“สมศักดิ์” นำทีม “เพื่อไทย” เปิดตัวส่ง “จเด็ศ จันทรา” สู้ศึกเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 พร้อมปลุกยักษ์หลับผงาดสู่หัวเมืองภาคเหนือตอนล่าง
วันนี้ (23 ส.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดพิษณุโลก พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ สส.สระแก้ว เขต 3 และ นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค รวมถึง สส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ร่วมเปิดตัวให้กำลังใจ จเด็ศ จันทรา ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรค และอดีตผู้สมัคร สส.พิษณุโลก เขต 3 พรรคเพื่อไทย
ในช่วงเช้า นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ และ นายจเด็ศ เข้าสักการะพระพุทธชินราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองจังหวัดพิษณุโลก ที่บริเวณวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร และไปกราบสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นสิริมงคลในการเลือกตั้งซ่อม ก่อนจะเดินทางต่อมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดพิษณุโลก
นายจเด็ศ เปิดเผยว่า ได้เสนอตัวลงรับสมัครเลือกตั้งซ่อม เพราะมั่นใจว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาจังหวัดพิษณุโลกที่เป็นเหมือนยักษ์หลับให้ตื่นขึ้น ทั้งการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ ต้องทำให้คนทราบว่าพิษณุโลก คือ เมืองหลวงของภาคเหนือตอนล่าง ยอมรับว่า เรื่องของเวลาในการหาเสียงเป็นปัญหา แต่จะมุ่งมั่นและทำอย่างเต็ม โดยจะลงให้หนักมากขึ้น หวังว่า ชาวพิษณุโลกจะสนับสนุนในฐานะคนรุ่นใหม่มาช่วยกันพัฒนาบ้านเกิด
นายสรวงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องการพัฒนาจังหวัดพิษณุโลก โดยเสนอนายจเด็ศเข้าแข่งขัน ถือว่าเป็นคนหนุ่ม ขยันลงพื้นที่มาโดยตลอด ยืนยันว่า มีความพร้อมและตั้งใจที่จะปลุกยักษ์หลับให้เป็นเมืองสำคัญ ซึ่งต้องขอบคุณ สส.เจ้าของพื้นที่ในจังหวัดพิษณุโลกทั้งสองคน ที่เวลานี้ก็พร้อมจะทุ่มเทช่วยพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราสามารถพัฒนาจังหวัดพิษณุโลกให้เป็นหัวเมืองใหญ่ โดยใช้คนที่มีความสามารถและพร้อมทุ่มเท เวลานี้เห็นจุดอ่อนจุดแข็งของจังหวัด ต้องพัฒนาจุดอ่อนให้ดีขึ้น ยืนยันได้ว่าเจด็ศเป็นคนขยัน เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ก็ลงพื้นที่ต่อสู้มาโดยตลอด จึงพิสูจน์แล้วว่าทำหน้าที่ได้ดี อยากขอประชาชนสนับสนุนคนหนุ่มที่มีความสามารถและพร้อมทุ่มเทให้กับคนจังหวัดพิษณุโลกเข้ามาทำงานในครั้งนี้
สำหรับ จเด็ศ จันทรา เคยลงรับสมัครเลือกตั้ง สส.พิษณุโลก เขต 3 พรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2566 โดยได้คะแนนมาในลำดับที่สอง คือ 21,969 คะแนน ห่างที่ 1 เพียง 796 คะแนนเท่านั้น