กกต.ออกหมายเรียก “เศรณี” สว.เจ้าของวีรกรรมวีน รปภ. ชี้แจงวันนี้ พบร่วมประชุม-พักโรงแรมย่านปทุมธานี ส่อผิดกฎหมายเลือก สว. กรณีสัญญาว่าจะให้
วันนี้ (30 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิยต ดำรงประภักดิ์ ประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะที่ 20 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ออกหมายเรียก นายเศรณี อนิลบล สว. เมื่อวันที่ 18 ก.ย. คดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง โดยระบุในรายละเอียดว่า ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีมติให้ดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวน กรณีมีเหตุอันควรสงสัยหรือปรากฏว่ามีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 อาศัยอำนาจตามมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ประกอบคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ 2467/2567 และที่ 2468/2567 ลงวันที่ 28 ต.ค. 2567 และมาตรา 52 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พุทธศักราช 2477
หมายถึง นายเศรณี ด้วยเหตุพบข้อมูลว่า ก่อนวันเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ ท่านมีชื่อเป็นผู้เข้าร่วมประชุมและเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่ที่น่าเชื่อว่า มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 77 (1) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561
ฉะนั้น ให้ท่านในฐานะพยานไปพบคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะที่ 20 ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ.นครสวรรค์ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ในวันที่ 30 ก.ย. 2568 เวลา 13.00 น.
สำหรับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 77 ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือถอนการสมัคร หรือกระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้นั้นหมดสิทธิที่จะเลือกหรือได้รับเลือก หรือเพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี (1) จัด ทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด
ทั้งนี้ นายเศรณี มีข่าวแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม จากกรณีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ไม่ยอมเปิดแผงเหล็กกั้นจราจรให้รถยนต์ของเจ้าตัวขับเข้าไปในอาคารรัฐสภาในทันที โดยได้ต่อว่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคายและรุนแรง ในลักษณะดูหมิ่นซึ่งหน้าพร้อมชี้หน้าข่มขู่