ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุม “แบงค์ ปากช่อง” ก่อเหตุปีนเข้าห้องพัก ก่อนใช้มีดจี้บังคับขืนใจหญิง วัย 59 ปี
วันนี้ (12 ส.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5 พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพสว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 ตำรวจ สน.ดินแดง เจ้าหน้าที่ บก.อก.สทส. เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.4 และเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปส.3 สืบสวนติดตามจับกุมตัว นายสุรพงษ์ หรือ แบงค์ ปากช่อง อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.490/2567 ลงวันที่ 24 ก.ค. 67 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายได้กระทำโดยใช้อาวุธ กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นการกระทำโดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศของบุคคลนั้น ได้กระทำโดยใช้อาวุธ ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยผ่านสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยมีอาวุธ และบุกรุก โดยมีอาวุธ ในเวลากลางคืน
โดยพฤติการณ์กล่าวคือ คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา มีหญิงผู้เสียหาย อายุ 59 ปี ซึ่งระหว่างนอนหลับอยู่ในห้องพักของแมนชั่นแห่งหนึ่งย่านศรีนครินทร์ เกิดอาการหายใจไม่ออก และได้สติตื่นขึ้นก็พบว่า ตนเองถูกคนร้ายกำลังใช้หมอนกดลงบนหน้าอยู่ และถูกคนร้ายทับตัวอยู่จนไม่มีแรงขืน ทำได้เพียงพยายามส่งเสียงอู้อี้จนใกล้สิ้นแรง โดยคนร้ายข่มขู่เหยื่อว่า “อย่าร้องนะ..เงินอยู่ไหน” แต่เหยื่อก็พยายามส่งเสียงผ่านหมอนว่า “ยอมแล้ว” พร้อมกับบอกตำแหน่งของทรัพย์สิน จนคนร้ายเริ่มคลายแรงลงและเอาหมอนออกจากใบหน้า เหตุการณ์เหมือนจะจบลงแต่กลับเลวร้ายกว่าเดิม เมื่อคนร้ายไม่มีท่าทีสนใจทรัพย์สิน แต่คว้าผ้ามามัดปิดตาไว้ แล้วได้ชักมีดคัตเตอร์มาจี้คอบังคับให้เปลื้องผ้าและนำน้ำมันมะพร้าวชะโลมทั้งตัว ก่อนจะลงมือขืนใจกว่า 2 ชั่วโมง โดยใช้มีดคัตเตอร์กดจี้อยู่ตลอดเวลา คนร้ายยังกล่าวกับผู้เสียหายว่า “ผมชอบป้ามานานแล้ว” ก่อนจะนำผ้าห่มมาพันหัวพันตัวแล้วยกเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อทำบางอย่าง เหยื่อรวบรวมสติสุดท้ายใช้จังหวะคนร้ายเผลอวิ่งหนีออกมาจากห้องอย่างสุดชีวิต คนร้ายวิ่งไล่ตามออกมาจากห้องพักอย่างกระชั้นชิด ก่อนที่คนร้ายใช้มือคว้าแขนไว้ แต่ราวกับปาฏิหาริย์น้ำมันมะพร้าวที่ถูกชะโลมทำให้สามารถสลัดหลุดจากคนร้ายมาได้ ก่อนจะวิ่งกรีดร้องลงจากแมนชั่นไปขอความช่วยเหลือ รอดพ้นได้อย่างหวุดหวิด
ต่อมาตำรวจ สน.พระโขนง ได้เดินทางมาถึงและกลับเข้าไปตรวจสอบในห้องพักที่เกิดเหตุ ก็พบว่า คนร้ายดันลืมกระเป๋าเอกสารและบัตรประจำตัวทิ้งไว้ในห้อง จึงส่งหลักฐานออกหมายจับคนร้ายรายนี้ได้ในทันที ซึ่งก็คือ นายสุรพงษ์ โดยแผนประทุษกรรมของคนร้ายรายนี้อุกอาจ ทาง ผบช.น. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังชุดสืบนครบาลเร่งติดตามไล่ล่าในทันที กว่า 20 วันที่ชุดสืบสวนไล่ล่าติดตามคนร้ายที่หลบหนีอย่างสุดชีวิตไปในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จ.นครนายก และ จ.