“สนธิ” ย้ำ เอ็มโอยู 44 คือ เอ็มโอยูขายชาติ “ทักษิณ” จับมือ “ฮุนเซน” แบ่งปันผลประโยชน์ โดยใช้ “สุรเกียรติ์” ที่อยากเป็น เลขาฯ ยูเอ็น เป็นคนลงนาม ลั่นสู้กับรัฐบาลโจรต้องรอบคอบ เป็นขั้นเป็นตอน อีก 15 วัน จะทวงถามความคืบหน้า พร้อมยื่นประธานสภา ให้เอาผิด สส.- สว.หากไม่ยอมยกเลิก จี้ กต.ยึดมั่นพระบรมราชโองการ หากทำสุดซอยแล้วยังไม่รู้เรื่อง จึงจะลงถนน และสู้ครั้งนี้ต้องชนะลูกเดียว
วันนี้ (9 ธ.ค.) ภายหลังจาก นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อม นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และมวลชนจำนวนหนึ่ง ได้ยื่นหนังสือการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล
โดยผ่าน นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อยกเลิกบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิเส้นไหล่ทวีปราชาณาอาณาจักรไทยกับกัมพูชา (MOU2544) และแถลงการณ์ร่วมระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย กับ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (JC2544) นายสนธิ ได้ให้สัมภาษณเกี่ยวกับแนวทางการเคลื่อนไหวต่อเนื่องหลังจากยื่นหนังสือแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
“พี่น้องครับผมจะตอบคําถามว่า เราจะลงถนนเมื่อไหร่ พี่น้องครับ เวลาเราสู้กับรัฐบาลโจร เราต้องทํางานด้วยความรอบคอบ รอบคอบแปลว่าอะไร
ทําไมเราต้องมาร้องเรียนเรื่องนี้ เพราะเราร้องเรียนแล้วเราก็วางเอาไว้ด้วยว่าถ้าคุณไม่ทําวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ถ้าคุณไม่ทําอันนี้จะเกิดอะไรขึ้น
แล้วเราก็จะร้องเรียนต่อไปที่สภาผู้แทนราษฎร ท่านวันมูหะมัดนอร์ มะทา และ สส.ทุกคน รวมทั้ง สว.ด้วย ชี้แจงให้ฟังว่า ถ้าท่านไม่ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 ท่านก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขายชาติ
เท่ากับว่า เราได้ใส่กุญแจมือพวก สส.ที่สนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ อนาคตข้างหน้า แผ่นดินเปลี่ยนไป ผู้มีอํานาจชุดใหม่เข้ามาก็สามารถจะใช้ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่เล่นงานทางกฎหมายพวก สส.หรือ สว.บางคน ตลอดจนคณะรัฐมนตรีได้ทุกคน ในข้อหาขายชาติ
ไปจนถึงการไปร้องเรียนที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ข้าราชการทุกคนได้สําเนียกรู้ว่า ความจริงที่มีหนึ่งเดียวเช่นพระบรมราชโองการ 2516 นั้น จําเป็นต้องยึดถือให้มั่น
ผมอายุมากแล้ว ท่านผู้ชม นี่คือประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ทําอะไรงวดนี้ต้องทําด้วยความระมัดระวัง สู้ครั้งนี้ ถ้าจะสู้ในที่สุดแล้วต้องชนะลูกเดียว
พ่อแม่พี่น้องครับ พวกแกนนําเก่าๆ พากันพูดบอกว่าผมไม่มีมวลชนแล้ว พวกเรา วันนี้ผมไม่ได้ระดมปลุกระดมพ่อแม่พี่น้องมาเลยใช่มั้ย มากันด้วยใจเลยใช่มั้ย แล้วถ้าถึงเวลาที่จะต้องลงถนนกัน จะมามากกว่านี้พันเท่าหมื่นเท่า
มีนักการเมืองพรรคเพื่อไทย พูดบอกว่า ถ้าเราไม่ตกลงผลประโยชน์แล้วเราจะรบกันหรือยังไง ผมบอกว่า มึงกินยาผิดหรือเปล่าเนี่ย เพราะว่ากูไม่ได้ทะเลาะกับใคร กูถามว่าอันนี้เป็นของกูใช่ไหม ถ้าเป็นของกูแล้วมึงเอาไปได้ยังไง ถ้าเป็นของกูถ้ามึงไม่ฟัง มึงจะมาเอาคืนก็ต้องเจอกัน
