xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ยันแก้ฝุ่น PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติ ขอบคุณทุกภาคส่วน ยันจะใช้ทุกสรรพกำลังคืนอากาศบริสุทธิ์ให้คนไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” ยืนยัน “ปัญหาฝุ่น PM 2.5” เป็นวาระแห่งชาติ ขอบคุณความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ย้ำ รัฐบาลจะใช้ทุกสรรพกำลังเพื่อที่จะทำให้ประเทศของเรามีอากาศที่ดีขึ้น คืนอากาศบริสุทธิ์ให้คนไทยทุกคน

วันนี้ (24 มี.ค.) เวลา 21.15 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 2 ครั้งที่ 26 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ กรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

โดย นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงประเด็นการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติ รวมทั้งผลักดันให้เป็นวาระแห่งอาเซียน ที่ผ่านมา ภาคเหนือตอนบนมีฝุ่นควันเข้ามาอย่างหนาแน่น แต่ปัจจุบันค่าฝุ่นควันลดลง อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤษภาคม ค่าฝุ่นจะกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเป็นฝุ่นควันที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะต้องประสานงานกันในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นระดับอธิบดีกับอธิบดี ปลัดกับปลัด รัฐมนตรีกับรัฐมนตรี เพื่อขอความร่วมมือ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในการร่วมกันที่จะไม่เผาพื้นที่เกษตร รัฐบาลได้ดำเนินการติดต่อประสานงานแล้ว ซึ่งทางประเทศเพื่อนบ้านก็กำลังดำเนินการในเรื่องนี้ และทราบดีว่าฝุ่นควันมาจากทางประเทศของเขา สำหรับเรื่องของการสั่งการของตนเอง เนื่องจากปัญหาฝุ่นควันเป็นเรื่องระดับประเทศ ข้าราชการทุกคนพร้อมที่จะร่วมมือแก้ไขปัญหานี้อย่างเต็มที่ เพราะทุกคนต่างอยากได้ประเทศที่มีอากาศบริสุทธิ์


นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ค่าฝุ่นควันลดลงอย่างมากจากมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลดำเนินการ รวมถึงกระทรวงต่างๆ ข้าราชการ ประชาชนต่างให้ความร่วมมือ ทำให้ค่าฝุ่นควันลดลงอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เพราะเกิดจากการบูรณาการจากทุกฝ่ายร่วมกัน อาทิ กระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการ 76 จังหวัด ให้ยกระดับปฏิบัติการและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยการประกาศห้ามเผาและการขอความร่วมมือจากประชาชน ส่งผลให้การเผาในพื้นที่การเกษตรลดลงและมีการดำเนินคดีกับผู้จงใจฝ่าฝืนกว่า 133 คดี ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือนที่ผ่านมา

ขณะที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐบาลได้อนุมัติงบกลางเพื่อเฝ้าระวังไฟป่า อย่างรวดเร็วที่สุด โดยคณะรัฐมนตรี อนุมัติงบดังกล่าวในวันที่ 28 มกราคม 2568 และมีการเบิกเงินจ่ายจริงผ่านสำนักงบประมาณในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งใช้เวลาเพียง 7 วันเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมาก งบประมาณดังกล่าว นำไปเพื่อจัดตั้งจุดเฝ้าระวังป้องกันไฟป่าจำนวน 3,895 จุด มีจำนวนมากกว่าปีที่แล้ว 50% มีชุดลาดตระเวน ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า ฝ่ายปกครอง และมีการระดมสรรพกำลัง จากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายทหาร รวมทั้งอาสาสมัครมากกว่า 18,000 คน ซึ่งมีจำนวนชุดปฏิบัติการมากกว่าปีที่แล้วถึง 40% ทั้งหมดนี้ส่งผลให้จุดความร้อนลดลงไปกว่า 3,096 จากปีที่แล้ว


ส่วน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีมาตรการเพื่อป้องกันการเผาในพื้นที่ของเกษตรกร ในช่วงวันที่ 17 มกราคม 2568 ถึง 31 พฤษภาคม 2568 ว่า ถ้าหากมีการเผา จะไม่ได้รับสิทธิในการเข้าร่วมโครงการสนับสนุน และพัฒนาศักยภาพเกษตรกร นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังได้อนุมัติงบกลางจำนวน 200 ล้านบาท ให้กับทางกรมฝนหลวง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวง ในการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และการดัดแปลงสภาพอากาศให้บรรเทาปัญหาเรื่องฝุ่นละฝุ่นละอองขนาดเล็ก ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐบาลมีนโยบายงดรับซื้ออ้อยที่มาจากการเผา ในปีที่แล้วมีจำนวนอ้อยที่เข้าโรงงานน้ำตาลที่มาจากการเผาจำนวน 30% โดยในปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าไว้ 25% แต่ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ปัจจุบันเหลือเพียง 15% ในปีนี้ ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนเรื่องนี้ต่อไป นอกจากนั้น กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ให้ความรู้พี่น้องประชาชน เรื่องการเฝ้าระวัง และดูแลสุขภาพ มีการจัดชุดดูแลสุขภาพประชาชนในแต่ละพื้นที่ และจัดทำ “ห้องปลอดฝุ่น” หรือ clean room กว่า 17,000 ห้อง ซึ่งรองรับประชาชนได้กว่า 2 ล้านคน


ทางด้าน กระทรวงคมนาคม ได้เข้มงวดกับการจับรถควันดำทั่วประเทศมากขึ้น ในปีที่ผ่านมาสามารถจับได้เกือบ 150,000 คัน ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว 7 เท่า รวมถึงมีการออกคำสั่งห้ามใช้รถที่ปล่อยควันดำกว่า 2,500 คัน มากกว่าปีที่แล้วถึง 2 เท่า
“นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมาตรการที่รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงมีอาสาสมัคร ภาคประชาชนที่เข้ามาช่วยกัน ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย หากไม่ได้ความร่วมมือจากทุกคน ค่าฝุ่นควันคงจะไม่ลดลงขนาดนี้” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่สามารถที่จะทำให้ปัญหาฝุ่นควันหายไปภายในทันทีได้ แต่จุดความร้อน ค่าฝุ่นต่างลดลง จำนวนวันของฝุ่นเมื่อเทียบกับปีที่แล้วก็ลดลงเช่นกัน อาจจะมีบางวันที่ค่าฝุ่นมากขึ้น แต่เมื่อเฉลี่ยจำนวนวันทั้งหมดก็น้อยลงกว่าปีที่แล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง และต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนต่อไป

“ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่ปัญหาของรัฐบาลชุดใดชุดหนึ่งหรือของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของคนไทยทุกคนที่ต้องร่วมมือกัน เพื่อจะให้เกิดผลในภาพรวม ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ และรัฐบาลจะใช้ทุกสรรพกำลังเพื่อที่จะทำให้ประเทศของเรามีอากาศที่ดีขึ้น คืนอากาศบริสุทธิ์ให้คนไทยทุกคน หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีข้อแนะนำเพิ่มเติมจากที่รัฐบาลดำเนินการไปแล้วก็พร้อมยินดีที่จะรับฟัง” นายกรัฐมนตรี ย้ำ


กำลังโหลดความคิดเห็น