BEDO จัดใหญ่! ประชุมไฮบริด ระดมผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ พร้อมตัวแทนชุมชนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมพลังการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพให้เดินหน้าอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที 12 มิ.ย. 2568 สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO จัดการประชุมเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ในประเทศและระหว่างประเทศ เรื่องการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืน บนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน โดยมีผู้บริหาร BEDO นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ ตัวแทนชุมชนท่องเที่ยว และสื่อมวลชน
ทั้งนี้ในงานได้มีการจัดเวทีเสวนาหัวข้อ “แนวทางการปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนด้วยเครื่องมือการท่องเที่ยวชีวภาพจากประสบการณ์ชุมชน” โดยมีผู้แทนชุมชนต่าง ๆ เข้าร่วม
นางสุวรรณา เตียรถ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ BEDO กล่าวว่า การประชุมเสวนาเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานโครงการบูรณาการการท่องเที่ยวบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นโครงการที่ BEDO ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก
มีระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 และจะสิ้นสุดโครงการในเดือนธันวาคม 2569 โครงการนี้ BEDO ได้เริ่มพัฒนาข้อเสนอโครงการร่วมกับ UNDP ประเทศไทย และในการดำเนินงานโครงการขณะนี้ UNDP ประเทศไทย ก็ยังเป็นพาร์ตเนอร์ช่วยกันขับเคลื่อนโครงการนี้
ผู้อำนวยการ BEDO กล่าวต่อว่า BEDO เป็นองค์กรที่มีภารกิจหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจจากการใช้ประโยชน์ทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจในระดับชุมชนที่มีโอกาสในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพในระบบนิเวศรอบพื้นที่ชุมชนนั้น การท่องเที่ยวบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพเป็นกิจกรรมการบริการที่ชุมชนสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชน การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืนบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพ ที่ BEDO ดำเนินการนี้ เป็นการปรับเครื่องมือหลักในภาคเศรษฐกิจของประเทศไทยคือภาคการท่องเที่ยว ลงมาสู่ระดับย่อยในพื้นที่ คือชุมชนโดยตรง โดยมีองค์ประกอบในธรรมชาติและระบบนิเวศ คือ ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นจุดขาย โดยกำหนดพื้นที่นำร่องการดำเนินงานที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ กุยบุรี สามร้อยยอด และปราณบุรี
“กลไก กระบวนการทำงานของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในกระแสและรูปแบบใหม่นี้ ยังต้องการคำแนะนำ ประสบการณ์ มุมมอง และการคาดการณ์ถึงข้อจำกัด โอกาส แนวทางปฏิบัติที่สร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ คุ้มครอง ทรัพยากรชีวภาพในระบบนิเวศและธรรมชาติของพื้นที่ กับ การสร้างรายได้-ผลประโยชน์ตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจอย่างมั่นคง ต่อเนื่อง ให้แก่ชุมชนในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว การจัดประชุมเสวนาในวันนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ BEDO และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทุกระดับ จะได้นำเสนอแนวคิด ถ่ายทอดประสบการณ์-บทเรียน มุมมองที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืนบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพ และ BEDO จะนำผลที่ได้จากการประชุมเสวนาในวันนี้ไปทำงานร่วมกับจังหวัด หน่วยพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายชุมชน-วิสาหกิจชุมชน ภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ต่อไป” ผู้อำนวยการ BEDO กล่าวย้ำ