บางคนพูดถึงเรื่องเก่าว่าผมเนี่ยเป็นสารตั้งต้นความวุ่นวาย ประเทศไม่เดินหน้าต่อไปเพราะการประท้วงของผม ผมก็จะถามกลับต่อไป ว่าที่กูประท้วง 2548 เนี่ย กูประท้วงใคร ประท้วงเรื่องอะไร
พี่น้องครับผมใช้เวลา 18 ปีในการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ว่าความจริงมีหนึ่งเดียว ให้ทักษิณ ชินวัตร สารภาพผิด บรรจุลงในราชกิจจานุเบกษาว่าได้คดโกงประเทศชาติไปยังไง ความจริงประวัติศาสตร์รอตั้ง 18 ปี
ไอ้พวกปากหมาที่มาเที่ยวว่าผม ผมเข้าใจมันนะ ผมไม่ว่ามัน เพราะว่าเงินเดือนก็กินเงินเดือนของนายมัน ทุกอย่างนายมันให้หมด แต่มันพูดแบบสมองหมาปัญญาควาย
พ่อแม่พี่น้องครับ ใจๆ ไม่ต้องรีบร้อน เราจะทําเป็นขั้นเป็นตอนไป ทําจนกระทั่งสุดขั้นตอน สุดซอยแล้วยังไม่รู้เรื่องก็จะทะลุซอยแม่งเลย
มันบอกว่าสนธิไม่มีมวลชนแล้ว ยังมีอยู่หรือเปล่าพี่น้อง ถึงวันนั้นถ้าจําเป็นต้องออกมาแสดงพลังให้มันทราบ พร้อมไม่พร้อม
ท่านผู้ชมครับ ครั้งนี้ วันนี้ผมจะพูดจบลง แต่ว่าท่านผู้ชมครับ ก่อนจะจบต้องขอชมเชย นกเขา นิติธร ล้ำเหลือ ที่สู้มาตลอด ขอชมเชยคุณหมอวรงค์ ที่อุตส่าห์รวบรวมชื่อตั้งแสนชื่อ
ท่านนายกฯ อุ๊งอิ้ง ครับ ท่านพรรคเพื่อไทยครับ ผมและพวกผมเนี่ยและอีกเยอะในประเทศไทย ทําผิดตรงไหน ที่เรารักชาติ
ทําผิดตรงไหนที่เราไม่ยอมส่งต่อดินแดนที่เป็นของเรา สิทธิอาณาเขตของเราให้กับเขมร เพียงเพราะผู้นําเขมรและนายกฯ ทับซ้อนบางคน มีข้อตกลงกันว่าจะแบ่งผลประโยชน์กัน 50-50 เราผิดตรงไหน
พ่อแม่พี่น้องครับ วันนี้เราได้แสดงพลังให้กับฝ่ายตรงกันข้ามได้เห็นแล้วว่า อย่ามาทะลึ่งกับกู
พี่น้องสื่อมวลชนคงรู้แล้วนะว่าเงื่อนไขการลงถนนผมอยู่ที่ไหน ผมพูดให้ฟังชัดเจนแล้วนะ ทุกอย่างจะมีขั้นตอนของมัน
15 วันให้หลัง เดี๋ยวผมจะมาทวงถามงานนี้ ว่าไปถึงไหนแล้ว ผมอุตส่าห์เปิดโอกาศนะในหนังสือร้องเรียน พี่น้องสื่อมวลชนคงได้เอกสารไปละมั้ง ที่ผมสรุปให้ดู 7 ข้อ
ข้อนึงผมบอกว่าให้เปิดเวทีสาธารณะจะเป็นโทรทัศน์ช่องไหนของคุณก็ได้ จะเป็นช่องเอ็นบีทีที่คุณไปยึดมาแล้ว หรือจะเป็นช่องท็อปนิวส์ที่พวกคุณก็ไปเป็นเจ้าของเรียบร้อยแล้ว ได้ทั้งนั้น แต่เปิดเวทีสาธารณะให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง
คุณมีดอกเตอร์กี่คน จะเป็นดอกเตอร์จากดาวอังคารเอามาให้หมด ของผมมีไม่เกินสองสามคนนําโดยอาจารย์ยิปมันของผม
ผมต้องการให้เปิดเวทีสาธารณะไม่ใช่พวกมึงไปงุบงิบกันในสภา ใช่ไม่ใช่
ด้วยเหตุนี้ผมจําเป็นต้องไปร้องเรียนต่อประธานสภา แล้วพร้อมจะกล่าวโทษไอ้ สส.ที่ให้การสนับสนุนเอ็มโอยู 2544
สรุปก่อนเราจากกันจําเอาไว้ให้แม่น เอ็มโอยู 2544 เกิดขึ้นได้เพราะทักษิณ ชินวัตร จับมือกับฮุนเซน เพื่อแบ่งผลประโยชน์กัน โดยใช้สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ที่กระสันอยากเป็นเลขานุการองค์การสหประชาชาติ เพื่อที่จะร่างเอ็มโอยู 2544 เอ็มโอยู 2544 มันคือเอ็มโอยูขายชาติ
สวัสดีครับ เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ”