"สุทธิพงษ์ "นำทีมเปิด "สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา"ให้เด็กพิเศษ รร.โสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ มั่นใจช่วยเสริมสร้างพัฒนาการครอบคลุมทุกด้านให้ดียิ่งขึ้น แนะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำเป็นต้นแบบสร้างให้ครบทุกศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั่วประเทศ
วันนี้(4ก.ย.)ที่โรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานรับมอบและเปิดสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ โดยมีนายดิสสกร กุนธร ประธานมูลนิธิสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย และรองประธานมูลนิธิสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา นายเจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคพีเอ็มจี ประเทศไทยพม่าและลาว นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และนางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษเข้าร่วม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เรามีคนไทยที่มีความรู้ ความเข้าใจและมีจิตอาสาอย่างประธานมูลนิธิสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ซึ่งท่านได้ศึกษาวิธีการเลี้ยงลูกของสมเด็จย่าที่ท่านเลี้ยงลูกด้วยการให้เล่นอยู่กับธรรมชาติ ให้เรียนรู้ ให้สังเกต ให้ได้มีความสุขอยู่กับดิน น้ำ ต้นไม้ และนำมาประยุกต์ในการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยก็ได้นำองค์ความรู้นี้ไปขับเคลื่อนให้กับท้องถิ่นทั่วประเทศมา 5-6 ปีแล้ว และค้นพบว่าสนามเด็กเล่นสร้างปัญญานอกจากจะส่งผลดีกับเด็กปกติแล้ว ยังส่งผลดีกับเด็กพิเศษ ทางด้านออทิสติก การได้ยิน หรือสติปัญญา โดยค้นพบที่จังหวัดนครสวรรค์ มีเด็กพิเศษที่เรียนอยู่กับเด็กปกติเขาเดินไม่ได้ ไม่กล้าออกกำลังกาย เพราะกล้ามเนื้ออ่อนแรง เมื่อได้มาเล่นสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ก็มีความสุขและวันนี้ก็เดินได้ ผู้ปกครองก็ดีใจ จากนั้นอาจารย์ดิสสกรก็มาช่วยในการที่นำสนามเด็กเล่นสร้างปัญญามาสู่เด็กพิเศษ ซึ่งทางผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆเปิดใจแล้วอยากให้เด็กมีสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง จึงทำให้วันนี้เกิดขึ้น ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย เราร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อนสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา อย่างไรก็ตามความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับเด็กพิเศษที่เราเห็นคือเด็กมีความสุขมาก มีพัฒนาการที่ดี สามารถเรียนรู้เรื่องวิชาการ การใช้ชีวิต การช่วยเหลือตัวเอง การเข้าสังคมได้ดีเพิ่มมากขึ้น สนามเด็กเล่นสร้างปัญญาจึงเหมือนยาวิเศษสำหรับเด็ก ซึ่งก็จะเป็นเครื่องกระตุ้น ปลุกเร้าให้นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 7,849 แห่งทั่วประเทศ ในการที่จะทุ่มเทขยายผล นำเอาสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาไปสู่เด็กในท้องถิ่นทั่วประเทศให้กว้างขวางเพิ่มมากขึ้น วันนี้อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้บริหารของกรมปกครองส่วนท้องถิ่น ก็มาร่วมงานเพื่อที่จะได้สานต่อในการขยายผลสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาไปช่วยพัฒนาเด็กและเยาวชนทั่วประเทศต่อไปให้มากยิ่งขึ้น
ส่วนเรื่องของงบประมาณในการก่อสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า ใช้งบประมาณไม่เยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด ทางกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถให้ตั้งงบประมาณได้สำหรับวัสดุ อุปกรณ์ที่จะเอามาใช้สร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ที่ไม่สามารถหาเองได้ในท้องถิ่น เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็ก ฯลฯ แต่แรงงานเราพยายามขอร้องให้ใช้ความร่วมมือจากผู้ปกครอง จิตอาสาในพื้นที่มาร่วมกันสร้าง ซึ่งงบประมาณเพียง 50,000 บาทก็สามารถสร้างได้ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะ
