สภาผู้บริโภคเตรียมเปิดผลศึกษา 4แนวทาง โอกาสและความเป็นไปได้ รถไฟฟ้าสายสีเขียวหลังหมดสัมปทานปี 2572 เพื่อเดินหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท เชื่อ 30 ปีไม่มีขาดทุน ไม่เป็นภาระงบประมาณ ด้านผู้บริโภคหนุนเชื่อมต่อรถไฟฟ้า รถเมล์ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
วันนี้(22มิ.ย.)นายคงศักดิ์ ชื่นไกรลาศ ผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาผู้บริโภค กล่าวถึงการที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุง เทพมหานคร(กทม.)มีแนวคิดที่จะเจรจากับรัฐบาลเพื่อขอโอนโครงการรถไฟ ฟ้าสายสีเขียวให้รัฐบาลโดยกระ ทรวงคมนาคมไปรับผิดชอบ เนื่องจากเห็นว่ารถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ควรมีผู้บริหารจัดการหน่วยงานเดียว เพราะจะทำให้การบริหารจัดการ และสามารถนำไปสู่การกำหนดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าอัตราเดียว 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาลได้ โดยนายคงศักดิ์กล่าวว่า สภาผู้บริโภคร่วมกับศูนย์กฎหมายศรีปทุม มหาวิทยาลัยศรีปทุม อยู่ระหว่างจัดทำงานศึกษารูปแบบและโอนกรรมสิทธิ์สัมปทานรถไฟฟ้า กรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลังหมดสัญญาสัมปทานปี 2572 คู่ขนานไปกับงานศึกษาและวิเคราะห์โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครหลังหมดสัญญาสัมปทาน 30 ปี ของกรุงเทพมหานคร โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะต่อแนวทางการสนับสนุนมาตรการการปรับปรุงสัญญาสัมปทานสายหลักของระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นธรรมของผู้บริโภค ทั้งนี้ คาดว่าสภาผู้บริโภคและศูนย์กฎหมายศรีปทุม จะเปิดผลการศึกษาได้ในช่วงกรกฎาคม - สิงหาคมนี้
รศ.ดร.สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต ศูนย์กฎหมายศรีปทุม มหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวว่า แม้รถไฟฟ้าสายสีเขียวกำลังจะใกล้หมดสัญญาในปี 2572 แต่กลับพบว่ามีสัญญาบริหารไปถึงปี 2585 ทั้งนี้จากแนวทางการศึกษาเบื้องต้นมีข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหาให้สามารถปรับราคารถไฟฟ้าเป็น 20 บาทตลอดสายได้เป็น 4 โมเดล คือ 1. ต่อสัญญาสัมปทานให้ผู้รับสัมป ทานรายเดิม 2. เปิดประมูลผู้รับสัมปทานรายใหม่ให้เข้ามาดำเนินการ 3. กทม.รับเป็นผู้ ดำเนินการเองทั้งหมด ส่วนโมเดลที่ 4. คือ กทม.โอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดคืนให้ รฟม.ดำเนินการ
ขณะที่มีแนวทางที่สอดคล้องกับ กทม. คือ การโอนกรรมสิทธิ์ทั้ง หมดคืนให้ รฟม. เนื่องจากหาก รฟม.นำกลับมาทำเอง จะสามารถดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลได้ ขณะที่เมื่อคำนวณต้นทุนแล้วพบว่าหาก รฟม.ดำเนินการรถไฟฟ้าสายสีเขียว แม้ว่าจะมีราคาค่าโดยสาร 20 บาท ก็จะไม่ขาดทุนในระยะเวลาถึง 30 ปีเลยทีเดียว
“รายได้จากค่าอสังหาริมทรัพย์และโฆษณาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีราคาสูงมาก ทำให้แนวทางที่ 4 มีความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามได้เตรียมสรุปผลการศึกษาเพื่อเสนอต่อสภาผู้บริโภค เพื่อนำเสนอนโยบายต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับภาระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะมีหนี้รวมกัน 74,721 ล้านบาท จ่ายไปแล้ว 37,476 ล้านบาท ยังเหลือยอดหนี้ค้างชำระอีก 37,245 ล้านบาท"
ด้านนายอภิสิทธิ์ มานตรี แอดมินเพจรถเมล์ไทย กล่าวว่า อยากให้ กทม. เป็นผู้บริหารจัดการระบบบบริการขนส่งสาธารณะทั้งหมด ซึ่งหมายรวมถึงรถเมล์ในปัจจุบัน แล้วทำตั๋วร่วม หรือบัตรใบเดียว เนื่อง จากปัจจุบันต่างคนต่างทำเมื่อจะเชื่อมกันจึงเป็นไปไม่ได้
ส่วนนายจุฑาพงศ์ แซ่ตั้ง เพจ Render Thailand เห็นด้วยกับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทเพราะราคาถูก แต่ก็ควรมีบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงตัวสถานีได้ ไม่เพียงแต่คำนึงถึงแค่ราคา 20 บาทตลอดสายเพียงอย่างเดียว