ตั้งแต่เกิดวิกฤตน้ำท่วมในหลาย ๆ จังหวัดของประเทศไทย ที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หนักที่สุดในรอบหลายสิบปี ภาพที่เห็นนอกเหนือจากความเสียหายของบ้านเรือนและทรัพย์สินแล้ว สิ่งที่ทำให้คนไทยใจฟูได้บ้างก็คือ น้ำใจของคนไทยที่ไม่เคยเลือนหาย ไม่ว่าจะเป็น ภาคเอกชน จิตอาสา กู้ภัย หรือมูลนิธิต่าง ๆ ซึ่งต้องยอมรับว่า“มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อการกุศล”คือ 1 ในมูลนิธิไม่กี่แห่งที่นำความช่วยเหลือสู่ผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว จนหลายคนบอกว่า “ทุกครั้งที่เดือดร้อน มูลนิธิธรรมนัสคือ ความหวังของชาวบ้าน“
“มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”ถูกริเริ่มขึ้นโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เขต 1 และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือ “ผู้กองนัส”พี่ใหญ่ในวงการการเมืองที่ สส.หลายต่อหลายคน ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด ให้ความเคารพนับถือ เพราะเล่ากันว่า ผู้กองนัสเข้าถึงง่าย รับฟัง และพร้อมให้ความช่วยเหลือ ถึงแม้จะมาจากคนละพรรค คนละอุดมการณ์ แต่“ผู้กองนัส”ไม่เคยสนใจเรื่องความต่าง เพราะเจ้าตัวพูดอยู่เสมอว่า “เวลาบ้านเมืองมีวิกฤติ เราควรจะสามัคคีกัน”
ทุกครั้งที่บ้านเมืองเผชิญกับวิกฤต อย่าง น้ำท่วม น้ำแล้งดินถล่ม หรือแม้กระทั่ง เหตุโกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟระเบิดในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก–ลก จ.นราธิวาส “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”ก็ไม่เคยนิ่งเฉยต่อความเดือดร้อนของประชาชน แม้บางครั้ง“ร.อ.ธรรมนัส”จะติดภารกิจ แต่ก็ไม่วายที่จะส่งตัวแทนลงพื้นที่ เพื่อไปเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนตลอด แถมไม่ได้ไปตัวเปล่า แต่ยังขนคาราวานของช่วยเหลือ ทั้งของกินของใช้ไปแจกจ่าย พร้อมตั้งโรงครัวชั่วคราว บรรเทาความทุกข์ให้ชาวบ้านอิ่มท้อง และหวังเพียงแค่จะเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่คอยซับน้ำตาให้พี่น้องประชาชนได้บ้าง
แม้ว่า ร.อ.ธรรมนัส จะเป็น สส.จากภาคเหนือ แต่ไม่ใช่ว่าจะดูแลแต่ชาวเหนือ เพื่อหวังผลคะแนนเวลาเลือกตั้งแบบนักการเมืองทั่วไปเท่านั้น ที่ผ่านมา“มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”ลงไปทุกที่ เช่น จังหวัดอยุธยา,ตราด,ยะลา,ขอนแก่น หรือล่าสุดที่ อำเภอแม่สาย และแม่ฮาย ที่สถานการณ์วิกฤตถึงขนาดชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก หน่วยงานต่าง ๆ ไม่สามารถนำอาหารและน้ำดื่มเข้าไปแจกจ่ายได้ เพราะกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก “มูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า”จึงได้ใช้อุปกรณ์โดรนบินส่งถุงยังชีพและอาหารให้ชาวบ้านที่ติดค้างในบ้านน้ำท่วมสูง
ช่วงนี้สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่แม้จะลดลงแล้ว แต่ความเสียหายยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้มหาศาล อย่างเช่น อ.แม่สาย จ.เชียงราย “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”ก็ยังคงตั้งศูนย์บรรเทาทุกข์ โรงครัวชั่วคราว มอบอาหารกล่อง ถุงยังชีพ และน้ำดื่ม อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
รวมถึงยังต้องคอยเฝ้าระวังน้ำจากแม่น้ำที่อาจจะล้นทะลักได้ และมีเสียงแว่วมาจากคนพื้นที่ว่า ร.อ.ธรรมนัส ควักเงินส่วนตัวระดมรถบรรทุก 6 ล้อมาช่วยขนดิน เพื่อเร่งทำแนวคันดินกั้นน้ำ ป้องกันน้ำจากแม่น้ำสายไม่ให้ลันทะลักเข้าพื้นที่ในอนาคต
นอกจากนี้ “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนเฉพาะปัญหาอุทกภัยเท่านั้น แต่ยังดูแลไปถึงปัญหาความยากจน ที่บางครอบครัวเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ ร.อ.ธรรมนัส ก็เข้าไปเยียวยา มอบข้าวของเครื่องใช้ เงินทุน และสนับสนุนให้ทุนการศึกษา โดย “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”รับอุปการะค่าเล่าเรียนของเยาวชนจนกว่าจะจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีอีกจำนวนมากด้วย