รบ.สั่งบัวแก้วประสานมิตรประเทศอพยพคนไทยไปอยู่ในที่ปลอดภัย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center) โดยมี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือคนไทยในประเทศอิสราเอล

โดยหลังการประชุม นายภูมิธรรม เผยพร้อมปฏิบัติการทันที และได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศประสานหามิตรประเทศรอบข้างเพื่ออพยพคนไทยและเน้นย้ำจุดยืนที่เป็นกลางของไทยต่อสถานการณ์ในขณะนี้

1. นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ศูนย์ประสานงานฯ ที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์ที่กรุงเทลอาวีฟ และเราได้ประชุมเตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือคนไทยและแรงงานในประเทศอิสราเอลทั้งหมด เรามีความห่วงใยกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะความรุนแรงในครั้งนี้ถึงขั้นประกาศสงครามต่อกัน

2. รัฐบาลไทยยืนอยู่ในจุดสำคัญคือความเป็นกลางในสถานการณ์นี้ และเรายอมรับในการดำรงอยู่ของทั้ง 2 รัฐ ทั้งปาเลสไตน์และอิสราเอล เราอยากเห็นทั้ง 2 ประเทศ จบความขัดแย้งในครั้งนี้ด้วยสันติวิธี ในการร่วมมือกันเจรจาให้สันติภาพเกิดขึ้น และคุ้มครองชีวิตของคนไทย

3. แรงงานไทยที่อยู่ในอิสราเอลมีถึง 30,000 คน โดยอยู่ใกล้กับพื้นที่ฉนวนกาซาที่เกิดความรุนแรง ประมาณ 5,000 คน สถานเอกอัครราชทูตไทยยังคงเป็นศูนย์กลางในการประสานงาน แต่ยังไม่สามารถเริ่มปฏิบัติการได้ เนื่องจากรัฐบาลอิสราเอลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ทุกคนอยู่แต่ในบ้าน แต่ได้เตรียมการประสานงานกับภาคส่วนต่างๆ ล่วงหน้าไว้แล้ว

4. ระหว่างการประชุม ได้มีการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ รวมถึงกองทัพเรือ, กองทัพอากาศ, กองทัพบก, กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม, สภาความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะนี้ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต อย่างเป็นทางการ 2 ราย แต่มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีมากถึง 10 ราย แต่ต้องรอการยืนยันจากทางการอิสราเอลอีกครั้ง ส่วนตัวเลขของผู้ที่ถูกจับไปเป็นตัวประกันในตอนนี้คือ 11 ราย ขณะที่ยอดของผู้บาดเจ็บตอนนี้มีทั้งหมด 8 คน โดยในนี้ มี 2 คน ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

5. กองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบิน 6 ลำ ประกอบด้วย A340 1 ลำ และ C130 5 ลำ พร้อมเดินทางทันที โดยให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้รวบรวมรายชื่อของคนไทยทุกคนที่อยู่ในอิสราเอล และได้ให้กระทรวงการต่างประเทศแสวงหามิตรประเทศรอบข้างอิสราเอล เพื่ออพยพคนไทยไปอยู่ในเขตที่ปลอดภัยก่อนที่จะอพยพกลับไทย

6. ปัญหาตอนนี้คือเป็นเรื่องของการสื่อสารที่ติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง มีบางส่วนที่ยังติดต่อไม่ได้ จะเร่งดำเนินการติดต่อให้ได้โดยเร็วที่สุด ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า ใครประสานที่จะเดินทางกลับประเทศไทยบ้าง แต่เราประเมินไว้ว่าหากสถานการณ์เลวร้ายหรือหากได้รับสัญญาณ เราพร้อมปฏิบัติการทันที ในตอนนี้ รูปแบบการปฏิบัติการคือ ให้สถานทูตที่อิสราเอล ดำเนินการรวบรวมข้อมูลเป็นศูนย์กลางที่เดียว แล้วค่อยประสานมายังทางการไทย เพื่อความเป็นเอกภาพ​

7. นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปดูแลครอบครัวที่อยู่ในประเทศไทยและรายละเอียดในการช่วยเหลือ ซึ่งมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการเยียวยาจิตใจและพยายามให้เห็นว่ารัฐไทยไม่ทอดทิ้งแน่นอน พร้อมย้ำกับพี่น้องในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคเหนือที่ไปทำงานที่ในประเทศดังกล่าวว่า เรายืนยันว่าจะดูแลอย่างดีที่สุด เราจะใช้ทุกอย่างตามศักยภาพที่เรามี ในการรักษาความปลอดภัยของพี่น้องคนไทย รวมถึงยังมีนักศึกษาที่เป็นคนไทยไปเรียนที่อิสราเอลอีกด้วยจำนวน 8-9 คน ตอนนี้ยืนยันว่าปลอดภัยทุกคน

8. ทั้งนี้ทางอิสราเอลได้ให้การยืนยัน และความมั่นใจว่า จะดูแลคนไทยอย่างดีที่สุด บางส่วนตอนนี้ทางการอิสราเอลก็ได้อพยพ ไปอยู่ที่ปลอดภัยแล้ว