ปลัดกระทรวงมหาดไทยยังกล่าวถึงอุปสรรคที่ผ่านมาของการดำเนินโครงการสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ว่า อุปสรรคที่สำคัญคือการสื่อสารประชาสัมพันธ์ที่จะให้เห็นความดีงามของสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาเข้าไปสู่การรับรู้ของผู้นำชุมชน กลุ่มผู้ปกครอง ที่ผ่านมาเราใช้ระบบการสมัครใจและบอกเล่าเรื่องราวดีๆ ผ่านการประชุม ผ่านหนังสือทางการ แต่ในแง่ของสื่อมวลชนยังไม่มากเท่าที่ควร จึงอยากให้มีการกระจายข้อมูลและสื่อภาพที่ดีของสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาของโรงเรียนโสตศึกษาฯทุ่งมหาเมฆ ไปถึงผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่านใดมีใจอยากจะให้ลูกหลานมีความสุขและได้มีโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแล้ว ก็ให้ช่วยกันผลักดันให้เกิดการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา อย่างน้อยหวังว่าจะสร้างให้ครบทุกศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั่วประเทศ
"ส่วนตัวเดี๋ยวเกษียณอายุราชการแล้วก็จะไปทำงานในลักษณะจิตอาสาทั้งในเรื่องการบริจาคและชวนมูลนิธิสร้างปัญญาไปคุยกับผู้ปกครองในพื้นที่"
เมื่อถามต่อว่าจะมีการประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้ขยายจำนวนการก่อสร้างสนามเด็กเล็กฯไปตามศูนย์การศึกษาพิเศษอื่นๆเพิ่มเติมหรือไม่ นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า หลังจากวันนี้ กระทรวงมหาดไทยจะทำหนังสือเรียนผู้บริหารของกระทรวงศึกษา โดยนำข่าว ภาพ เสียงและสื่อต่างๆ ส่งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา อย่างไรก็ตามผู้บริหารกระทรวงศึกษาให้ความสำคัญอยู่แล้ววันนี้ก็ได้ส่งตัวแทนมาร่วมการรับมอบสนามเด็กเล่นฯ โรงเรียนโสตศึกษาฯ ด้วย นอกจาก นี้จะมีการทำหนังสือนำเรียนถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัดด้วย เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องดีลูกหลานมีความสุข และเราก็ได้บุญ เมื่อเห็นลูกหลานได้เล่นมีความสุขสนุกสนาน เราก็มีความสุขใจ ตนมั่นใจว่าผู้บริหารทั้งหลายเมื่อได้รับทราบข้อมูลผ่านสื่อในวันนี้จะต้องมีการรีบเร่งทำอย่างแน่นอน
สำหรับโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆเป็นโรงเรียนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน นักเรียนบกพร่องทางสติปัญญา และออทิสติก การดำเนินการจัดสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาครั้งนี้โรงเรียนได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากภาคเอกชน และมูลนิธิสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา โดยใช้งบประมาณรวม 3.3 ล้านบาท สร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในปีมหามงคลเฉลิมทรงเจริญพระชนม์พรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
นายสมพร กล่าวว่าแนวคิดหลักของสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา มาจากอยากให้เด็กได้เล่นในสิ่งที่อยากเล่นซึ่งก็จะสร้างทั้งร่างกาย จิตใจ การอยู่ร่วมในสังคมและสุดท้ายก็จะเกิดปัญญา ที่ผ่านมาทางมูลนิธิฯ มีการดำเนินการในหลายแห่ง แต่ยังมีปัญหาในเรื่องของความเข้าใจที่ผู้บริหารหรือผู้ปฏิบัติไม่เข้าใจว่าสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาเป็นสนามเด็กเล่นที่จะให้คุณประโยชน์อย่างไร
หลายคนก็ยังคิดว่าเป็นสนามเด็กเล่นธรรมดา ทำให้บางที่มีการปล่อยทิ้งหรือเป็นลักษณะทำตามที่นายสั่งก็เสียดาย จึงมองว่าการจะขับเคลื่อนต่อไปต้องมีการทำความเข้าใจกับผู้รับผิดชอบทั้งผู้บริหารเรื่อยมาถึงฝ่ายปฏิบัติว่าประโยชน์ของสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาแท้จริงคืออะไร
อย่างไรก็ตามในส่วนของโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆค่อนข้างโชคดีที่อาจารย์ดิสสกร เข้ามาตั้งแต่เริ่มแรก และผู้อำนวยการโรงเรียนให้ความสนใจครูก็ได้เรียนรู้มาโดยตลอดทุกคนเห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับเด็ก ดังนั้นที่นี่จึงเป็นต้นแบบที่ดีทั้งในแง่ฐานคิดต่างๆและการใช้ประโยชน์ได้จริง ส่วนที่จะมีโอกาสขยายไปยังศูนย์การศึกษาพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติมได้อย่างไรก็ต้องแล้วแต่นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ แต่ทางมูลนิธิพร้อมที่จะสนับสนุนทั้งในแง่วิธีคิดองค์ความรู้และงบประมาณในบางส่วน
"สิ่งสำคัญวันนี้คือทำอย่างไรให้ผู้บริหารเชิงนโยบายเห็นถึงประโยชน์และผลักดันสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาแต่การจะผลักดันก็ต้องทำอย่างมีคุณภาพใช้คุณภาพนำไม่ใช่ใช้ปริมาณนำปัญญา"