“สมศักดิ์” ลั่นทำตามสัญญา ดัน พ.ร.บ.อสม. ผ่านสภาฯ สำเร็จ ตอบแทนการเสียสละ “หมอคนที่ 1”ชู อสม. 1.09 ล้านคน ด่านหน้าสาธารณสุขไทย จากโควิดถึง NCDsกฎหมายใหม่กำหนดสิทธิ-สวัสดิการชัด สร้างขวัญกำลังใจ หนุนระบบสาธารณสุขมั่นคง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวขอขอบคุณสภาผู้แทนราษฎรที่ลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.อสม.ที่ได้มีการนำเสนอเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 1 ปี 4 เดือน ตนมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับด้านความมั่นคงในพี่น้อง อสม. โดยทันทีที่รับตำแหน่งในเดือน พ.ค. 67 ภายในเดือนมิ.ย.ก็ได้สรุปเรื่องและขั้นตอน เดือน ก.ค.ประชุมร่างกฎหมายและรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่านเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข ก่อนรายงานไปยังคณะรัฐมนตรีและรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในจุดนี้ล่าช้าติดขัด ต้องมีการประสานงานอย่างต่อเนื่องนำมาสู่การปรุงปรุงแก้ไขจนสำเร็จเรียบร้อย กระทั่งได้บรรจุวาระและเสนอต่อที่ประชุมสภาฯ และมีมติรับหลักการ ถือว่าทำได้อย่างรวดเร็ว ตามความตั้งใจที่ได้สัญญาไว้กับที่น้อง อสม. และอสส.
นายสมศักดิ์ กล่าวว่าระบบสาธารณสุขของประเทศไทย มีความเข้มแข็งเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับปฐมภูมิ ซึ่งมีหัวใจสำคัญคือ อสม. ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากถึง.1,090,163 คน ซึ่งได้อุทิศตนเป็น "หมอคนที่หนึ่ง อยู่ใกล้ชิดประชาชนที่สุด และเป็นกำลังสำคัญ ในการดูแลสุขภาพของคนในชุมชน ด้วยจิตอาสามาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นกลไกหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ในการเฝ้าระวังและป้องกันโรค รวมถึงการต่อสู้กับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs ซึ่งเป็นปัญหาที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ โดย อสม.เป็นกลไกสำคัญในการช่วยรณรงค์นับคาร์บ ขณะนี้คนไทยรับรู้การนับคาร์บแล้วกว่า 42 ล้านคน และประชาชนได้รับการคัดกรองสุขภาพ จำนวนกว่า 15,897,389 ล้านคน / อันทำให้สามารถค้นหากลุ่มเสี่ยงได้มากขึ้น ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง และสามารถลดการใช้ยา ประหยัดค่าจ่ายในช่วงเริ่มแรกได้ถึง 823.37 ล้านบาท
“หลักการของร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อยกระดับสถานะและสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้แก่ อสม.เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ โดยกำหนดสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่จำเป็นไว้ในกฎหมายอย่างชัดเจน อาทิ.ค่าป่วยการสิทธิในการรักษาพยาบาล และการสนับสนุนอื่น ๆ อันเป็นการตอบแทนคุณความดีและความเสียสละ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของ อสม. อย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้ความสามารถที่ทันสมัย สามารถรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพได้ ขณะที่ประชาชนจะได้รับการดูแลสุขภาพในระดับชุมชนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ประเทศจะมีระบบสาธารณสุขปฐมภูมิที่มั่นคง สามารถรับมือกับภาวะวิกฤตด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ”นายสมศักดิ์กล่าว