นายกฯ ย้ำแก้ PM 2.5 -หมอกควัน-ไฟป่า เป็นวาระแห่งชาติ ชี้เป็นผลจากการบูรณาการของทุกหน่วยงาน ทำค่าฝุ่นลดลงเรื่อยๆ เตือนจากนี้ 60 วันอันตรายต้องเฝ้าระวัง หลังฝนซาลง ยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ ขอประชาชนสบายใจ พร้อมตั้งงบรับมือดีขึ้น
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 19 มี.ค. ที่ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการติดตามการดำเนินงานรับมือและบริหารจัดการสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และผู้เกี่ยวข้อง ต้อนรับ โดยรับฟังสรุปภาพรวมสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 รวมถึงการเฝ้าระวังไฟป่า
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้มาติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ซึ่งปีนี้อาจจะหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ เพราะมีฝุ่นควันที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในประเทศเราผลจากการบูรณาการของทุกหน่วยงาน ทั้งกระทรวงทรัพยากรฯ กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม ทุกฝ่ายช่วยกันจริงๆ ทำให้ปีนี้เป็นปีที่ค่าฝุ่นควันลดลงอย่างมาก รวมกันทั้งประเทศลดลง 16% แต่บางพื้นที่ลดลงกว่า 20 % บางจุดความร้นลดลงหลายเปอร์เซนต์ ถือว่าเป็นแนวโน้มที่กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นจากการทำความเข้าใจกับประชาชน ในพื้นที่เรื่องการเผาและการเกิดไฟป่า และนำกฎหมายที่มีอยู่มาบังคับใช้อย่างจริงจังมากขึ้น และอาศัยการบูรณาการช่วยเหลือกันของทุกฝ่าย ทำให้ฝุ่นควันในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง
“อย่างไรก็ตาม ในช่วง60 วันต่อจากนี้ ปลัดกระทรวงทรัพย์รายงานว่าจะเป็น 60 วันอันตราย ฝุ่นควันจะเยอะหน่อย เพราะฝนที่มีอยู่จะไม่มาจะซาลง จะมาอีกทีช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งฝนเป็นตัวช่วยเรื่องฝุ่น เราได้มีการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ให้ความรู้หัวข้อระมัดระวังตัวต่างๆ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ต้องช่วยดูด่วย โดยเฉพาะกับบุคคลที่จะต้องเจอความเสี่ยงเยอะบริเวณแนวชาย จะต้องสนับสนุนช่วยเหลือเรื่องหน้ากากอนามัย เชื่อว่าทุกหน่วยงานรับผิดชอบดูแลอยู่“นายกฯ กล่าว
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ที่ผ่านมา ครม.ได้อนุมัติงบกลาง 620 ล้านบาท ซึ่งได้รับรายงานจากกระทรวงทรัพย์ฯว่างบกลางที่อนุมัติไปนั้น ทำให้การเกิดจุดความร้อนและการเกิดไฟไหม้ต่างๆลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสำคัญมากและแน่นอนเป็นแพลนที่เราทราบจะเกิดเหตุการณ์ประมาณนี้ ฉะนั้นเราจะวางเรื่องของงบประมาณได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกในปีต่อๆ ไป
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้การติดตามความคืบหน้าในเรื่องฝุ่นควันเนื่องจากเป็นวาระแห่ง ชาติ เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนและรัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉยต่อเรื่องนี้ โดยพยายามทำให้ดีขึ้นในทุกๆเดือน โดยมีกระทรวงทรัพยากรฯเป็นหน่วยงานหลัก ดูแลเรื่องนี้ต่อไปในอนาคต ต้องขอบคุณและต้องประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งในวันนี้ประเทศเราจัดการได้ดีขึ้นแล้ว ประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องมีการคุยและประสานงานระหว่างกันกับหลายประเทศ เพื่อขอความร่วมมือ ขอให้ประชนชนสบายใจว่าเทรนในเรื่องฝุ่น PM2.5 กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