xs
xsm
sm
md
lg

‘ปกรณ์วุฒิ’ ย้ำ ปชน.ไม่เห็นด้วยศาล รธน.ตัดสินเรื่องนามธรรม นายกฯ ลาออกหรือยุบสภาดีกว่า เสียงปริ่มน้ำเหนื่อยแน่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘ปกรณ์วุฒิ’ ย้ำจุดยืน ปชน.ไม่เห็นด้วยศาล รธน.ตัดสินเรื่องนามธรรม จี้นายกฯ ลาออก–ยุบสภา มั่นใจรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำเหนื่อยแน่

วันนี้(19 ส.ค.) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน แสดงความเห็นยืนยันพรรคไม่เห็นด้วยที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินประเด็นเชิงนามธรรมอย่าง “จริยธรรม–ความสุจริต” ชี้เป็นหน้าที่นายกฯ ต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เห็นชอบทางออกคือการลาออก–ยุบสภาเพื่อให้ประชาชนตัดสิน ระบุรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจะลำบากหนัก ผลักดันกฎหมายผ่านสภาแทบไม่ได้

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเตรียมไต่สวนวันที่ 21 สิงหาคม และนัดวินิจฉัยวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ว่า เข้าใจว่านายกรัฐมนตรีน่าจะไปศาลด้วยตนเอง โดยพรรค ปชน. ยืนยันหลักการเดิมว่า “ไม่เห็นด้วย” ที่องค์กรอิสระมาตัดสินเรื่องนามธรรม เช่น ความซื่อสัตย์สุจริตหรือจริยธรรม เพราะเป็นเรื่องที่แต่ละคนตีความต่างกัน

นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า พรรคเรียกร้องตั้งแต่ต้นเมื่อมีคลิปเสียงแพร่ว่า สิ่งที่ควรเกิดขึ้นคือการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง นายกรัฐมนตรีควรลาออกและยุบสภา เพื่อให้ประชาชนตัดสินใหม่ผ่านการเลือกตั้ง เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้กระทบความเชื่อมั่นของสังคม และทำลายระบบการเมืองรวมถึงระบอบรัฐสภา

นายปกรณ์วุฒิย้ำว่า เมื่อผู้นำรัฐบาลไม่ลาออกและไม่ยุบสภา กลายเป็นว่าศาลรัฐธรรมนูญถืออำนาจกว้างเกินไปในการวินิจฉัยความสุจริต ซึ่งชะตากรรมของผู้นำประเทศต้องมาอยู่ในมือของตุลาการ 9 คน ทั้งที่เป็นเรื่องนามธรรมที่อาจไม่ควรถูกตัดสินโดยองค์กรอิสระ

ต่อข้อถามว่าหากไม่เป็นไปตามที่เรียกร้อง จะต้องพึ่งศาลรัฐธรรมนูญเปลี่ยนแปลงการเมืองหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ มองว่า มีเพียงสองฉากทัศน์คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ต่อ หรือไม่เป็นต่อ หากยังดำรงตำแหน่ง ก็ต้องชี้แจงต่อสังคมถึงความรับผิดชอบต่อกรณีคลิปเสียง แต่หากไม่ได้เป็นต่อ ไม่ว่าจะลาออกหรือศาลวินิจฉัย ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯ ใหม่

เมื่อถูกถามว่ารัฐบาลกำลังปูทางสู่การเลือกตั้งหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ ชี้ว่า หากพร้อมจริง นายกฯ คงยุบสภาแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เช่น การโยกย้ายผู้ว่าฯ และขอกระทรวงมหาดไทยคืน สะท้อนการเมืองแบบเดิมที่ต้องการคุมอำนาจท้องถิ่นเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้ง

สำหรับอนาคตรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิประเมินว่า อยู่ยากแน่นอน เนื่องจากเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เห็นชัดจากการพิจารณางบปี 2569 ที่ผ่านมา ต้องตรึงเสียงอย่างเหน็ดเหนื่อย และแทบจะไม่สามารถผลักดันกฎหมายของ ครม. ผ่านสภาได้เลย เพราะต้องลุ้นทุกครั้งว่าจะมีเสียงเพียงพอหรือไม่

“ต่อไปนี้ รัฐบาลจะเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ การทำงานกลายเป็นการลากยาว ไม่มีศักยภาพผลักดันกฎหมายสำคัญเข้าสภาได้” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น