“สนธิ-ปานเทพ” เผย รัฐบาลตอบแล้ว หลังยื่นข้อเรียกร้องยกเลิก MOU2544 และ JC2544 แต่ไม่ตรงคำถาม บอกเพียงแค่ส่งเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศแล้ว ไม่พูดถึงข้อเรียกร้อง 6 ข้อ จี้ตอบกลับมาใหม่ พร้อมเตรียมเคลื่อนไหวปีหน้า ไปรัฐสภา ตามด้วยกระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (24 ธ.ค.) ภายหลังจากยื่นหนังสือทวงถามถึงนายกรัฐมนตรีกรณี MOU2544 และ JC2544 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาลแล้ว นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้กล่าวกับมวลชนผู้สนับสนุน ว่า สรุปง่ายๆ วันนี้ เราไม่ยอมรับคําตอบของนายกฯ ที่ตอบแบบง่ายๆ เราจึงขอให้เขาให้คําตอบเราอีกครั้งหนึ่งอย่างละเอียดครบถ้วน
“เรื่องที่สอง พวกเราจุดยืนไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิดเดียว เราถามง่ายๆ ว่า ระหว่างมีเอ็มโอยู 2544 กับไม่มีอันไหนจะดีกว่า ผมก็แสดงความเห็นใจข้าราชการมากันหลายฝ่าย กระทรวงการต่างประเทศก็มา สภาความมั่นคงก็มา ทหารก็มา นักการเมืองก็มา
“เอาเป็นว่า ท่านผู้ชมครับ วันนี้เราก็บรรลุวัตถุประสงค์ของเราพอสมควร เดี๋ยวให้อาจารย์ปานเทพพูดให้ฟัง ปีหน้าการเดินหน้าของเราต่อไปทุกเรื่องที่เกี่ยวกับชาติบ้านเมือง จะเดินหน้าต่อไปด้วยมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน โดยมีอาจารย์ปานเทพเป็นประธานมูลนิธิ แล้วเราจะมีที่ปรึกษาหลายท่าน ซึ่งรับปากเราไปเรียบร้อยแล้ว สองท่าน ท่านหนึ่งคือคุณหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ คนหนึ่งคือ อาจารย์คมสัน โพธิคง ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายปกครอง แล้วยังมีที่ปรึกษาอีกหลายคนเข้ามา
“ประเทศไทยไม่ใช่เอ็มโอยู 2544 เท่านั้น ประเทศไทยคือการเอาเท้าขยี้กฎหมาย อย่างเช่น กรณีของชั้น 14 เช่น กรณีของเขากระโดง แล้วที่สําคัญที่สุด กําลังจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในปีหน้า ประเทศไทยจะล่มสลายได้ก็เพราะปัญหาต่างด้าว และคนที่ชักศึกเข้าบ้านเรื่องปัญหาต่างด้าว คือ พรรคประชาชน” นายสนธิ กล่าว
ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กล่าวว่า วันนี้เราได้มายื่นหนังสือ ณ ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาล สํานักงานปลัดสํานักงานนายกรัฐมนตรี วันที่ 24 ธันวาคม 2567 บันทึกไว้ว่ามีพี่น้องประชาชนมาร่วมลงนามทวงถามครบ 15 วัน ในการยื่นหนังสือขอให้เพิกถอน MOU2544 และ JC2544 โดยมีเลขรับหลังสือของรัฐบาลที่ นร 01670005151 โดยมีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด เชื้อคง) ลงมารับเรื่อง
คําถามต่อมาว่าทำไมเราต้องมายื่นหนังสือ เพราะรัฐบาลตอบหนังสือไม่ตรงคำถามที่เราถาม
