xs
xsm
sm
md
lg

"แม้ว" ยันสะบั้นสัมพันธ์ "ฮุนเซน" แล้ว ทำกับลูกสาวขนาดนี้ เจ็บใจทำได้ยังไง เชื่อจงใจอัดคลิป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ทักษิณ" รับสะบั้นสัมพันธ์ ‘ฮุน เซน‘ ทำกับลูกสาวขนาดนี้ เชื่อคลิปหลุด ตั้งใจอัด บอก “น่าเจ็บใจ ทำได้ยังไง” ชี้ คงไปเหยียบตาปลาอะไรสักอย่าง หลังแฉขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในเขมร ซัดเขาไม่ได้ทำลายเรา แต่ทำลายตัวเอง ขาดความน่าเชื่อถือไปแล้ว ไม่มีใครคบ พร้อมพูดติดตลกเรื่องห้องนอนสีชมพู “คงไม่ใช่รสนิยมของผม” ขอโทษคบคนแบบ "ฮุนเซน" ยันไม่มีสงครามไทย-เขมรแน่นอน เพราะต่างคนต่างฟอร์ม ก็ดำน้ำแข่งกันใครอึดกว่าคนนั้นชนะ

วันนี้ (9 ก.ค. 68) ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา ว่าจะยังสามารถเป็นพี่น้องกับสมเด็จฮุนเซน อยู่หรือไม่ ว่า "เคยเป็น  แหม่…ทําลูกผมขนาดนี้เนี่ย ผมถึงกับช็อกเลย ช็อกความรู้สึกเลยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง” นายทักษิณกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า

นายทักษิณ กล่าวว่า กรณีคลิปเสียงนั้นเรื่องทั้งหมด น.ส.แพทองธาร คุยกับตนตลอด วันนั้นเขาบอกว่าพ่อเดี๋ยวจะไปที่โรสวูด จะไปพบกับนายฮวด ที่จะต่อสายให้คุยกับนายฮุนเซน เพราะทางโน้นอยากพูด หลังจากนั้น น.ส.แพทองธาร จึงชวนนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ขณะนั้นเป็น รมว.กลาโหม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไป 3 คนไปอยู่ด้วยกัน ไม่ได้ไปคนเดียว เพื่อรอรับสาย รอที่จะคุยกับนายฮุนเซน โดยมีนายฮวดอยู่ฝั่งนี้

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า รออยู่เกือบ 3 ชั่วโมง เขาอ้างว่าหลับ เขาถ่ายรูปมาให้ดูด้วย พอรออยู่ 2 ชั่วโมงกว่าแล้วก็ยังไม่โทรมา ตนเลยบอกว่ากลับเถอะลูกไม่ต้องรอ ก็เลยกลับ พอกลับแล้วคณะที่จะมานั่งอยู่ด้วยกันก็แยกย้าย

“แล้วมันก็โทรเข้ามือถือส่วนตัว สงสัยระหว่าง 2 ชั่วโมงกว่านั้นไม่ได้หลับหรอก เตรียมอัดเทป …เขาน่าจะรู้ว่าเรามีรัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีต่างประเทศอยู่ แต่พอนายกอิ๊งค์อยู่คนเดียว โทรเข้าเบอร์ส่วนตัวเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนแปลไปบอกหรือเปล่า แต่แหม่ มันน่าเจ็บใจ”

นายทักษิณกล่าวต่อว่า เมื่อฮุนเซนโทรมาตอน น.ส.แพทองธาร อยู่คนเดียวก็ต้องรับ ไม่มีคนอื่น ไม่มีหมอมิ้งค์อยู่ ทีมเดิมที่เราตั้งใจว่าจะไปคุยกันแบบให้มีข้อมูลจะได้รู้เรื่อง ก็ไม่อยู่แล้ว

ส่วนที่สมเด็จฮุนเซนมาโจมตีกันทีหลัง ตนก็มองว่า ก็ไม่เห็นเป็นไร ในเมื่อความสัมพันธ์มันจบก็จบไป ซึ่งตนพยายามสงสัยว่า ”มันเกิดอะไรขึ้นวะ“ ที่ฮุนเซนทำอย่างนี้ คงไปเหยียบตาปลาอะไรเข้าสักอย่าง

นายทักษิณ เล่าต่อว่า เหตุการณ์วันที่เขมรขนกำลังไปชายแดน 12,000 คน ตนดูข่าว จำวันที่ไม่ได้ แต่ตนโกรธมาก และโทรไปหานายฮวดว่า “ฮวด เห้ยมึงบอกเจ้านายมึงสิ ไม่อยากพูดเอง พูดไปเดี๋ยวเกิดอารมณ์คุมไม่อยู่ ไปบอกเลยนะ ตกลงลูกเราเป็นผู้นำทั้ง 2 ประเทศ เราจะทำสงครามกันใช่ไหม บอกให้ฮวดไปบอกเดี๋ยวนั้นเลย เป้นคำพูดผม ไปบอกเลย“

