xs
xsm
sm
md
lg

สัญญาณซักฟอก สัญญาณยุบก่อน4เดือน !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อนุทิน  ชาญวีรกูล
เมืองไทย 360 องศา





เสร็จสิ้นไปแล้วสำหรับการแถลงนโยบายของรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล และนาทีนี้ถือว่ารัฐบาลได้ทำหน้าที่บริหารราชการได้อย่างเต็มตัวแล้ว อย่างไรก็ดี ผลจากการอภิปรายนโยบายรัฐบาลในช่วงสองวันที่ผ่านมา (29-30 กันยายน) ทำให้เห็นร่องรอยบางอย่างที่จะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในอีกไม่นานข้างหน้านี้ ค่อนข้างแน่นอน

แม้ว่าการ“ซักฟอก” ที่จะเกิดขึ้นจะเป็นลักษณะ “เกม” ทางการเมือง ระหว่างพรรคฝ่ายค้านกับรัฐบาล และยังเป็นเกม “ช่วงชิง” แบบแยกย่อยออกไป ระหว่างพรรคฝ่ายค้านสองพรรค คือเพื่อไทย กับพรรคประชาชน อย่างไรก็ดี สำหรับพรรครัฐบาลโดยเฉพาะ ภูมิใจไทย ถือว่า “มีแผล” ที่ยากจะสลัดหลุดออกไปได้ง่ายๆ ก็คือ กรณี “เขากระโดง” และ“คดีฮั้วสว.”

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของจริยธรรม ของรัฐมนตรีบางคนเข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย เช่น เรื่อง บ่อนพนันออนไลน์ สแกมเมอร์ หรือเรื่อง “เอี่ยวทุนสีเทา” เป็นต้น เรื่องเหล่านี้สามารถนำเป็นสาเหตุในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างแน่นอน และที่ผ่านมาในการอภิปรายนโยบายรัฐบาล พรรคฝ่ายค้านทั้งสองพรรค ก็ได้มีการ “ซักฟอก” แบบเปิดหัวให้เห็นชัดเจนแล้ว

อย่างไรก็ดี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ย้ำว่า จะยุบสภาภายใน 4 เดือน มีการกำหนดวันชัดเจนเอาไว้แล้วว่าเป็นปลายเดือนมกราคมปีหน้า หรือ “อาจเร็วกว่านั้น”

“4 เดือนนี้ เราจะได้ไปแข่งกันด้วยความขาวสะอาด แข่งกันด้วยรอยยิ้ม แข่งกันทำความดีให้กับพี่น้องประชาชน และให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจ ว่าเขาจะเลือกใครเข้ามาทำงานให้เขา รับรองว่าจะไม่มีคำว่าได้เปรียบใดๆ ทั้งสิ้น ผมเสียใจที่ตอนที่พรรคผมอยู่กับท่านตอนนั้น อาจจะทำให้ท่านเสียเปรียบในการเลือกตั้งนั้นไม่จริง กระทรวงมหาดไทยใครไปอยู่ก็เหมือนกัน 2 เดือนที่แล้ว สภาพผมกับท่าน ก็ไม่ต่างกัน ตรงนั้นอย่าไปถือสา เราเป็นตัวของตัวเองดีกว่า คุณงามความดีที่เราประกอบมา มันจะเป็นตัวที่ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ มีอำนาจก็ใช้อำนาจไปตามหน้าที่ ไปไหนมีคนนับหน้าถือตา มาต้อนรับก็เป็นบทบาท วันที่ผมถูกให้ออกจากรัฐบาล วันที่18 มิถุนายน พอวันที่ 19 มิถุนายน ผมก็หักดิบจากที่มีคนมาติดตามมากมาย ก็กลายเป็นไปไหนมาไหนคนเดียว จริงๆแล้ว มีความสุขมากกว่า วันนี้กลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว โชคดีที่เรามีประสบการณ์มาก่อน รับรองว่าจะไม่มีการหลงใหลในอำนาจนั้นๆ แล้วคิดว่า เรามีอำนาจนั้นเราแล้วไปกลั่นแกล้งคนอื่นได้ ไม่มีแน่นอน ใครทำอะไรผิดไว้ กระบวนการยุติธรรมจะต้องจัดการในทุกๆ เรื่อง ดังนั้นขอให้ความมั่นใจกับทุกคน” นายอนุทิน กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐธรรมนูญ ขอยืนยันกับผู้ที่ลงนามเอ็มโอเอ กับตน 4 เดือนจากนี้ไป มันไม่ใช่เป็ดง่อย ถ้าเป็นเป็ดง่อย มันจะยุบสภาไม่ได้ ท่านหัวหน้าพรรคประชาชน บอกว่านโยบายหลักของรัฐบาลชุดนี้ คือยุบสภา และแก้ไขรัฐธรรมนูญ นั่นคือ การกระทำที่ต้องทำอย่างแน่นอน คือยุบสภาใน 4 เดือนและแก้ไขรัฐธรรมนูญ

“ผมขอยืนยันว่า จะสนับสนุนเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญ และจัดทำประชามติให้พร้อมในการเลือกตั้งทั่วไป และรัฐบาลขอความร่วมมือให้สมาชิกรัฐสภาทุกท่านร่วมกันประชุมคณะกรรมการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ด้วย ถ้าเป็นไปได้ คือ เดือนธันวาคมนี้ คณะกรรมาธิการฯ อาจจะต้องมีกาประชุมบ่อยมาก หรืออาจจะไม่มีวันหยุดเลย ก็ขอให้ทุกคนได้มาร่วมกัน เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และใช้เวลามาก ถ้าพวกเราทุกคนร่วมมือกันทุกวัน ก็ทำให้เจตนารมณ์ของทุกท่านที่ต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้สมปรารถนา

แม้จะมีการกำหนดเวลาชัดเจนว่า รัฐบาลจะอยู่แค่ 4 เดือนแล้วยุบสภา แต่อย่างไรก็ดี มีหลายคนฟันธงว่าจะต้องมีการยุบสภาก่อนแน่นอน ทั้งสาเหตุจากการถูกฝ่ายค้าน “ยื่นซักฟอก” ซึ่งรับรู้ว่ารัฐบาลชุดนี้เป็น “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” หากถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ต้องพ่ายแพ้เสียงโหวตในสภาแน่นอน ดังนั้น จึงเชื่อว่าก่อนที่จะถูกยื่นญัตติซักฟอก นายกรัฐมนตรี ต้องยุบสภาก่อน เพื่อคุมเกมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์ในหัวข้อ “เห็นเค้าลางญัตติไม่ไว้วางใจแล้ว” ระบุว่า การอภิปรายนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใช้ระยะเวลา 2 วันเต็มๆ การอภิปรายของทุกฝ่าย ตั้งแต่ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านทั้ง 2 พรรคใหญ่ คือพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงสมาชิกวุฒิสภา ต่างฝ่ายต่างก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ถ้าจะให้คะแนนของแต่ละฝ่าย ก็ต้องยอมรับว่ามีคะแนนที่สูสี และไล่เลี่ยกัน มีการอภิปรายแบบไม่ลดราวาศอก ตอบโต้กันทุกเม็ด ประเภทถึงพริกถึงขิง ทำให้เห็นการตอบโต้กันเป็นคู่ๆ จำนวนไม่น้อยกว่า 10 คู่

การอภิปรายนโยบายของรัฐบาลครั้งนี้ เปรียบเสมือนกับการซ้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในโอกาสต่อไป ถ้าจะรวบรวมประเด็นของการอภิปรายเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลชุดนี้ และจะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจในอนาคต ซึ่งสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศแล้วว่า สถานีต่อไป Next Station ก็คือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลชุดนี้ ยังบอกว่า Coming Soon แสดงว่า มีการจองกฐินญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเกิดขึ้นแน่นอน ภายใน 4 เดือนนี้ แต่เชื่อว่าไม่ทันได้ยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็จะชิงยุบสภาเสียก่อน คงจะไม่ปล่อยให้ถูกคว่ำกลางสภา เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ อย่างแน่นอน

ส่วนในมุมของพรรคเพื่อไทยนาทีนี้ คงต้องการ “ปิดเกม” ให้เร็วที่สุด เพื่อหวังกดดันให้มีการยุบสภาก่อนครบกำหนด 4 เดือน แม้ว่าตัวเองก็มีความเสี่ยงในเรื่อง “เลือดไหล” ออกจำนวนมาก จากความนิยมตกต่ำ และพรรคยังหาตัวแคนดิเดตนายกฯคนใหม่ ที่ชัดเจนยังไม่ได้ก็ตาม แต่ถึงอย่างไรเชื่อว่าต้องมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกันก็ต้องจับตาบทบาทของพรรคประชาชน นับจากนี้ว่าจะยัง “ค้ำ” รัฐบาลต่อไปจนครบเวลา เพื่อรอให้ภารกิจแก้รัฐธรรมนูญให้สำเร็จโดยต้องอาศัยเสียง สว.สายสีน้ำเงิน มาสนับสนุนหรือไม่

ดังนั้น หากให้ฟันธงอีกแรง ก็ต้องพิจารณาความเป็นไปได้สำหรับการยุบสภาก่อนเวลา 4 เดือนนั้น เป็นไปได้ค่อนข้างสูงมาก โดยจะเป็นเกมเร่งจากพรรคเพื่อไทย ในการยื่นญัตติ “ซักฟอก” เข้าสภาก่อนเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งนาทีนี้ สำหรับพรรคเพื่อไทยคงทำใจรับสภาพแล้วว่า จะกลายเป็นพรรค “ขนาดกลาง” แต่หากพิจารณาหลังการเลือกตั้ง พวกเขาน่าจะกลายเป็น “ตัวแปร” สำคัญ และมีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่จะหันกลับมาจับมือกับพรรคประชาชน ก็ถือว่าไม่อาจมองข้ามไปได้เลย!!


กำลังโหลดความคิดเห็น