xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.วุฒิฯ สรุปรายงาน พ.ร.บ.งบฯ 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้าน ขาดดุล 8.6 แสนล้าน นี้สาธารณะ 11.95 ล้านล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“กมธ.วุฒิสภา” สรุปรายงานงบฯ ปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ขาดดุล 8.6 แสนล้าน หนี้สาธารณะพุ่ง 11.95 ล้านล้านบาท แนะรัฐเพิ่มรายได้ ลดพึ่งกู้ พร้อมชี้ 5 กลุ่มภารกิจยังมีปัญหา-เสนอแนวทางแก้ไข

เมื่อเวลา 10.10 น. ที่รัฐสภา นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วุฒิสภา รายงานสรุปผลการพิจารณาศึกษาต่อที่ประชุมวุฒิสภา

นพ.ประพนธ์ ระบุว่า รัฐบาลได้เสนอวงเงินงบประมาณรายจ่าย 3,780,600 ล้านบาท โดยจำแนกเป็น 1. รายจ่ายประจำ 2,652,301 ล้านบาท 2. รายจ่ายเพื่อชดเชยเงินคงคลัง 123,541 ล้านบาท 3. รายจ่ายลงทุน 864,077 ล้านบาท และ 4. รายจ่ายเพื่อชำระต้นเงินกู้ 151,200 ล้านบาท ขณะที่ประมาณการรายรับอยู่ที่ 3.49 ล้านล้านบาท และเมื่อหักการคืนภาษีและการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะเหลือรายได้สุทธิ 2.92 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐบาลต้องตั้งงบประมาณแบบขาดดุล 860,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า ในปีงบประมาณ 2569 การตั้งงบรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง เป็นปัจจัยที่ทำให้พื้นที่งบประมาณถูกจำกัดลง และต้องขยายเพดานวงเงินกู้มากขึ้น ส่งผลให้หนี้สาธารณะสูงขึ้น โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 2568 พบว่าหนี้สาธารณะอยู่ที่ 11.95 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 64.1% ของ GDP ที่มีมูลค่า 18.63 ล้านล้านบาท จึงเสนอแนะให้รัฐบาลหาวิธีจัดเก็บรายได้เพิ่ม ลดการกู้เงินชดเชยขาดดุล และตั้งงบประมาณให้สอดคล้องกับความจำเป็นจริง

นพ.ประพนธ์ กล่าวว่า การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้ปรับลดงบประมาณรวม 8,920.78 ล้านบาท โดยกระทรวงมหาดไทยถูกปรับลดสูงสุด 2,148 ล้านบาท และงบที่ปรับลดไปจะถูกนำกลับมาจัดสรรใหม่ให้กับหน่วยรับงบประมาณตามข้อเสนอทั้งจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการแปรญัตติขอเพิ่มของรัฐสภา ศาล องค์กรอิสระ และองค์กรอัยการ โดยส่วนที่ได้ปรับเพิ่มสูงสุดคือ 1. รัฐวิสาหกิจ 4,914 ล้านบาท เพื่อสมทบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม 2. กระทรวงการคลัง 1,568 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายการเป็นเจ้าภาพประชุมธนาคารโลกและ IMF 3. กระทรวงแรงงาน 1,000 ล้านบาท เพื่อสมทบกองทุนประกันสังคม และ 4. งบกลาง 1,000 ล้านบาท สำหรับเงินสำรองกรณีฉุกเฉิน

ประธานกมธ.งบฯ วุฒิสภา รายงานว่า ภาพรวมการพิจารณาศึกษาได้จัดทำข้อสังเกตตาม 5 กลุ่มภารกิจ ดังนี้

1. กลุ่มภารกิจด้านเศรษฐกิจ วงเงิน 965,754 ล้านบาท พบว่าเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัว อัตราการเติบโตของ GDP ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอาเซียน การบริโภคและการลงทุนยังไม่ฟื้นเต็มที่ ขณะเดียวกันยังได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่กระทบความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ ข้อเสนอแนะคือ เร่งปรับโครงสร้างหนี้ ส่งเสริมการออม จัดเก็บภาษีจากเศรษฐกิจนอกระบบและใต้ดิน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนโครงการแลนด์บริดจ์ และหาตลาดการค้าใหม่เพื่อผลักดันการส่งออก

2. กลุ่มภารกิจด้านสังคม วงเงิน 1,029,600 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่ได้งบมากที่สุด แต่ยังพบปัญหาความเหลื่อมล้ำ รายได้ระหว่างคนรวย-จนถ่างกว้างขึ้น จึงเสนอให้หน่วยงานใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

3. กลุ่มภารกิจด้านความมั่นคง วงเงิน 680,374 ล้านบาท พบปัญหาความมั่นคงซับซ้อน ทั้งสถานการณ์ชายแดน การค้ายาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ การพนันออนไลน์ และการฟอกเงิน เสนอให้หน่วยงานความมั่นคงเร่งบังคับใช้กฎหมาย ปราบปรามทุจริต และเสริมศักยภาพกองทัพให้พร้อมทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์

4. กลุ่มภารกิจด้านภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ มีข้อสังเกตว่า ปัญหาภัยพิบัติและสิ่งแวดล้อมส่งผลต่อคุณภาพชีวิต สุขภาพ และความยั่งยืน จึงเสนอให้บูรณาการวางแผนและงบประมาณร่วมกัน รวมถึงเพิ่มงบให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและเยียวยาผู้ประสบภัย

5. กลุ่มภารกิจด้านบริหารและอื่นๆ แบ่งเป็นด้านบริหาร 119,221 ล้านบาท แผนงานบูรณาการ 98,767 ล้านบาท งบจังหวัดและกลุ่มจังหวัด 26,525 ล้านบาท และงบอปท. 202,613 ล้านบาท โดยพบว่าปัญหาการบริหารพื้นที่ยังมีข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง อำนาจตัดสินใจน้อย งบที่ได้รับยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการประชาชนในท้องถิ่น

จากนั้นที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกวุฒิสภาอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 อย่างกว้างขวางต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น