xs
xsm
sm
md
lg

“สภาพัฒน์” กังวลงบกลาง 5.9 พันล้าน “30 บาท รักษาทุกที่” แนะ สปสช.คุมหน่วยบริการร่วม อาจซ้ำซ้อนรับงบฯค่าเหมาจ่ายรายหัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สภาพัฒน์” ตั้งข้อสังเกต มติ ครม. 5.9 พันล้าน งบกลาง สนองโครงการ “30 บาท รักษาทุกที่” ประเด็น ให้ “ผู้มีสิทธิ” รับบริการหน่วยสาธารณสุขพื้นฐานใกล้บ้าน กรณีไม่ได้ลงทะเบียน หวั่นเกิดการซ้ำซ้อนสนับสนุนงบประมาณ จนกระทบการจัดบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพ กรณี “หน่วยบริการเดิม” ได้ลงทะเบียนไว้ ไม่ต้องจัดบริการแก่ผู้มีสิทธิรายนั้นๆ แต่ยังได้รับงบฯ ค่าเหมาจ่ายรายหัว ตามระเบียบจ่ายงบกลาง แนะ สปสช.หาแนวทางจัดสรรงบฯที่เป็นการรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ในการจัดบริการร่วมกัน ระหว่างหน่วยที่ผู้มีสิทธิลงทะเบียนไว้ตามสิทธิฯ และหน่วยบริการอื่น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ

วันนี้ (20 ก.ย.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าภายหลัง คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบกลาง จำนวน 5,924 ล้านบาท รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น (กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)

จากที่เสนอ 7,100 ล้านบาท สำหรับโครงการ 30 บาท รักษาทุกที่ ตามนโยบายรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

พบว่า สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ได้มีความเห็น การอนุมัติงบประมาณดังกล่าว เพื่อเป็น ค่าใช้จ่ายจัดบริการสาธารณสุขในหน่วยบริการอื่นที่นอกเหนือจากโรงพยาบาลที่ได้ลงทะเบียนไว้ตามสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

และการจัดบริการในหน่วยนวัตกรรมบริการสาธารณสุขพื้นฐานใกล้บ้านจํานวน 8 ประเภท อาทิ ร้านยาชุมชนอบอุ่น คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกพยาบาล คลินิกแพทย์แผนไทย ซึ่งสถานบริการได้จัดบริการจริงและสํารองค่าใช้จ่ายในการจัดการบริการเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ การขออนุมัติ สํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น พ.ศ. 2562 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบด้วยแล้ว

อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ มีข้อสังเกตว่า การที่ผู้มีสิทธิไปรับบริการที่หน่วยบริการอื่น ที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้ หรือหน่วยบริการสาธารณสุขพื้นฐานใกล้บ้าน

ขณะที่หน่วยบริการเดิมที่ได้ลงทะเบียนไว้ ไม่ต้องจัดบริการแก่ผู้มีสิทธิรายนั้นๆ แต่ยังได้รับงบประมาณในการดําเนินงานตามค่าเหมาจ่ายรายหัว งบประมาณดังกล่าวได้ดําเนินการตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง

“รายการเงินอาจก่อให้เกิดการซ้ำซ้อนของการสนับสนุนงบประมาณในการจัดบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้”

สํานักงานหลักประกันสุขภาพ จึงควรพิจารณาหาแนวทางในการจัดสรรงบประมาณที่เป็นการรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ในการจัดบริการร่วมกันระหว่างหน่วยบริการที่ประชาชนได้ลงทะเบียนไว้ตามสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

และหน่วยบริการอื่นภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อให้เกิด ประสิทธิภาพในการดําเนินงานในระยะต่อไป

มีรายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข มีข้อสั่งการให้ประชุมบอร์ด สปสช. ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ เป็นวาระด่วนที่สุดเนื่องจากเป็นงบกลาง จึงต้องเร่งโอนเงินให้ทันก่อน 30 ก.ย.นี้

ซึ่ง สปสช.จะต้องดำเนินการเกลี่ยส่วนต่างๆ ที่อาจจะเหลือซึ่งสปสช.มีอยู่ 16 หมวด และหนึ่งในนั้น คือ หมวดผู้ป่วยใน

อย่างไรก็ตาม หากหมวดต่างๆ มีเหลือ มีขาดอย่างไรที่เหลือก็จะเอางบกลางก้อนนี้เข้ามาช่วย


กำลังโหลดความคิดเห็น