นายทักษิณ ยังเล่าถึงปฏิบัติการโปเชนตง พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์ในตอนนั้นเป็นเพื่อนกับสมเด็จฮุน เซนแล้ว แต่ถือว่าเรื่องประเทศเป็นเรื่องสำคัญ และมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เหมือนกับเหตุการณ์ในครั้งนั้น คือการสร้างกระแสรักชาติ


ส่วนห้องนอนที่สมเด็จฮุน เซนเปิดภาพออกมาโดยอ้างว่าเป็นห้องที่นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้พักอาศัยนั้น นายทักษิณ ยอมรับว่า เป็นห้องนอนจริงๆ ส่วนสีห้องนอนสีชมพู นายทักษิณ กล่าวติดตลกว่า ”มันคงไม่ใช่รสนิยมผม“

พิธีกรถามว่า ต่อให้เป็นเรื่องคะแนนนิยมที่ตกต่ำก็ไม่ควรจะทำกันขนาดนี้ แสดงว่ามีเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า ไม่ใช่ เขาไม่ใช่ทำลายเรา เขาทำลายตัวเองด้วย เพราะความน่าเชื่อถือไม่มีแล้ว เดี๋ยววันนี้ไม่มีใครคบแล้ว ไม่มีใครเข้าไปพูดด้วยแล้ว เพราะไม่รู้ว่าพูดจะโดนอัดเทปด้วยหรือไม่

ส่วนจะเป็นเพราะเรื่องที่นายทักษิณไปพูดเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์หรือไม่นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า จำได้หรือไม่ ในช่วงที่ตนช่วยหาเสียงนายก อบจ. ตนบอกว่า ตึก 25 ชั้นเป็นที่ซ่องสุมคอลเซ็นเตอร์ และให้ตำรวจไปสืบ ตำรวจก็ไปสืบจนได้หลักฐาน กลายเป็นว่าเศรษฐกิจเขมรหลอกลวงคนไทยไป และวันนี้เรารู้เยอะเลยว่ามันโยงใยคอลเซ็นเตอร์ การฟอกเงิน บริษัทฮุ่ยวัน เป็นเป้าหมายที่อเมริกาแบล็กลิสต์ไว้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็เป็นคนจีนที่รับฟอกเงินทุกอย่าง และมีหลานชายของสมเด็จฮุนเซน ที่ชื่อ ฮุนโต ถือหุ้นด้วย

พิธีกรถามว่า ตั้งแต่มีการปล่อยคลิปออกมา จนเป็นกับดัก น.ส.แพทองธาร ได้มีการพูดคุยกับสมเด็จฮุน เซนหรือไม่ นายทักษิณ เผยว่า “ไม่รู้จะคุยทำไม ผมส่งข้อความไปอันเดียวว่า สิ่งที่คุณทำแบบนี้ มันเสียหายทั้งคุณทั้งเรา และไม่ตอบอีกเลย”

ส่วนจะทำให้ปัญหาชายแดนบานปลายหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่เคยคิดว่าจะบานปลาย ซึ่งวันที่ตนโทรไปโวยวาย เขาถามกลับมาว่า จะให้เขาทำอย่างไร ตนจึงบอกให้ถอนกำลัง และเขาก็บอกว่าจะอนุญาตให้ทหารเขมรที่อยู่ชายแดนพูดคุยกับทหารไทย และจะนำไปสู่การเจรจา JBC แต่บังเอิญว่าทหารเขามีกำหนดไว้แล้วว่าจะปิดด่าน เขาจึงโกรธว่าเขาถอนทหารแล้ว แต่เราปิดด่าน และโกรธที่ น.ส.แพทองธาร โพสต์ว่าไม่เป็นมืออาชีพ แต่ที่สำคัญคือวันนี้เรากับกัมพูชาไม่อยู่ในสถานะประกาศสงครามต่อกัน เป็นเพียงแค่ความขัดแย้งชายแดน ฉะนั้นทุกอย่างยังพูดคุยกันได้อยู่


เมื่อถามว่ากรณีสมเด็จฮุนเซนเรียกร้องให้จับนายทักษิณด้วย หลังจากออกมายจับนายก๊กอาน เพราะเป็นคนสนิทฮุนเซนเหมือนกัน นายทักษิณกล่าวว่า "ผมสนิทมากเลย (ฮุน เซน) ผมสนิทจริงๆ ผมก็คิดไม่ถึงว่าคนสนิทกันขนาดนี้จะเป็นแบบนี้ แต่แน่นอนว่าถึงเวลาปัญหาประเทศมา ผมถือปัญหาประเทศเป็นเรื่องใหญ่ เหมือนปฏิบัติการที่โปเชนตง“ นายทักษิณ กล่าว

ส่วนวันนี้จะยังเป็นเพื่อนกันอยู่หรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า ”สงสัยต่างคนต่างน่าจะลืมชื่อกันแล้ว"

ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับการเมืองไทยหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า คนไม่รู้ แต่รู้ว่ามีเส้นเงินจากไทยในเรื่องแรงงานไปยังที่ปรึกษาแรงงานของเขมรส่วนหนึ่ง และมีการโอนไปโอนกลับประมาณ 100 กว่าล้าน ซึ่งมีนาย ก.เกี่ยวข้องกับแรงงานให้กับที่ปรึกษารัฐมนตรีแรงงานฝั่งนู้น

พิธีกรถามอีกว่าความสัมพันธ์ 30 กว่าปีแตกหักเพราะเรื่องนี้หรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า ตนก็ไม่เคยไปทำอะไรให้เขาโกรธ ถ้าจะโกรธก็เพราะเรื่องนี้แหละ ตนให้เกียรติ เขาก็ให้เกียรติ เรียกพี่ชาย ส่วนที่บอกว่า นายทักษิณป่วยไม่จริง เอาปลอกคอมาสวมตอนถ่ายรูปนั้น นายทักษิณกล่าวว่า “อยากจะพูดไรก็พูดไป” พร้อมตัดพ้อว่า คนไทยก็แปลก ที่มีคนเข้าข้างเขมรส่วนหนึ่ง ซึ่งควรไปเข้า Google ดูว่าพญาละแวกคือใคร จะได้เข้าใจมากกว่านี้

นายทักษิณ ยืนยันว่า การเจรจาไทย-กัมพูชาไม่ควรมีประเทศที่ 3 ส่วนจะเจรจาอย่างไร เพราะไม่คุยกันนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ดำน้ำแข่งกัน ใครอึดกว่าคนนั้นชนะ“

ส่วนที่ผ่านมาเป็น สทร. เรื่องชายแดนจะสามารถเป็น สทร.ทำให้เรื่องยุติ ทำให้ความไม่ปลอดภัยชายแดนกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า ความจริงเรื่องไม่ได้ใหญ่ เรื่องนิดเดียว


ส่วนเรื่องนี้ใหญ่เพราะไปคุกคามทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ กล่าวว่า เราชอบเล่นงานกันเอง เราไม่ได้คิดว่าการทำแบบนี้ของผู้นำ ซึ่งผู้นำไม่ใช่สมเด็จฮุนเซน แต่เป็นลูกชาย ซึ่งการคุยกับฮุน เซนไม่ใช่ผู้นำคุยกับผู้นำ แต่เป็นการพูดคุยในฐานะคนคุ้นเคย โดยหวังว่าจะทำให้เขาใจอ่อนเพื่อจะได้ช่วยกัน ซึ่งนักธุรกิจเวลาเจอมีสองมุมคือ การประนีประนอม และเจรจาแบบรุนแรง ซึ่งเราใช้การประนีประนอม เพราะเรารู้จักกัน ไปมาหาสู่กัน ซึ่งเรียกเป็นอังเคิล เป็นบราเดอร์กันอยู่ ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้ต้องขอโทษพี่น้องว่าเป็นความผิดพลาดที่คบคนแบบนี้

“วันนี้ไม่ต้องห่วงไม่มีสงครามแน่นอน ไม่มีความขัดแย้งถึงขนาดรบราฆ่าฟันกัน ซึ่งตอนนี้ต่างคนต่างฟอร์ม ก็ดำน้ำแข่งกันใครอึดกว่าคนนั้นชนะ” นายทักษิณ กล่าว

ส่วนที่คนมีการประเมินสิ่งที่นางสาวแพทองธารพูดและมีการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นการพูดที่ขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรง นายทักษิณกล่าวว่า คำว่าตรงกันข้ามอาจเป็นตรงข้ามความคิดก็ได้ หรือตรงข้ามการฝักใฝ่ทางการเมืองก็ได้ ซึ่งเรายังไม่ได้ประกาศสงคราม จึงไม่ได้หมายความว่าเราเข้าข้างศรัตรู แต่การเจรจาเพื่อให้เกิดความอ่อนน้อมความโน้มน้าว สามารถเจรจาได้หลายแบบ ซึ่งเป็นการเจรจาที่ไม่เป็นทางการ และเป็นเรื่องที่เขาโทรเข้ามา โดยที่เราเตรียมการคุยแบบเป็นเรื่องเป็นราว แต่เขาเจ้าเล่ห์มาทำแบบนี้

เมื่อถามว่า เชื่อหรือไม่ว่าสมเด็จฮุน เซ็น หลับลืม นายทักษิณ ตอบว่า “ผมไม่เชื่อ”


กำลังโหลดความคิดเห็น