ดัน "แนวทางควบคุม" ไม่ปิดช่องการใช้รถยนต์ที่ "ผู้รับเหมา" จัดหาให้ ตามสัญญาจ้างงานก่อสร้าง 2 ประเด็น จี้รัฐเจ้าของโปรเจก "เพิ่มทีโออาร์" รายละเอียดเฉพาะของรถยนต์ ที่ผู้รับเหมาจัดหาให้ พร้อมนําราคารถ คํานวณเป็น "ค่าใช้จ่ายพิเศษ" พร้อมทําบันทึกการใช้รถ รายงานหัวหน้าหน่วย ทุกขั้นตอน ตั้งแต่เติมน้ำมัน สตาร์ตรถ ยันถึง แจ้งที่จอดเก็บให้ชัด
วันนี้ (2 ต.ค.2568) มีรายงานจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นางแพทริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เวียนหนังสือถึงหน่วยราชการทั่วประเทศ
ให้ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้จากสัญญาจ้างงานก่อสร้าง "กรณีเงื่อนไขในสัญญา กําหนดให้ผู้รับจ้างต้องจัดหารถยนต์พร้อมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องสําหรับผู้ควบคุมงาน"
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการแสวงหาประโยชน์ ที่มิควรได้จากสัญญาจ้างงานก่อสร้างที่อาจส่งผลให้มีการรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ต่างตอบแทนจากการปฏิบัติหน้าที่หรือเกี่ยวเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่
ที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้างหรือการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ควบคุมหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งส่งผลต่อความเสียหายแก่รัฐและงบประมาณของประเทศ ได้อย่างถูกต้อง และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
สำหรับแนวทางดังกล่าว คณะกรรมการวินิจฉัยฯ ได้ดำเนินการ ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) กรณีเงื่อนไขในสัญญากําหนดให้ผู้รับจ้าง "ต้องจัดหารถยนต์พร้อมค่าใช้จ่าย" ที่เกี่ยวข้องสําหรับผู้ควบคุมงาน ส่งผลต่อความเสียหายแก่รัฐและงบประมาณของประเทศ
คณะกรรมการวินิจฉัยฯ ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ โดยได้ กําหนดแนวทางปฏิบัติในการควบคุมการใช้รถยนต์ที่ผู้รับจ้างจัดหาให้ตามสัญญาจ้างงานก่อสร้าง ดังนี้
1. ให้หน่วยงานของรัฐกําหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของรถยนต์ที่ผู้รับจ้างต้องจัดหาให้ สําหรับที่จะให้หน่วยงานของรัฐผู้ว่าจ้างใช้ในการควบคุมงานก่อสร้างไว้ในร่างขอบเขตของงาน
"และต้องนําราคาของรถยนต์ไปคํานวณเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษตามข้อกําหนดและค่าใช้จ่ายอื่นที่จําเป็นต้องมีในการคํานวณ กลุ่มงานบัญชีราคากลางงานก่อสร้างด้วย"
2. ให้หน่วยงานของรัฐจัดทําบันทึกการใช้รถยนต์ที่ผู้รับจ้างจัดหาให้ตามสัญญาจ้างงานก่อสร้าง ตามทะเบียนควบคุมงาน และเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐทราบทุกเดือน ทั้งนี้ หากเห็นว่ามีการดําเนินการที่ผิดปกติให้ดําเนินการตามควรแก่กรณี
มีรายงานว่า สำหรับ ขั้นตอนรายงานทะเบียนควบคุมการใช้รถยนต์ ที่ผู้รับจ้างจัดหาให้ตามสัญญาจ้างงานก่อสร้างโครงการ ให้ทำการรายงานถึง หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ตามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการ
"ให้มี เลขที่สัญญา ชื่อผู้รับจ้าง ชื่อหน่วยงาน สาเหตุกรณีมีการได้จัดหารถยนต์ ให่ระบุทะเบียนรถ ว่านําไปใช้ในการควบคุมงานก่อสร้าง โดยรถยนต์คันดังกล่าว และเป็นผู้นํารถยนต์ไปใช้ในภารกิจควบคุมงานตามสัญญาก่อสร้าง เท่านั้น รวมถึงให้มีรายงาน และแจ้งสถานที่จัดเก็บรถยนต์ที่รับมอบมาอย่างชัดเจน ทั้งวันเวลาเก็บ วันออกเดินทางไปไซด์งาน เป็นต้น"
มีรายงานด้วยว่า เมื่อเร็วนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ข้อเสนอแนะ "เพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้จากสัญญาจ้างงานก่อสร้าง กรณีเงื่อนไขในสัญญากำหนดให้ผู้รับจ้างต้องจัดหารถยนต์พร้อมค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ควบคุมงาน"
เช่น ป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐซื้อรถยนต์คันดังกล่าว ในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่มีการซื้อขายเป็นการทั่วไป หรือรับรถยนต์คันดังกล่าวหลังเสร็จสิ้นโครงการงานก่อสร้าง
อันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทนจากการปฏิบัติหน้าที่
โดยควรกําหนดอายุการใช้งานรถยนต์ที่สามารถใช้ได้จริง ทั้งนี้ อาจกําหนดให้ผู้รับจ้างนําเอกสารการตรวจสภาพ รถยนต์ส่งมอบพร้อมกับรถยนต์
