กม.เครื่องดื่มน้ำเมาผ่านสภาฯ ปลดล็อกโฆษณาเหล้า-เบียร์ได้ ปชน.ห่วงปม ให้จนท.ใช้ดุลพินิจตักเตือน-ปิดสถานที่ อาจเปิดช่องให้คอร์รัปชั่น
วันนี้ (19 มี.ค. 68 ) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ ... พ.ศ. ... ที่ทางคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว จำนวน 38 มาตรา ในวาระ 2 และวาระ 3 หลังจากเปิดให้สมาชิกอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกได้อภิปรายและลงความเห็นเรียงตามรายมาตรา ส่วนใหญ่เห็นตามที่ กมธ.ฯ แก้ไข โดยช่วงหนึ่งนายจุลพงษ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ได้อภิปรายเป็นห่วงในประเด็นการให้อำนาจเจ้าหน้าพนักงานในการใช้ดุลพินิจในมาตรา 34 ที่ กมธ.ฯ ได้เพิ่มเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจในการตักเตือนผู้กระทำความผิดและสั่งปิดสถานที่ โดยมองว่าจะทำให้เป็นการเปิดช่องโหว่ให้มีการคอร์รัปชั่น โดยให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจตักเตือนแทนที่จะสั่งปิด เป็นการให้ดุลพินิจมากเกินไป ก่อนตั้งคำถามว่าหากมีเจ้าหน้าที่ที่มีจิตใจต้องการโกงก็จะขอตักเตือนแลกกับเงินหนึ่งหมื่นบาทแทนการสั่งปิด เชื่อว่าผู้ประกอบการต้องยอมจ่ายเพราะหากโดยปิดจะรุนแรงกว่านี้ เขียนมาแบบนี้เพื่ออะไร เข้าใจว่าต้องการผ่อนสั้นผ่อนยาว แต่การเขียนเช่นนี้เปิดช่องว่างใหญ่มาก ตนเสนอให้ตัดออกไปเพราะตอนนี้คอร์รัปชั่นของประเทศไทยตกลำดับลงไปทุกที
ด้านตัวแทนกมธ.ฯ ชี้แจงว่า เป็นการวางอำนาจทั่วไปให้เจ้าหน้าที่ว่าทำอะไรได้บ้าง แต่หลักเกณฑ์และเงื่อนไขยังมีกำหนดไว้ ส่วนการให้ตักเตือนแทนการปิดสถานที่เป็นเพราะเรายกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ให้ปิดสถานที่ได้และหลายหน่วยงานมีความเห็นตรงกันให้นำมาใส่ในกฎหมายฉบับนี้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำได้ลอยๆ โดยไม่มีกฎเกณฑ์แต่ต้องอยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายพิจารณาความกฎหมายอาญา และพ.ร.บ.วิธีบริหารราชการทางปกครองอย่างเคร่งครัด ซึ่งอำนาจในการตักเตือนนั้นต้องอยู่ในขอบเขตการทำงานของเจ้าหน้าที่ตามคณะกรรมการควบคุมฯ เป็นผู้กำหนด ยืนยันว่าเราพยายามไม่ให้มีการคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นแน่นอน
จากนั้นประธานในที่ประชุมได้ให้สมาชิกลงมติว่าจะเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ โดยที่ประชุมลงมติเห็นด้วย 365 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 0 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 3 เสียง รวมถึงได้ลงมติเห็นด้วยกับข้อสังเกตของกมธ.ฯ โดยที่ประชุมลงมติเห็นด้วย 356 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 0 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 5 เสียง
ทั้งนี้ เนื้อหาสำคัญคือ มาตรา 32 ที่ห้ามผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม ซึ่งที่ประชุมสภาได้ลงมติไม่เห็นด้วย 371 เสียง เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง ทำให้เป็นการปลดล็อกและสามารถประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้