ทบ.เผย จะพาผู้ช่วยทูตทหาร ตปท.ลงพื้นที่ ดูความเสียหายจากการสู้รบบ้าง แต่ไม่ทำแบบเขมรที่พาไปช่องอานม้า เน้นสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่ไทยเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ ชี้ พื้นที่นี้อยู่ลึกไกลเข้ามาในไทยห่างจากพื้นที่สู้รบถึง 10-30 กิโล
วันนี้ (30 ก.ค.) จากกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี พลตรี วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. ขอเรียนว่า กรณีที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหารบริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี
จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนนึงของเป้าหมายทางทหาร
แต่กรณีของฝ่ายไทย มีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย
แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ ซึ่งสิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลก คือ ความเสียหายต่อบ้านเรือนโรงเรียนโรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตบาดเจ็บจำนวนมาก
ทั้งๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร
การกระทำดังกล่าว เป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ การเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ
กองทัพบกไทย ขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล
โดยขอย้ำว่าฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา