xs
xsm
sm
md
lg

“อุ๊งอิ๊งค์”จุดอ่อน เป้าหลักซักฟอก !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา

และแล้วถึงวันกำหนดอภิปรายญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยฝ่ายค้านได้วางเป้าหมายอยู่ที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทยเพียงคนเดียว โดยกำหนดวันอภิปรายเริ่มตั้งแต่เช้า วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม

สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ หลายฝ่ายมองตรงกันว่า “จุดอ่อน” สำคัญก็คือ ตัวนายกรัฐมนตรีนั่นแหละ และฝ่ายค้านก็รับรู้ จึงพุ่งเป้ามาที่เธอคนเดียว ขณะเดียวกันอาการที่สังเกตได้ก่อนหน้านี้ก็คือ ปฏิกิริยาจากพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงจากคนในครอบครัวชินวัตร ที่ส่งสัญญาณ “ปกป้อง” อย่างเต็มที่ ในแบบที่คาดกันว่าจะมีรายการ “ประท้วง” กันอย่างหนักหน่วง จนแทบไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านอภิปรายได้สะดวกนัก

ล่าสุดพรรคเพื่อไทยถึงกับตั้งทีม “องครักษ์” ขึ้นมาเป็นทีมใหญ่ จำนวนกว่ายี่สิบคน ล้วนเป็นระดับอาวุโส บางคนเคยเป็นอดีตหัวหน้าพรรค อดีตรัฐมนตรี ผ่านงานในสภามานาน แต่นาทีนี้มีภารกิจหลักคือ ต้องมา “พิทักษ์นายหญิง” ซึ่งไม่ต่างจาก “ลูกเถ้าแก่”

จากการแถลงของ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ โดยเรียกชื่อว่า “ทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุม” จะมีที่ปรึกษาพิเศษ นำโดย นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย

สำหรับทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมสภาพรรคเพื่อไทยนั้นประกอบด้วย นายประยุทธ์ นพ.ชลน่าน นายสุทิน นายอนุสรณ์ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย น.ส.นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ

น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี นายวรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี นายรวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ นายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานี นายวิรัช พิมมะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ นายพลากร พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ นายพชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา และนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี

ขณะเดียวกัน สัญญาณเตือนที่ส่งมาจากคนรอบข้าง อย่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ดูเหมือนรับรู้ว่า นายกฯ“โดนหนัก”แน่ โดยเขาแนะนำให้นายกฯควบคุมอารมณ์ให้ดี อย่าอ่อนไหวไปกับคำพูดยั่วยุ ทำให้เชื่อว่าน่าจะผ่านไปได้

“นายกฯกลัวว่าจะพูดไม่เก่ง แต่พวกเราเรียนท่านว่าท่านทำงานมา 6 เดือนกว่า หรือครึ่งปีแล้ว ท่านมีความมั่นใจเพิ่มมากยิ่งขึ้นตามลำดับ ถ้าทุกอย่างอยู่ในเกมตอบได้หมด” นายอนุทิน กล่าวเมื่อถูกถามว่า น.ส.แพทองธาร มีความกังวลในเรื่องอะไรบ้าง

และคิดว่านายกรัฐมนตรีมีความกดดันแต่ก็ต้องทำให้ท่านมีความมั่นใจ มีความพร้อมว่าจะผ่านพ้นการอภิปรายนี้ไปได้ด้วยดี เพราะเป็นครั้งแรกของท่าน ส่วนตนเป็นครั้งที่ 6 แล้ว ซึ่งครั้งแรกก็ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่เราก็ตอบด้วยความมั่นใจ เรารู้ว่าเราทำงานอะไร เราก็ตอบไปด้วยความมั่นใจ ถ้าทำโดยไม่มีเจตนาที่ไม่สุจริต จะยิ่งตอบได้อย่างไม่ต้องมีแรงกดดันอะไร

“ท่านต้องควบคุมอารมณ์ให้ดี อย่าไปอ่อนไหวต่อคำพูดกระแทกแดกดันต่างๆ ขอให้ อยู่ในสาระของญัตติการอภิปราย ท่านนายกฯ ก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี” นายอนุทิน กล่าว

แน่นอนว่า เมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวและคำพูดดังกล่าวทั้งหมดทำให้เห็นว่า งานนี้นอกเหนือจากตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมีความหวั่นไหวแล้ว พรรคเพื่อไทยก้ไม่ได้แตกต่างกัน จึงมีการตั้ง “ทีมองครักษ์” พิทักษ์นายกันอย่างเต็มที่ ชนิดที่เรียกว่า ดึงมากันแทบยกพรรค เพราะเท่าที่เห็นรายชื่อออกมาดังกล่าวแล้วถือว่าผ่านงานในสภามาแล้วโชกโชน คั้นเอามาแบบ “หัวกระทิ” เท่าที่มีอยู่

ภารกิจสำคัญคือห้ามไม่ให้แตะต้องไปที่ “นายหญิง” และที่สำคัญยังมีหน้าที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันก็คือ “ห้ามแตะนายใหญ่” คือ นายทักษิณ ชินวัตร เด็ดขาด เพราะอย่างที่รับรู้กันมานานแล้วว่า สำหรับเขาคนนี้ มีความอ่อนไหวสำหรับการอภิปรายในสภา หรือแม้แต่ถูกพูดถึงจากภายนอก เรียกว่าหากย้อนกลับไปดูประวัติตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าจะมีเสียง ส.ส.ในสภาสนับสนุนท่วมท้นแค่ไหน ก็ไม่ยอมให้มีการซักฟอกถึงตัว และยิ่งคราวนี้ ฝ่ายค้านมีเป้าหมายพุ่งตรงมาที่ “ลูกสาว” ที่ถือว่าเป็น “กล่องดวงใจ” ยิ่งแตะไม่ได้

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง การที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้ามาที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหลัก ย่อมมองออกแล้วว่า “นี่คือจุดอ่อน” ขนาดหนัก เพราะอย่างที่รู้กันทั้งในเรื่องวุฒิภาวะ ความรู้ความสามารถ ถูกสังคมตั้งข้อสงสัย และมองเห็นมาตลอดเวลาที่เธอนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี มานานกว่าครึ่งปีแล้ว ไม่เคยมีความรู้หรือฉายแววให้เห็น “ทักษะ”การบริหารจัดการในเรื่องสำคัญ นอกจากบทพูดแบบท่องจำ จนได้ฉายา “นายกฯไอแพด”

คราวนี้ หากฝ่ายค้าน เน้นโฟกัสไปที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แบบโดดๆ ไม่ต้องพาดพิงไปถึงคนอื่นมากนัก จนทำให้มีการแอบอ้างให้เกิดการประท้วง บีบบังคับให้เธอต้องลุกขึ้นชี้แจงด้วยตัวเอง ไม่อาจใช้ “ตัวช่วย” แบบพร่ำเพรื่อ ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งหากนายกรัฐมนตรี สามารถชี้แจงตอบข้อสงสัยฝ่ายค้านได้อย่างหมดจด ก็จะกลายเป็นแรงส่งให้เธอก้าวผ่านด่านหินนี้ไปได้ยาวๆ แต่เมื่อพิจารณาตามรูปการณ์ พิจารณาจากแบ็กกราวด์ที่ผ่านมาตลอดช่วงเป็นนายกฯ เรื่อยมานาทีนี้ยังมองไม่เห็นทาง ตรงกันข้ามเวทีซักฟอกเที่ยวนี้หากฝ่ายค้านเอาจริง น่าจะกลายเป็น “จุดตาย” มากกว่า !!


กำลังโหลดความคิดเห็น