เราถามไป 6 ข้อ ขอให้รักษาอธิปไตยของชาติ เราขอให้นายกรัฐมนตรีนำเรื่องเข้าสู่ ครม.แล้วลงมติยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ในการทําเอ็มโอยู 2544 และเจซี 2544 เราขอให้เพิกถอนเอ็มโอยู 2544 เพิกถอน เจซี 2544 ให้ยุติการตั้งคณะกรรมาธิการทางเทคนิคระหว่างไทยกัมพูชาใต้ทะเล หรือเจทีซีเอาไว้ก่อน เราขอให้เปิดเวทีสาธารณะ
คำตอบของรัฐบาลบอก ยื่นหนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศแล้ว หากท่านมีเรื่องใดจะร้องทุกข์ให้มาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111
ไม่มีคำตอบอะไรเลยใน 6 ข้อ เราถามไปอย่าง แต่ตอบกลับมาอีกอย่าง แต่นายกรัฐมนตรีบอกว่าเห็นหนังสือแล้วและอ่านหนังสือแล้ว แสดงว่า นายกฯ อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง
สาระสำคัญของวันนี้ สรุปง่ายๆ 2 ประเด็น ผมกล่าวไปอย่างนี้ครับ ข้อที่ 1 ถ้าไม่มีเอ็มโอยู 2544 การเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชาจะเป็นไปตามกฎหมายทะเลสากลที่ให้สัตยาบันที่กรุงเจนีวา ในฉบับปี 1958 และ 1982 ซึ่งบัญญัติเอาไว้ว่า ประเทศสองประเทศที่ประชิดกันหรือมีเขตแดนตรงกันข้ามกันในทะเล ถ้าไม่มีเส้นเขตแดนอื่น ไม่มีการตกลงกันเป็นอย่างอื่น ไม่มีสิทธิทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างอื่น ให้ใช้เส้นมัธยะเท่านั้น คือ เส้นกลาง
ดังนั้น ถ้าไม่มีเอ็มโอยู 2544 ต้องยึดหลักเส้นมัธยะ คือเส้นกลางก็คือเส้นที่เป็นไปตามพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ในปี 2516 ทุกประการ ดังนั้นถ้ายกเลิกเอ็มโอยู 2544 ยกเลิกเจซี 2544 เราจะเจรจาตามกฎหมายทะเลสากล ยึดหลักเส้นมัธยะเส้นเดียวเท่านั้น
ประการที่ 2 เขาชอบพูดว่ายังเป็นแค่กรอบการเจรจาในการตกลง ผมก็เลยนำเรียนในที่ประชุมว่า แล้วพื้นที่พัฒนาร่วมตามเอ็มโอยู 2544 มันทำไมตกลงกันแล้วว่าจะเป้นพื้นที่ด้านทิศใต้ของละติจูด 11 องศาเหนือลงมา รวมพื้นที่ 16,000 ตารางกิโลเมตร ท่านจะยุติแล้วแบ่งปันกันแล้ว ทั้งที่ตรงนั้นมีทะเลและพื้นที่ไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทยอยู่ ไปแบ่งให้เป้นพื้นที่พัฒนาร่วมให้กัมพูชาได้อย่างไร แล้วไหนว่ายังไม่ตกลงกัน แล้วพื้นที่ข้างล่างตกลงกันแล้วหรือยัง ว่าเป็นพื้นที่ของไทยหรือของกัมพูชา เพราะแท้ที่จริงแล้วเป็นพื้นที่ของประเทศไทย
“ประเด็นที่ 3 ที่ ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ แสดงข้อห่วงใยในที่ประชุม คือ เจซี 2544 ข้อที่ 13 รับรองแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ในสนธิสัญญาระหว่างสยาม-ฝรั่งเศส เราถึงสูญเสียพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารไปแล้ว 1 รอบ รอบนี้จะมีแผนที่แนบท้ายสนธิสัญญาฉบับเดิมในทางทะเล มาอ้างเป็นไหล่ทวีป มาอ้างว่าประเทศไทยรับรู้เส้นไหล่ทวีปนี้ ทั้งๆ ที่เป็นเส้นเล็งหาหลักเขตที่ 73 จากยอดเขาสูงสุดบนเกาะกูดกลายเป็นเส้นไหล่ทวีปที่ไม่ชอบธรรม เพราะมันเป็นแค่เส้นเล็ง ไม่ใช่เส้นไหลทวีป
ดังนั้น การที่เอาเอ็มโอยู 2544 มารับรู้เส้นเล็งของกัมพูชาว่าเป็นเส้นไหล่ทวีป เราเห็นว่า ประเทศไทยมีแต่เสียประโยชน์และอาจจะเพลี่ยงพล้ำในเวทีศาลโลก เพราะตามกฎหมายทะเลสากลหากเกิดข้อพิพาท ต้องมีคนกลางตัดสิน แล้วถึงเวลานั้นจะมีเส้นสองเส้น ให้คนกลางตัดสินระหว่างเส้นมัธยะของไทยตามอนุสัญญาเดิม กับอีกเส้นหนึ่งที่ไทยไม่ปฏิเสธในเอ็มโอยู 2544 มา 23 ปี พวกเราจะยอมให้มีใครตัดสินไปเป็นเส้นอื่นได้หรือไม่
การที่จะไม่ให้เขาตัดสินเป็นเส้นอื่น ก็ต้องไม่ให้มีข้อตกลงเป็นอย่างอื่น ก็แปลว่าต้องยกเลิกเอ็มโอยู 2544 เสียก่อน ถ้ายกเลิกมันก็จะเหลือเส้นเดียว คือเส้นมัธยะ ตามพระตามพระบรมราชโองการในหลวงรัชกาลที่ 9
ผมขออนุญาตปิดท้ายว่า พระตามพระบรมราชโองการปี 2516 ได้ถูกกำชับอีกครั้งหนึ่งในปี 2546 อีก 30 ปีต่อมา หลังจากเซ็นเอ็มโอยู 2544 ได้ 2 ปี ก็คือ ส.ค.ส.พระราชทาน ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในปี 2547 ว่า แผ่นดินไทยไม่ได้มีเฉพาะบนบก แต่มีในทะเลตามพระบรมราชโองการ และมีคำพระราชทานอวยพรต่อพสกนิกรชาวไทย นับตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน 2567 21 ปีใช่ไหมครับ ทรงพระราชทานว่า สามัคคีเป็นพลัง คำจุนแผ่นดินไทย”
นายปานเทพ ย้ำว่า ที่รัฐบาลทำหนังสือตอบมา ตอบไม่ตรงคำถาม จึงขอให้ตอบกลับมาให้ตรงคำถาม และตอบกลับมาให้เป็นเรื่องเป็นราว
จำได้หรือไม่นายกฯ บอกว่า พร้อมคุยกับ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล แต่พอถึงเวลา กลับบอกว่าเวทีสาธารณะไม่ต้อง เพราะมีศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์อยู่แล้ว ตกลงนอกจากอ่านภาษาไทยไม่รู้เรื่องแล้ว ยังความจำสั้นหรือเปล่า
“เราก็เลยขอให้ทำหนังสือตอบกลับมา เพราะเราบอกว่าวันนี้ท่านตอบไม่ตรงคำถาม ท่านจะตอบหรือไม่ตอบ เดี๋ยวรอดูผลในปี 2568”
ส่วนจะยกระดับความเคลื่อนไหวหรือไม่ นายปานเทพกล่าวว่า เราได้วางแผนไว้แล้ว ท่าน(รัฐบาล)จะตอบหรือไม่ก็เรื่องของท่าน เหตุการณ์จะพัฒนาไปเอง
“ในปีหน้า 2568 เราจะมีนัดอีก 2 ที่ คือ 1. รัฐสภา และ 2. กระทรวงการต่างประเทศ และสมมติยังไม่คืบหน้าจะถามพี่น้องประชาชน ว่า จะไปกองทัพเรือ หรือไม่ เราก็ทำหน้าที่ของประชาชนให้ดีที่สุด ตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดให้อำนาจและสิทธิของประชาชน” นายปานเทพ กล่าว
ข่าวเกี่ยวเนื่อง
-เปิดหนังสือ “สนธิ” ยื่นทวงถามนายกฯ ปมยกเลิก MOU2544-JC2544 หลังครบ 15 วัน
-“สนธิ” ลั่นสู้กับรัฐบาลโจรต้องรอบคอบ มีขั้นมีตอน สุดซอยแล้วยังไม่รู้จึงจะลงถนน ย้ำสู้ครั้งนี้ต้องชนะลูกเดียว
-“สนธิ” ยื่นแล้ว 6 ข้อเรียกร้องถึงนายกฯ จี้ยกเลิก MOU2544 พร้อม JC2544