นครราชสีมา อาศัยนอนริมป่าข้างทางเพื่อหลบเจ้าหน้าที่ จนท้ายสุดชุดสืบสวนได้สืบทราบว่า คนร้ายได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านพักติดภูเขาในพื้นที่ อ.ป่าโมง จ.นครราชสีมา ซึ่งสารวัตรแจ๊ะได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปกว่า 10 นาย บุกเข้าไปจับตัว แต่ก็ได้พลาดกับคนร้าย เมื่อคนร้ายได้ยินเสียงรถยนต์มาแต่ไกลไหวตัวแอบหลบมุดออกทางรูลวดหนามไปก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้ามาถึงเพียงไม่กี่วินาที ก่อนจะหลบหนีเข้าไปในป่าหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างฉิวเฉียด และหลบหนีเข้ามาเร่ร่อนในพื้นที่กรุงเทพฯ
ซึ่งต่อมาชุดสืบสวนได้รับเบาะแสจากเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.พระโขนง ว่า พบชายต้องสงสัยตำหนิรูปพรรณคล้ายกับคนร้ายนอนอยู่บริเวณใต้สะพานกลับรถตรงข้ามห้างสรรพสินค้า แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ ชุดสืบสวนจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและพบว่าเป็นคนร้ายจึงสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุด หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดำเนินคดี
ในชั้นจับกุม นายสุรพงษ์ ให้การภาคเสธ โดยให้การว่า ตนเองเป็นโรคร้ายคงจะมีอายุอยู่ได้ไม่เกิน 5 ปี จึงหลบหนีอย่างสุดชีวิต โดยในวันที่เจ้าหน้าที่ไปจับกุมตนเองได้ใช้ประสบการณ์ที่เคยหนีเจ้าหน้าที่จากวงไพ่ โดยใช้หลักการไม่วิ่งหนี แต่มุดแอบอยู่ใกล้ๆ เจ้าหน้าที่ โดยยอมรับว่า ตนไม่ได้เล่นของหรือไสยศาสตร์ใดๆ เป็นประสบการณ์ล้วนๆ ส่วนในทางคดียืนยันว่า ตนเองไม่เคยก่อเหตุข่มขืนคนสูงอายุมาก่อน แต่ในคดีนี้ยอมรับว่าได้เข้าไปทางห้องร้างข้างห้องผู้เสียหาย ก่อนจะแอบปีนเข้าไปทางประตูหลังห้อง จากนั้นจึงลงมือกระทำไปแต่ไม่สามารถสอดใส่อวัยวะเพศได้ เพราะได้ทำการดัดแปลงอวัยวะเพศมา จึงอนาจารจนสำเร็จความใคร่ ส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นของผู้เสียหายไม่ใช่ของตนเอง
ทั้งนี้ พบประวัติผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีอาญา 3 คดีดังนี้ 1. วันที่ 9 ก.ค. 55 ถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ พื้นที่ สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง 2. วันที่ 18 เม.ย. 58 ถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ พื้นที่ สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และ 3. วันที่ 12 ก.ค. 60 ถูกดำเนินคดีข้อหาเป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษฯ พื้นที่ สภ.หมูสี จ.นครราชสีมา
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เป็นอุทาหรณ์เตือนภัยหญิงสาวทุกท่านที่พักอาศัยอยู่คนเดียวเพียงลำพัง โปรดเพิ่มความระมัดระวังในการเข้า-ออก รวมถึงการล็อกประตูและหน้าต่างภายในห้อง เพราะเราไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าจะมีคนร้ายประเภทนี้ ติดตามสะกดรอยจนทราบที่พักอาศัยของท่านเมื่อใด เพราะแผนประทุษกรรมของคนร้ายรายนี้ ถือได้ว่าเป็นภัยต่อสังคมโดยเฉพาะหญิงสาวอย่างร้ายแรง หากประชาชนท่านใดพบหรือทราบว่ามีบุคคลที่มีพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้ โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB”