สภาฯ รับหลักการแก้ไขร่าง กม.ฟอกเงิน “โรม” ซัดการแก้ไขทำให้การตรวจสอบอ่อนแอ แนะให้ปรับปรุงรองรับการผลักดันนโยบายเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์-กาสิโน ด้าน "ชวน" ชี้ กม.มีประโยชน์ แต่อย่าใช้กลั่นแกล้งกัน ย้อนรอยปม “แม่ถ้วน” ถูกสอบเส้นทางเงิน เป็นตัวอย่าง ด้าน “วิทยา” ลุกตั้งข้อสังเกต อำนาจ ปปง. สอบ ฮั้วเลือก สว.ส่อโมฆะ เหตุขัด รธน.
วันนี้(3 เม.ย.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ นัดพิเศษ เพื่อเร่งรัดการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่...) พ.ศ.... และ ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. .... ซึ่ง ครม. เป็นผู้เสนอ โดยนำมาพิจารณาพร้อมกัน เนื่องจากเป็นร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวเนื่องกัน
โดย นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว พร้อมให้ข้อสังเกตต่อเนื้อหาของร่างกฎหมายที่พบปัญหาหลายส่วน ว่า ไม่ทำให้มาตรการนำไปสู่การปราบปรามการฟอกเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีคำถามว่าทำให้มาตรการปราบปรามการฟอกเงินอ่อนแอ เช่น มาตรา 7 (10) แตกต่างจากสาระสำคัญเดิม คือการกำหนดลักษณะความผิดเกี่ยวกับสมาชิกอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือการมีส่วนร่วมองค์กรอาชญากรรมที่กฎหมายกำหนด มาตราดังกล่าวระบุว่าหากมีความผิดตามมูลฐานดังกล่าวใช้มาตรการต่อต้านฟอกเงินได้ทันที แต่ในฉบับใหม่พบว่าข้อหาอั้งยี่อย่างเดียวไม่พอ ต้องเป็นฐานอั้งยี่ที่เป็นเครือข่ายอาชญากรรม ดังนั้นหากไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าการทำผิดข้อหาอั้งยี่ แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ถึงเครือข่าย มาตรการต่อต้านการฟอกเงินจะอ่อนแอ
“การเป็นเครือข่ายอาชญากรรมต้องการบุคคล3คนขึ้นไป ขณะที่อั้งยี่ 2 คนขึ้นไป เอาเข้าจริงการออกกฎหมายฉบับดังกล่าวเอาเข้าจริงอาจทำให้ ปปง. ทำงานยากและต้องพิสูจน์เพิ่มมากขึ้น เช่น กรณีสว. 100 คนที่จะดำเนินคดีฐานอั้งยี่ หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ในแง่ของการเป็นเครือข่ายอาชญากรรม มาตรการต่อต้านการฟอกเงินจะใช้บังคับกับกรณีของสว.ได้ ทำไมกฎหมายใหม่ที่แก้ไขการฟอกเงินทำให้หน่วยงานยของรัฐทำงานยาก” นายรังสิมันต์ อภิปราย
นายรังสิมันต์ อภิปรายด้วยว่า ขณะที่ มาตรา 16 พบภาคธุรกิจต้องรายงานธุรกรรม พบว่ามีจำนวนน้อยลงและไม่มีการรปรับปรุงภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินให้ทันสมัย ทั้งนี้พบว่าปัจจุบันการฟอกเงินมีหลายหลายมิติ เช่น คริปโต การจำหน่ายไฟฟ้า ทั้งนี้ตนเข้าใจว่าขั้นตอนปรับปรุงกฎหมายทำมานานแต่เมื่อทำในปัจจุบัน ประชาชนคาดหวังต่อการคาดหวังต่อสถานการณ์ทำไมถึงไม่กำหนดที่ชัดเจน เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์ กระดานเทรดคริปโตที่ต้องรายงาน ตนมองว่าจำเป็นเพื่อเป็นมาตรการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แม้จะทำได้ดีแต่อาจไม่ยั่งยืน
นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่าในการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว ตนคาดหวังว่าจะเป็นกฎหมายที่รองรับกับนโยบายรัฐบาลที่จะผลักดันเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งทั่วโลกรู้ว่าการทำธุรกิจกาสิโน คือ ปัญหาการฟอกเงินเชื่อมโยงกับอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งที่รัฐบาลควรอาศัยจังหวะนี้ปรับปรุงกฎหมายให้พร้อมรองรับ แต่ไม่เห็นส่วนใดของกฎหมายที่ทำให้ไทยมีความพร้อมต่อมาตรการที่เข้มแข็งเพื่อรองรับ ดังนั้นการผลักกดันการประกอบธุรกิจกาสิโน หรือเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รวมถึงการพนันออนไลน์ จะทำให้การฟอกเงินทำได้ง่ายขึ้น
“ร่างกฎหมายนี้แทนที่จะแก้ไขเพื่อให้มีประสิทธิภาพ ทำให้การฟอกเงินทำได้ไม่ง่าย แต่กลายเป็นว่าสิ่งที่เห็น คือ ความอ่อนแอ มีขั้นตอนยุ่งยาก สิ่งที่ทำได้ผ่านกฎหมายคือ ต่อต้านการฟอกเงินที่คล่องตัว ผมฐานะ สส. เป็นห่วงเรื่องนี้ที่ไม่มีความพร้อมของกฎหมาย นโยบายที่ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจการฟอกเงิน ปัญหาหลายปัญหาที่แก้ไม่จบ ดังนั้นฝาก ครม. และกมธ.หลังจากนี้ต้องพิจารณาเพื่อให้มีมาตรการรองรับการเปลี่ยนแลงที่เกิดขึ้น” นายรังสิมันต์ อภิปราย
ทางด้านนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนอับอายที่จะพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวโดยเปิดเผย เพราะในขั้นตอนการรับฟังความเห็นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 ไม่พบว่ามีผู้แสดงความเห็นแม้แต่รายเดียว ตนขอสอบถามกรรมกฤษฎีกาคณะพิเศษ รวมถึง ปปง. ถึงเหตุผล และเมื่อไม่ผ่านขั้นตอนดังกล่าวจะทำให้มีความสมบูรณ์หรือไม่ และจะทำให้การพิจารณาเป็นโมฆะหรือไม่
ขณะที่นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายสนับสนุนการแก้ไขด้วยว่า กฎหมายเป็นประโยชน์ แต่หากผู้ใช้ไม่ตระหนักความรับผิดชอบ ใช้กลั่นแกล้งคนอื่นจะมีปัญหา เพราะครอบครัวของตนเจอปัญหานี้ ฝ่ายการเมืองแกล้งตรวจสอบนางถ้วน หลีกภัย มารดาของตน เพราะเข้าใจว่าตนเป็นนายกฯ ต้องเอาเงินไปฝากไว้ที่มารดาแต่ไม่มีอะไร
“ส่วนที่แก้ไขเพิ่มเติมจะเป็นประโยชน์ หากไม่มีการนำไปกลั่นแกล้งโดยเฉพาะฝ่ายการเมือง หากเจ้าหน้าที่เป็นคนดี เป็นคนมีศักดิ์ศรี มีเกียรติ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทุกระดับยึดความถูกต้องชอบธรรมเพื่อให้เป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง”
จากนั้น นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ชี้แจงต่อประเด็นซักถามว่าการรับฟังที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีผู้แสดงความเห็นทางออนไลน์นั้น จะรับไปปรับปรุงในอนาคต ทั้งนี้ในขั้นตอนการรับฟังความเห็นทางสำนักงานได้ทำออนไซด์เชิญหน่วยงานมาให้ความเห็นและมีหน่วยงานที่ทำหนังสือเป็นข้อสังเกตมายัง ปปง.ด้วย ขณะที่ประเด็นการตรวจสอบการฟอกเงินปัจจุบันได้ทำผ่านกรรมการธุรกรรม หากไม่มอบหมายเจ้าหน้าที่ ปปง.จะไปตรวจค้นไม่ได้ ซึ่งได้ปรับปรุงในปี2551 ที่นายชวนทักท้วง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงหนึ่ง นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งคำถามต่ออำนาจของ ปปง. ต่อการสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง สส. และ การได้มาซึ่ง สว. ที่ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ได้ยืมอำนาจของ ปปง. ดำเนินการซึ่งส่อว่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดีตนเห็นด้วยต่อการให้อำนาจ ปปง. ดำเนินการแทน กกต. เพราะอำนาจของ กกต.ที่กำกับการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรมนั้นเป็นเป็ดง่อย ทั้งนี้ต้องหารือเพื่อไม่ให้ขัดกับรัฐธรรมนูญ และเสี่ยงจะถูกฟ้องร้อง เมื่อไม่ขอแก้ไข คดีสว. ปปง.สอบได้ถูกต้องหรือไม่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าอำนาจที่ทำแทนกกต.ตอนนี้ขัดกับรัฐธรรมนูญ
ทางด้าน ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ชี้แจงว่า “ถ้ากฎหมายบังคับใช้อยู่ต้องบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย”
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติโดยเสียงข้างมากรับหลักการ ร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่...) พ.ศ.... ด้วยมติเอกฉันท์ 409 เสียง และตั้งกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 31 คนขึ้นมาพิจารณา
ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. .... สภามีมติหลักการด้วยเสียงข้างมากเช่นกัน และใช้กมธ.วิสามัญชุดเดียวกันพิจารณา.