อดีต กกต.ตั้ง 4 คำถาม กรณี “เรืองไกร” ร้องสอบจริยธรรมนายกฯ เหตุตั้ง รมช.คมนาคม ที่อาจเกี่ยวข้องคดีซื้อเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.กาญจนบุรี ระบุ “เรืองไกร” ชกเข้าเป้าบ้างไม่เข้าเป้าบ้าง แต่กรณีนี้กรรมการข้างเวทีให้คะแนน
วันนี้ (17 ก.ย.) รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ทำไม อ.ชูศักดิ์ จึงฟึดฟัดเกี่ยวกับคำร้องล่าสุดของเรืองไกร
วันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2567 เรืองไกรยื่นคำร้องทางไปรษณีย์ถึง กกต. ว่า การแต่งตั้ง รมช.คมนาคม (นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ) อาจจะมีปัญหาอีกรอบ เนื่องจาก ศาลจังหวัดกาญจนบุรี มีคำพิพากษาจำคุกบุคคลที่ซื้อเสียงและตัดสิทธิการเมือง 20 ปี กรณีการเลือกตั้ง นายก อบจ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2563
คำร้องเชื่อมโยงว่า เป็นการซื้อเสียงให้แก่ผู้สมัครที่ชนะเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. ซึ่งขณะนี้เป็น รมช.คมนาคม
อ่านข่าวผ่านๆ จะนึกว่า รมช.เป็นผู้ซื้อเสียงแล้วถูกจำคุกและตัดสิทธิการเมือง ซึ่งหากคำร้องเขียนอ่อนๆ แบบนี้ ก็ฟ้องกลับได้ แต่ฝีมือการเขียนคำร้องของเรืองไกรคงไม่พลาด แต่เป็นการเชื่อมโยงและตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในเรื่องจริยธรรม คือ มีคนถูกศาลพิพากษาว่าซื้อเสียงให้คุณ ยังไม่ทันที่ กกต.จะมาพิจารณาให้ใบเหลืองใบแดง คุณก็ลาออกจากนายก อบจ.มาดำรงตำแหน่ง รมช. ในสมัยรัฐบาลเศรษฐา และต่อมาถึงแพทองธาร
คำถามจึงมีว่า
1. เมื่อศาลลงโทษจำคุกผู้ซื้อเสียง เหตุใด กกต. ไม่พิจารณาให้มีการเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) หรือ เลือกตั้งใหม่ ตัดสิทธิการเมืองและชดใช้ค่าเสียหายในการเลือกตั้ง (ใบแดง) ต่อ
2. การอ้างว่ามีการลาออกเพื่อมาดำรงตำแหน่ง รมช. ไม่เป็นประเด็นให้ยุติเรื่อง เพราะความผิดเกิดขึ้นแล้ว ถ้า กกต.ยุติเรื่อง ก็ 157 กกต.ได้
3. การลาออกในขณะที่มีคดีในตำแหน่งหนึ่งเพื่อมาดำรงตำแหน่ง รมช. เป็นประเด็นจริยธรรม เรื่องซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่
4. การแต่งตั้งบุคคลมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ของนายกฯ แพทองธาร ในกรณีแบบนี้ จะเข้าข่ายนายกฯ รู้ หรือสมควรรู้ ว่าบุคคลดังกล่าวอาจจะมีปัญหาซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีผลไกลแบบเดียวกับนายกเศรษฐาหรือไม่
เรืองไกร ขยันชก เข้าเป้าบ้างไม่เข้าบ้าง แต่เรื่องนี้ กรรมการข้างเวทีให้คะแนนครับ