ให้มีการควบคุมในระหว่างการใช้รถยนต์ตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างงานก่อสร้าง โดยผู้บริหารหน่วยงานต้องกํากับดูแล ควบคุม การใช้รถยนต์ตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างงานก่อสร้างในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด
มิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้รถยนต์ดังกล่าวในทางส่วนตัวหรือ นอกเหนือจากการปฏิบัติงานควบคุมงาน
"รวมไปถึงการจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิง กรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้ทดรองจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์ ที่ผู้รับจ้างจัดหาให้เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมงาน ต้องแสดงหลักฐาน ประกอบการเบิกจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากผู้รับจ้าง อาทิ ใบเสร็จรับเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น"
นอกจากนี้ ยังมีกรณีความรับผิดจากการใช้รถยนต์ตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างก่อสร้าง ควรกําหนดให้ ผู้รับจ้างรับผิดชอบเฉพาะความผิดในกรณีที่เกิดความเสียหาย
หรืออุบัติเหตุเกิดขึ้นเนื่องจากการใช้รถยนต์ในการ ปฏิบัติหน้าที่หรือเกี่ยวเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น
ส่วนความเสียหายหรืออุบัติเหตุ ที่นอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติหน้าที่
"ให้ผู้ที่ก่อเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุเป็นผู้ชดใช้ ความเสียหายและให้หน่วยงานของรัฐดําเนินการทางวินัย ทางแพ่ง หรือทางอาญาตามแต่กรณี"
มีรายงานว่า ข้อเสนอดังกล่าว สืบเนื่อง สํานักงาน ป.ป.ช. ได้รับเรื่อง กรณี โครงการงานก่อสร้างของหน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่ง กําหนดในเอกสารแนบท้ายสัญญาจ้างก่อสร้างให้ผู้รับจ้างจัดหารถยนต์ที่มีอายุใช้งานไม่เกิน 1 - 2 ปี
"ให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมงานของหน่วยงานของรัฐ เพื่อใช้ในการควบคุมงานก่อสร้าง พร้อมกับให้ผู้รับจ้าง ออกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าซ่อมบํารุง ค่าประกันภัยชั้น 1"
ซึ่งการกําหนดรถยนต์ ที่มีอายุใช้งานไม่เกิน 1 - 2 ปี นั้น เทียบเท่ากับรถยนต์ใหม่เป็นการสร้างภาระและค่าใช้จ่ายเกินความจําเป็น ให้กับผู้รับจ้าง
และเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมงานนํารถยนต์ ที่ผู้รับจ้างจัดหาให้ตามสัญญาไปใช้ในทางส่วนตัว หรือ ขับไปต่างจังหวัดในช่วงวันหยุด และนํารถยนต์ที่ผู้รับจ้างจัดหาให้ตามสัญญาไปไว้ที่บ้านเสมือนเป็นรถยนต์ ของตนเอง
รวมถึงการใช้รถยนต์ที่ผู้รับจ้างจัดหาให้ตามสัญญา โดยขาดความระมัดระวังขับรถยนต์ไปเฉี่ยวชน ทําให้รถยนต์เกิดความเสียหาย
ป.ป.ช. ยังพบว่า ในลักษณะดังกล่าว ซึ่งการให้ผู้รับจ้างจัดหารถยนต์ให้เจ้าหน้าที่ใช้ พร้อมออกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องดังกล่าว ยังมีกรณี ที่ "หัวหน้าหน่วยงาน" นํารถยนต์ไปใช้เอง และผู้ตรวจงาน หรือควบคุมงาน ก็ยังคงให้ผู้รับจ้างมารับ
หรือใช้รถยนต์ ของหน่วยงานไปตรวจงานหรือควบคุมงาน รวมถึงมีการรับค่าน้ำมัน หรือค่าบํารุงรักษารถยนต์ เป็นเงินก้อน ซึ่งอาจเป็นการรับสินบน รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวในราคาต่ำกว่าราคาท้องตลาด
หรือรับรถยนต์คันดังกล่าวหลังเสร็จสิ้นโครงการงานก่อสร้าง เป็นความเสี่ยงที่ผู้ควบคุมงาน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เกี่ยวข้องมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน หรือผลประโยชน์ทับซ้อนจากการปฏิบัติหน้าที่
มีความสุ่มเสี่ยงที่จะมีการ เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจรับงานหรือควบคุมงาน ซึ่งส่งผลเสียหายแก่ราชการหรือภาครัฐ
ประกอบกับสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ให้ความเห็นโดยสรุปว่า จากการตรวจสอบโครงการจ้าก่อสร้างของหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งมีการคํานวณค่าใช้จ่ายในการจัดหารถยนต์สําหรับผู้ควบคุมงาน
พบว่า มีการกําหนดเงื่อนไขให้รถยนต์ตกเป็นของหน่วยงานของรัฐเมื่องานแล้วเสร็จ ส่งผลให้ค่าก่อสร้างสูงเกินความเป็นจริง โดยรถยนต์ที่กําหนดให้ผู้รับจ้างจัดหาสําหรับผู้ควบคุมงานในบางสัญญ ากําหนดให้เป็นการจัดหารถโดยสารขนาด 12 ที่นั่ง
"ซึ่งเป็นรถที่มีราคาใกล้เคียงกับ "รถประจําตําแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง หรือผู้ดํารงตําแหน่งอื่นเทียบเท่า" ไม่เหมาะสมกับ การนํามาใช้สําหรับวิศวกรหรือผู้ควบคุมงาน หรือไม่เหมาะสมต่อการนําไปใช้ควบคุมงาน" .