“ปานเทพ” ชี้ไม่มีการเจรจาครั้งใดในประวัติศาสตร์ที่ไทยเสียเปรียบกัมพูชามากเท่ากับการเจรจาตาม MOU2544 เพราะผลเจรจาที่ออกมา อย่างดีที่สุดไทยก็ยังต้องแบ่งผลประโยชน์จากพื้นที่ 16,000 ตารางกิโลเมตร ใต้เส้นละติจูด 11 องศาเหนือ ให้กัมพูชาอยู่ดี ทั้งที่ตามหลักกฎหมายทะเลสากลต้องเป็นของไทย 100%
วันนี้(2 ธ.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับ MOU2544 ระหว่างไทยและกัมพูชา ว่า ไม่มีการเจรจาครั้งใดในประวัติศาสตร์ที่ไทยมีแต่เสียเปรียบกัมพูชามากขนาดนี้
ภาพแรก ด้านซ้ายมือสุด เป็นพื้นที่ตามพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศเขตไหล่ทวีปตามกฎหมายทะเลสากลโดยลากจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดของไทยและเกาะกงของกัมพูชา ก่อให้เกิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะในอ่าวไทย 88,194 ตารางกิโลเมตร หรือ 55 ล้านไร่ เป็นของประเทศไทยประเทศเดียว ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน สามารถใช้สิทธิทางทะเล ทั้งอ่าวไทย การท่องเที่ยว การทหาร และทรัพยากรโดยไม่เคยถูกรุกล้ำทางกายภาพจากกัมพูชาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ภาพที่สอง เป็นภาพ MOU 2544 พื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะของไทยตามพระบรมราชโองการ 88,194 ตารางกิโลเมตร กลับหายไปประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตร โดยแบ่งเป็นพี้นที่เหนือละติจูด 11 องศาเหนือขึ้นไปประมาณ 10,000 ตารางกิโลเมตร ให้เจรจาแบ่งเขตแดน ส่วนพื้นที่ใต้ละติจูด 11 องศาเหนือลงมา 16,000 ตารางกิโลเมตร ให้แบ่งผลประโยชน์กันระหว่างไทยกัมพูชา ทั้งๆ ที่เคยเป็นพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมด ทั้งตามกายภาพ ตามกฎหมายทะเลสากล และตามพระบรมราชโองการ
ภาพที่สาม เป็นภาพ MOU2544 ภาพที่ 3 เป็นสมมุติฐานว่ากัมพูชาได้รับผลการเจรจาได้พื้นที่ทางทะเลมากที่สุด ไทยจะสูญเสียพื้นที่ทางทะเลเหนือละติจูด 11 องศาเหนือขึ้นไป จำนวน 10,000 ตารางกิโลเมตรตกเป็นของกัมพูชา ส่วนพื้นที่ด้านใต้ละติจูด 11 องศาเหนือลงมาจำนวน 16,000 ตารางกิโลเมตร กลายเป็นพื้นที่แบ่งผลประโยชน์กันในการพัฒนาร่วมระหว่างไทยกัมพูชา ทั้งๆ ที่เคยเป็นพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมด ทั้งตามกายภาพ ตามกฎหมายทะเลสากล และตามพระบรมราชโองการ
ภาพที่สี่ เป็นภาพ MOU2544 ภาพขวาสุด เป็นสมมุติฐานว่าฝ่ายไทยได้รับผลการเจรจาได้พื้นที่ทางทะเลมากที่สุดตาม MOU 2544 ไทยจะได้เพื้นที่ทางทะเลเหนือละติจูด 11 องศาเหนือขึ้นไป จำนวน 10,000 ตารางกิโลเมตรทั้งๆ ที่เป็นของไทยตามกฎหมายทะเลสากลอยู่แล้ว ส่วนพื้นที่ด้านใต้ละติจูด 11 องศาเหนือลงมาจำนวน 16,000 ตารางกิโลเมตร กลายเป็นพื้นที่แบ่งผลประโยชน์กันในการพัฒนาร่วมระหว่างไทยกัมพูชา ทั้งๆ ที่เคยเป็นพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมด ทั้งตามกายภาพ ตามกฎหมายทะเลสากล และตามพระบรมราชโองการ
จะมีการเจรจาครั้งใดในประวัติศาสตร์ของราชอาณาจักรไทยที่เปลี่ยนหลักการ “สิทธิอธิปไตย” ในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรในอ่าวไทยของราชอาณาจักรไทยที่เสียเปรียบและแตกต่างจากพระบรมราชโองการจนเสียเปรียบขนาดนี้ โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ไม่สนใจแผนที่ตามพระบรมราชโองการอีกด้วย
ถึงเวลาต้องเพิกถอน MOU2544 และ JC2544 แล้วหรือยัง?
ขอเชิญทุกท่านร่วมลงนามถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีแก้ไขการเสียเปรียบของชาติในครั้งนี้ ในเช้าวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 9.00 น. ณ โรงอาหารศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ของทำเนียบรัฐบาล (กพ.) และยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เวลา 10.00 น.